เมื่อไม่นานมานี้ จองโฮยอน (Jung Ho Yeon) นักแสดงหญิงจากเรื่อง Squid Game ได้ร่วมให้สัมภาษณ์กับ STARNEWS ในหลากหลายหัวข้อ ทั้งแผนการของเธอในอนาคต, การได้เจอกับคนดังอย่าง เซ็นเดยา (Zendaya), ปฏิกิริยาของคนในครอบครัวและแฟนหนุ่ม รวมถึงอีกมากมาย

จองโฮยอนยังคงทำกิจกรรมโปรโมทอย่างต่อเนื่อง หลังจากการประสบความสำเร็จของซีรีส์เรื่อง Squid Game เธอเพิ่งเดินทางกลับมาเกาหลีเมื่อไม่นานมานี้ จองโฮยอนเล่าว่า “ฉันกลับมาหลังจากไปอเมริกามาประมาณ 1 เดือน จากนั้นก็ไปปารีสต่อ ด้วยมาตรการการกักตัวใหม่ ทำให้แผนการของฉันจนถึงสัปดาห์ก่อนคริสต์มาสถูกยกเลิกทั้งหมด เพราะว่าแผนการนั้น ทำให้ทีมงานของต้นสังกัดและคนที่ทำงานในกองถ่ายเจอปัญหาเล็กน้อย แต่โดยส่วนตัวแล้วฉันคิดว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ฉันได้หยุดพักหายใจนิดหน่อยค่ะ”
 

เธอเล่าต่อว่า “ที่สหรัฐฯ ฉันไม่มีเวลาแม้แต่จะทานข้าว น้ำหนักฉันเลยลดลงไปเยอะเลย เสื้อผ้าที่ใส่พอดีตอนไปถึงอเมริกาวันแรกตอนนี้หลวมเลยค่ะ เวลา 10 วันหลังจาก Squid Game เข้าฉาย น้ำหนักฉันลดไป 4 กิโลกรัม แต่ตอนนี้ลดลงไปกว่านั้นอีก ตอนที่ไปถึงอเมริกา ตารางงานของฉันยุ่งมาก มีเรื่องหลายเรื่องเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน”

เพราะว่าเธอเป็นนางแบบ ทำให้จองโฮยอนคุ้นเคยกับการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ และตอนนี้เธอเป็นนักแสดงแล้ว จองโฮยอนได้พูดถึงความแตกต่างที่มากที่สุดระหว่างทั้ง 2 อาชีพ “ตอนนี้มีคนหลายคนจำฉันได้ค่ะ ตอนที่ฉันเดินทางไปทำงานในฐานะนางแบบ ฉันไปคนเดียวเลย ไม่มีคนขับรถหรือผู้จัดการ แต่ตอนนี้ฉันเดินทางในฐานะนักแสดง ฉันมีผู้จัดการ คนขับรถ ถึงขนาดมีบอดี้การ์ดแล้วค่ะ แค่ในเวลาไม่ถึงเดือน นั่นแหละค่ะที่ฉันรู้สึกเปลี่ยนไป เพราะว่าฉันเคยไปต่างประเทศด้วยตัวเองมาตลอด เป็นปกติมากที่ฉันจะขึ้นเครื่องบินคนเดียว และหาทางไปโรงแรมเอง แต่ครั้งนี้มีหลายคนที่จำฉันได้ตั้งแต่สนามบินเลย เป็นสิ่งที่ฉันรู้สึกขอบคุณมากค่ะ”

เธอพูดต่อ “ฉันคิดว่ามันน่าทึ่งมาก และยังคิดว่า ‘ฉันคงต้องตอบแทนความสนใจที่ฉันได้รับหน่อยแล้วละ’ ตอนที่โปรโมทในฐานะนางแบบ ฉันมีช่วงเวลาส่วนตัวและเวลาเยอะมากค่ะ แต่ตอนนี้ฉันเป็นนักแสดง ฉันต้องแบ่งปันเวลานั้นให้กับคนอื่น นอกจากนั้นแล้ว เพื่อนนางแบบต่างประเทศและเพื่อนร่วมงานต่างแสดงความยินดีกับฉัน และสนใจตลาดเกาหลี แม้ว่าฉันจะเพิ่งมาเป็นนักแสดง และเพิ่งมีผลงานเรื่องเดียว แต่ดูเหมือนชีวิตของฉันทั้งในฐานะนางแบบและนักแสดงหลอมรวมกันไปแล้ว ฉันเลยรู้สึกขอบคุณมากเลยค่ะ”

