Crash Landing on You ทำลายสถิติในตอนสุดท้ายของการออกอากาศด้วยเรทติ้งสูงสุด 24.1% และเรทติ้งเฉลี่ย 21.7% ของผู้ชมทั้งหมดจนสามารเอาชนะซีรีส์ยอดนิยมเรื่อง Goblin ที่มีเรทติ้ง 20.5% ไปได้ และซีรีส์เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่มีเรทติ้งสูงสุดในช่องเคเบิ้ลทุกช่องเป็นอันดับ 2 รองจากเรื่อง Sky Castle ในปี 2018 อีกด้วย

แล้วความลับเบื้องหลังความสำเร็จของเรื่องนี้คืออะไรกัน? เราจะมาพูดถึง 5 ปัจจัยที่ทำให้ Crash Landing on You และซีรีส์เรื่องอื่นๆ ก่อนหน้านี้กลายเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมากขนาดนี้กัน

1. นักแสดงนำระดับแถวหน้าที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีทั้งในเรื่องอายุและความนิยม

ซนเยจิน (Son Ye jin) และฮยอนบิน (Hyun Bin) เป็นนักแสดงระดับแถวหน้าที่ได้รับความนิยมมากมายอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนแสดงในเรื่อง Crash Landing on You ทั้งสองคนเป็นที่รู้จักดีถึงการเลือกรับงานแสดงที่โดดเด่น และการที่ทั้งสองคนเคยมีผลงานการแสดงร่วมกันมาแล้วในปี 2018 ในภาพยนตร์เรื่อง The Negotiation ก็ยิ่งทำให้การร่วมงานของพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันมากยิ่งขึ้น

การแสดงที่เข้ากันได้ดีของทั้งคู่, เคมีของทั้งสองคนในจอรวมถึงความดูดีสวยหล่อที่ปฏิเสธไม่ได้ของทั้งคู่ก็ทำให้แฟนๆ ให้ความสนใจกันได้ไม่ยาก

โดยในปี 2004 ซีรีส์เรื่อง Full House ที่แสดงนำโดยเรน (Rain) และซงฮเยคโย (Song Hye kyo) ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์เกาหลีที่ทำให้กระแสซรีส์เกาหลีโด่งดังเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน

ย้อนกลับไปในปี 2010 ฮยอนบินแสดงนำคู่กับฮาจีวอน (Ha Ji won) นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลมากมายจากความสามารถรอบด้านในการแสดงซีรีส์และภาพยนตร์ พวกเขาร่วมงานกันในซีรีส์เรื่อง Secret Garden ซึ่งได้รับความนิยมมากมายและโด่งดังทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ

ฮยอนบินและฮาจีวอนทำได้ดีในการถ่ายทอดบทบาทของพวกเขา ฉากสำคัญในเรื่องก็ถูกนำมาแสดงเลียนแบบโดยคนดังหลายคนในรายการวาไรตี้โชว์และถูกพูดถึงในผลงานอื่นมากมาย ในยุคที่ยังไม่มีสิ่งที่เรียกว่ามีมและโซเชียลมีเดียยังไม่บูมเท่าทุกวันนี้ ฮยอนบินก็ทำให้ภาพที่เขาใส่ชุดสูทสะท้อนแสงกลายเป็นไวรัลไปทั่ว และยังคงความเป็นตำนานไว้จนถึงตอนนี้อีกด้วย

2. ตัวละครตามแบบฉบับซีรีส์เกาหลีที่ประสบความสำเร็จ: ทายาทนักธุรกิจสาวและนายทหารหนุ่มที่ต่างดูดีและเก่งกันทั้งคู่

ปกติแล้วจะมีแค่ตัวละครนำหนึ่งคนในเรื่องเท่านั้นที่ทั้งร่ำรวยและมีอิทธิพล แต่ใน Crash Landing on You นักแสดงนำเป็นแบบนั้นทั้งสองคนเลย โดยผู้กองรีนั้นเป็นในส่วนหนึ่งของครอบครัวที่มีอิทธิพลในเกาหลีเหนือ ในขณะที่ยุนเซรีนั้นเป็นทายาทของตระกูลที่ร่ำรวยและมีห้างสรรพสินค้าเป็นของตัวเองในเกาหลีใต้

และเช่นเดียวกับในซีรีส์ที่มีทายาทเศรษฐีเป็นตัวละครนำ ยุนเซรีก็ได้พาผู้กองรีและทีมสหายผู้กองของเขาไปช็อปปิ้งด้วยบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงินเพื่อที่พวกเขาจะได้แต่งตัวเหมือนชาวโซลมากขึ้น เรียกได้ว่ายุนเซรีเป็นเหมือนเจ้าหญิงยุคใหม่ที่สาวๆ หลายคนอยากจะเป็นเธอที่สวมรองเท้าส้นสูงจาก Manolo Blahnik และผู้กองรีในชุดทหารสุดหล่อก็คือเจ้าชายของเธอนั่นเอง

