|
“Vincenzo” เป็นละครทางช่อง tvN ที่ได้รับความนิยมอย่างมา บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับทนายความมาเฟียชาวอิตาลีชื่อ Vincenzo Cassano รับบทโดย ซงจุงกิ (Song Joong Ki) ซึ่งเดินทางไปเกาหลีหลังจากถูกองค์กรหักหลังและร่วมมือกับทนายความ ฮงชายอง รับบทโดย จอนยอบิน (Jeon Yeo Been) เพื่อหาทางกำจัดคนชั่ว
จอนยอบิน กล่าวถึงละครเรื่องดังกล่าวว่า “กองถ่าย 'Vincenzo' เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นค่ะ แม้ว่าจะไม่มีกำหนดการถ่ายทำ คุณก็ยังไปเยี่ยมคนอื่นที่กองถ่ายได้ ทุกคนรักละครเรื่องนี้และเราก็พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันค่ะ ซงจุงกิ ในฐานะตัวละครหลักของ 'Vincenzo' เขาเป็นเหมือนแสงแดดที่แผ่ไปยังทุกคน และเพราะเขาเป็นเหมือนจุดศูนย์กลาง เราทุกคนจึงมีความสุขมากเลยค่ะ ผู้กำกับ คิมฮีวอน (Kim Hee Won) ก็ให้ความแข็งแกร่งแก่เราเช่นกัน ทั้งสองคนแบ่งปันความสุขจนพวกเราที่เหลือแทบไม่ต้องพยายามเพื่อให้ตัวเองรู้สึกสนุกเลยค่ะ”
เธอบอกว่าจนถึงตอนนี้นักแสดงในเรื่องก็ยังคงติดต่อกันอยู่ “ฉันได้ไปดูละครเวทีของ คิมยอจิน (Kim Yeo Jin) ด้วยค่ะ” เธอกล่าว “ฉันรู้สึกสนุกมากที่ได้แสดงกับเธอในละครค่ะ ฉันคิดว่ามันคงจะสนุกกว่านี้ถ้าบทของเธอซึ่งก็คือ ชเวมยองฮี และ ฮงชายอง ทะเลาะกันมากกว่านี้ค่ะ”
จอนยอบิน ที่ปรากฏตัวเป็นนักแสดงรับเชิญในมิวสิควิดีโอของ MSG Wannabe ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่ผลิตเพื่อรายการวาไรตี้โชว์ MBC “How Do You Play?” กล่าวว่า “ฉันเป็นแฟนตัวยงของยูแจซอก (Yoo Jae Suk) ค่ะ และฉันก็เคยร่วมงานกับ อีดงฮวี (Lee Dong Hwi) ในซีรีส์ทาง Netflix เรื่อง 'Glitch' ด้วยค่ะ ฉันบอกกับเขาว่าฉันเป็นแฟนคลับและดีใจที่ได้มาถ่ายทำด้วยกัน มันเป็นการถ่ายทำที่สนุกมากค่ะ วาไรตี้มีกระบวนการที่แตกต่างจากละครหรือภาพยนตร์อย่างมาก เราพูดโดยไม่มีบทซึ่งต้องให้มันไหลไปตามธรรมชาติเหมือนน้ำ ทุกคนที่นั่นตลกจริง ๆค่ะ”
อาชีพการแสดงของ จอนยอบิน เริ่มต้นขึ้นในปี 2015 กับภาพยนตร์เรื่อง “The Treacherous” เธอได้รับการยกย่องจากการแสดงในภาพยนตร์อินดี้เรื่อง “After My Death” ซึ่งนำไปสู่การได้รับบทบาทในละครเรื่อง “Save Me” ต่อมา เธอโดดเด่นด้วยบทบาทนำในละครเรื่อง “Melo Is My Nature” และ “Vincenzo”
นักแสดงสาวกล่าวว่า “ตอนที่ฉันเริ่มแสดงครั้งแรก ฉันรู้สึกว่าฉันเริ่มช้าเมื่อเทียบกับเพื่อนคนอื่น ๆ ค่ะ แต่เมื่อฉันคิดลองคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง ฉันคิดว่ามันไม่ได้สายเลยค่ะ มันเป็นระยะเวลาที่ถูกต้องสำหรับฉันแล้ว ฉันไม่ได้เป็นคนทำอะไรรวดเร็วโดยธรรมชาติอยู่แล้ว ดังนั้นฉันจึงต้องค่อย ๆ ไปทีละขั้นค่ะ ฉันคิดว่าฉันจะเริ่มได้ทันทีเมื่อตัวเองพร้อม และเมื่อไม่นานมานี้ฉันก็คิดได้ว่าไม่มีเวลาที่กำหนดไว้สำหรับงานใด ๆ ของฉันค่ะ พ่อแม่วางใจในตัวฉัน แต่ฉันก็ยังคงสงสัยในตัวเองอยู่เสมอค่ะ ไม่ว่าอย่างไรนี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องผ่านและต้องเดินต่อไป ความอดทนและการต่อสู้กับตัวเองคือการบ้านในชีวิตของฉันค่ะ”