ในเรื่อง Squid Game จองโฮยอน รับบทเป็น แซบยอก ตัวละครที่แสดงออกถึงอารมณ์เคร่งเครียดอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามระหว่างการสัมภาษณ์ เธอยิ้มแย้มอยู่ตลอด จองโฮยอนบอกว่า “คำถามที่ฉันถูกถามมากที่สุดตอนโปรโมทที่ต่างประเทศคือ ‘คุณแสดงเป็นตัวละครที่แตกต่างจากนิสัยจริงอย่างสิ้นเชิงได้อย่างไร?’ ตอนนั้นฉันตอบไปว่า ‘ฉันเชื่อว่าคนคนหนึ่งมีหลายด้านที่แตกต่างกันไป’ หลังจากตอบไปแบบนั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนแบบไหนค่ะ ฉันกลับไปบ้าน ถามตัวเองว่า ‘ฉันเป็นคนแบบไหนกันแน่นะ?’ ตอนที่ฉันแสดงเป็น แซบยอก ในเรื่อง Squid Game ฉันคิดจริงๆนะคะว่าฉันคล้ายเธอ เวลาที่ฉันไปยังต่างประเทศ และทำงานของตัวเองเงียบๆ ฉันคิดว่าตัวเองคล้ายแซบยอกเลยค่ะ และเพราะเคยเจอเรื่องแบบนั้น ฉันเลยคิดว่าฉันสามารถจะแสดงเป็นแซบยอกได้”

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน จองโฮยอน ได้เข้าร่วมงาน 2021 Council of Fashion Designers of America Awards ซึ่งเธอได้เจอกับนักแสดงสาวเซ็นเดยา และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เซ็นเดยา ได้พูดถึงจองโฮยอน ในงานแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่อง Spider-Man: No Way Home และบอกว่าพวกเธอ 2 คนมีอะไรเหมือนกันหลายอย่าง เมื่อถามว่าตอนที่ได้เจอกัน พวกเธอพูดคุยอะไรกันบ้าง จองโฮยอนเล่าว่า “ตอนที่ได้เจอกับเซ็นเดยา รู้สึกบรรยากาศสบายๆมากเลยค่ะ สำหรับฉัน เซ็นเดยาคือคนดังค่ะ เป็นคนที่คงไม่มีวันได้เจอ ฉันเข้าไปทักทายเธออย่างอายๆ แต่เธอเข้ามาหาฉันและเริ่มพูดคุยก่อน ตอนนั้นฉันถึงกับสงสัยว่านี่คือเรื่องจริงหรือความฝัน เซ็นเดยาชวนฉันไปกองถ่าย Euphoria ด้วย และฉันก็ได้ไป เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ไปกองถ่ายหลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำ Squid Game และด้วยความที่ฉันมีอีเว้นท์เยอะมากตอนนั้น ฉันก็คิดว่า ‘ฉันมาทำอะไรที่นี่?’ แต่พอฉันเข้าไปในกองถ่าย Euphoria หัวใจของฉันรู้สึกสงบมากแค่ได้นั่งอยู่ที่นั่น จนฉันคิดว่าฉันต้องรีบกลับไปกองถ่ายเร็วๆแล้วล่ะ”
 

เธอเล่าต่อ “หลังจากดูการแสดงของเซ็นเดยา เราคุยกันตอนเธอทำงานเสร็จ พูดตามตรงเลยว่าเราไม่ได้คุยอะไรกันมาก เราคุยกันว่าเรากินอาหารอะไร ทั้งในชีวิตประจำวัน หรือในกองถ่าย ตอนที่เราคุยกัน ฉันคิดว่า ‘มันมีเหตุผลที่ผู้คนชอบคนคนนี้’ ตอนนี้ฉันอยู่กับเธอ ฉันรู้สึกผ่อนคลาย เธอมีพลังที่ทำให้คนผ่อนคลาย ฉันคิดว่ามันเป็นทักษะที่สำคัญ ฉันคิดว่าเซ็นเดยาคงรู้สึกแบบเดียวกัน ฉันว่าเราเชื่อมต่อกันด้วยสัญชาตญาณค่ะ”

เมื่อถามถึงก้าวต่อไปของเธอ จองโฮยอนบอกว่า “ฉันมีเรื่องที่คิดอยู่มากมายเลยค่ะ ในชีวิตของฉัน ไม่ค่อยมีเรื่องให้ฉันตัดสินใจมากเท่าไหร่ ตอนที่ฉันเป็นนางแบบ ฉันมักจะถูกเลือกเสมอ แทบไม่มีอะไรให้ฉันตัดสินใจเลย หลังจากถูกเลือกแล้ว ตอนนี้มาถึงเวลาที่ฉันจะได้เลือกแล้ว ฉันเริ่มรู้สึกกลัวเวลาที่คิดว่า ‘มันจะโอเคไหมถ้าฉันจะทำอันนั้น?’ ฉันอยากทำออกมาให้ดี และไม่อยากจะถูกเกลียด ฉันมีเป้าหมายส่วนตัว แต่ก็มีความกังวลเยอะแยะ ฉันยังรู้สึกว่าฉันกลายเป็นคนโง่ที่ไม่สามารถตัดสินใจอะไรได้เลยค่ะ”

จองโฮยอนพูดต่อ “นี่คือเหตุผลที่ฉันเอาแต่ถามคนรอบข้างอยู่บ่อยมาก ฉันถามรุ่นพี่, ผู้กำกับ และผู้กำกับของบริษัทผู้ผลิต นั่นเป็นวิธีที่ฉันหาคำตอบให้ตัวเองค่ะ แทนที่จะหาบทสรุป ฉันตัดสินใจว่าต้องกล้าหาญ” เธอหัวเราะ ก่อนจะพูดต่อ “ต้นสังกัดของฉันอาจจะไม่ชอบเท่าไหร่ที่ฉันพูดอะไรแบบนี้ แต่ฉันคิดไว้แล้วค่ะว่า ‘ในอนาคต ฉันจะแสดงในโปรเจคที่ไม่ประสบความสำเร็จซัก 5 โปรเจค!’”
 

เธออธิบายต่อ “ถ้าฉันก้าวต่อไปขณะที่อ่านบทละคร ฉันเชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่ฉันจะทำให้หัวใจของคนที่สนใจฉันเคลื่อนที่ไปด้วย ทำให้ตอนนี้ฉันกำลังคิดว่า ‘มาลองกันเถอะ’ แทนที่จะหาตัวเลือกที่ปลอดภัยเพราะเอาแต่คิดว่าฉันต้องประสบความสำเร็จ ฉันได้รับความกล้าหาญจากการจัดลำดับความคิดว่า ‘ต่อให้ไม่ประสบความสำเร็จ ก็ขอพ่ายแพ้อย่างภาคภูมิเถอะ’ ตอนที่ฉันบอกว่าฉันจะไปเป็นนางแบบ และตอนที่ฉันเริ่มต้นการแสดง ฉันทำแบบนั้นโดยไม่มีการคิดรอบที่ 2 สายงานด้านศิลปะไม่มีกฎตายตัวและมันหลากหลายมาก ทำให้ฉันคิดว่าทำตามสัญชาตญาณนั้นดีที่สุด ฉันทำตามความรู้สึกของตัวเอง และถ้ามันออกมาแย่ ฉันก็ต้องมีความกล้าหาญที่จะยอมรับมัน ถ้าฉันเผชิญหน้ากับเรื่องแบบนี้ไปเรื่อย ฉันคิดว่าชีวิตของฉันในฐานะนักแสดงก็จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ฉันคิดว่าตัวเองคือนักแสดงที่เพิ่งเริ่มต้นในสายงานนี้เท่านั้น”
 

แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่ แซบยอก จะกลับมาในซีซั่น 2 ของ Squid Game ผู้สัมภาษณ์ถามจองโฮยอนว่า เธอจะได้ทำงานร่วมกับผู้กำกับ ฮวังดงฮยอก หรือ อีจองแจ (Lee Jung Jae) ที่เพิ่งหันมาจับงานด้านการกำกับหรือไม่ จองโฮยอนหัวเราะก่อนตอบว่า “บอกไม่ได้ค่ะ ฉันไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นตอนนี้ แต่ฉันไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต”

จองโฮยอนได้พูดถึงประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่ฉันรู้สึกตอนที่อยู่ต่างประเทศคือ ฉันเป็นส่วนหนึ่งของคนในยุคที่โชคดี ฉันได้รับประโยชน์จากการที่รุ่นพี่นักแสดงกรุยทางให้ นักแสดงเอเชียหลายคนเป็นคนขยายตลาด ทั้ง แบดูนา (Bae Doona) และ อีบยองฮอน (Lee Byung Hun) ต่างสร้างคอนเนคชั่นด้วยประสบการณ์ตรง ด้วยประสบการณ์ของพวกเขาทำให้ฉันได้รับความช่วยเหลือ นี่เป็นเหตุผลที่ระหว่างการโปรโมท นอกจากทำตามเป้าหมายส่วนตัวของตัวเองแล้ว ฉันยังอยากจะเข้าใจระบบมากขึ้นเพื่อช่วยคนที่เข้ามาทีหลังฉัน ครั้งนี้ฉันได้ถามคำถามมากมายและได้รับความช่วยเหลือจากทั้งคุณ คังดงวอน, แบดูนา และอีบยองฮอน”

เมื่อถามถึงปฏิกิริยาของครอบครัวหลังจากลูกสาวกลายเป็นคนดังระดับโลก จองโฮยอนพูดพร้อมหัวเราะว่า “พ่อแม่ของฉันกังวลค่ะ พวกเขาบอกว่าฉันน่าทึ่ง และพวกเขาภูมิใจ แต่ก็ยังกังวล คนในครอบครัวฉันแทบทุกคนมีเรื่องในกลัวหลายอย่าง ฉันเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะประสบความสำเร็จ พวกเขาบอกให้ฉันระมัดระวังและติดต่อมาเพราะกังวล ถ้าแม่ฉันฝันร้าย เธอจะติดต่อมาเลยค่ะ และถามว่ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นหรือเปล่า ฉันรู้สึกขอบคุณเสมอนะคะ ฉันได้เรียนรู้การเปิดใจจากหลากหลายวิธี”

นอกจากนี้จองโฮยอนยังได้พูดถึง อีดงฮวี แฟนหนุ่มของเธอ เธอเล่าว่า “โอปป้าพูดกับฉันว่าอะไรแล้วนะ? ตอนที่ฉันไปต่างประเทศ เขาบอกว่า ‘แค่กลับมาอย่างปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง’ เขาบอกว่า ‘เรื่องอื่นไม่ต้องไปสนใจ และไม่สำคัญเลย แค่กลับมาแข็งแรงและปลอดภัยก็พอแล้ว’ ทำฉันร้องไห้เลยค่ะ เพราะว่าทุกคนคาดหวังบางอย่างจากฉัน ฉันต้องทำอะไรบางอย่าง ฉันต้องประสบความสำเร็จ พอถูกคาดหวังแบบนั้น ฉันเลยต้องทุ่มเทไปกับงาน แต่ว่าโอปป้าแค่บอกว่ามันไม่เป็นไรถ้าล้มเหลว แค่ร่างกายแข็งแรงก็พอแล้ว”

เมื่อผู้สัมภาษณ์บอกว่า ตอนนี้ชื่อของจองโฮยอน อยู่หน้า อีดงฮวีแล้ว เพราะเธอคือคนดังระดับโลก เธอหัวเราะ จากนั้นตอบอย่างมั่นใจว่า “ลำดับไม่สำคัญหรอกค่ะ และฉันคิดว่าตอนนี้ โอปป้าก็ประสบความสำเร็จแล้ว!”

ที่มา ( 1 )