เสน่ห์ความแมนและความเป็นสุภาพบุรุษของพระเอกที่มากับไหล่กว้างๆ และใบหน้าหล่อเหลาพร้อมกล้ามแขนแข็งแรงเพื่อปกป้องผู้หญิงของเขานั้นแน่นอนว่าเกินจะต้านทานและการันตีความนิยมได้แน่นอน

นอกจากฮยอนบินในบทผู้กองรีแล้ว อีกคนนึงที่น่าประทับใจก็ไม่ใช่ใครอื่นไกลนอกจากซงจุงกิ (Song Joong ki) ที่รับบทบิ๊กบอสในซีรีส์เรื่อง Descendants of the Sun ซึ่งเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอีกด้วย นี่จึงเป็นหลักฐานที่เพียงพอแล้วว่าเหล่าทหารในจอมีเสน่ห์ที่จะทำให้หัวใจคนทั้งโลกเต้นแรงแค่ไหน

3. เรื่องงราวความรักที่ไม่น่าเป็นไปได้

ในซีรีส์เกาหลี เรื่องราวอุปสรรคความรักในชีวิตจริงที่คู่พระนางมักจะได้เจอก็จะมีดังนี้ 1) รักสามเส้าที่คู่แข่งอีกฝ่ายนั้นทั้งน่าชื่นชมและมีเสน่ห์พอๆ กัน ทำให้ผู้ชมเกิดกระแส “ทีมพระรอง” ขึ้น 2) พ่อแม่จอมบงการที่ต่อต้านความรักของทั้งคู่ หรือ 3) ชนชั้นทางสังคมหรือธรรมเนียมที่ทำให้ความรักของทั้งคู่เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะความรักของพวกเขานั้นผิดจากสิ่งที่ถูกถือว่าเป็นธรรมเนียม

คราวนี้พอยิ่งเพิ่มความจินตนาการในเรื่องราวความเป็นไปได้ต่างๆ เข้าไป ก็ยิ่งทำให้เสน่ห์ความโรแมนติกนั้นเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้รูปแบบนี้กลายเป็นรูปแบบตามสากลนิยมและเพิ่มความน่าสนใจให้กับเนื้อเรื่องมากขึ้น แทนที่จะเป็นพลอตที่น่าจะเกิดขึ้นได้ตามความเป็นจริงซึ่งอาจมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ชมบางส่วน (เช่น ผู้ชมที่เคยเจอประสบการณ์เรื่องเดียวกัน) เรื่องราวอุปสรรคความรักที่อาจจะไม่น่าเป็นไปได้และบีบเค้นหัวใจซึ่งมักจะเป็นเรื่องความเป็นความตายมักจะเข้าถึงผู้ชมได้กว้างมากกว่าและมีอะไรให้ผู้ชมได้จินตนาการต่อมากกว่า

ในขณะที่ Crash Landing on You ไม่ได้มีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับเรื่องเกินจริงอย่างยมทูต, นางเงือก, เอเลี่ยน, การเดินทางข้ามเวลาหรือการสลับร่างกัน แต่เรื่องราวเกินจริงที่เรื่องนี้มีให้เห็นก็คือเขตแดนระหว่างประเทศที่แบ่งเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ออกจากกัน ซึ่งในเรื่องนี้ ความรักของผู้กองรีและยุนเซรีนั้นก็อยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นจริงและเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จึงเป็นพลอตที่ทำให้ผู้ชมชื่นชอบและอยากติดตาม

4. ส่วมผสมที่ลงตัวของโรแมนติกคอมเมดี้, แอคชั่นและความน่าตื่นเต้น

Crash Landing on You มีองค์ประกอบครบทุกอย่างเลยทีเดียว ฉากนึงที่ผู้กองรีอยู่ในสวนหลังบ้านและพูดคำพูดดีๆ กับต้นไม้ของเขา แต่วินาทีถัดมาเขาก็ออกไปยิงกับศัตรูเพื่อปกป้องเซรี ท่ามกลางกลิ่นเทียนหอมและกลิ่นกาแฟสดใหม่ ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นช่างอบอุ่นและโรแมนติกถึงแม้ว่าจะมีปัญหามากมายทั้งการทะเลาะกัน, อดีตอันน่าเจ็บปวด, ความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมและแม้กระทั่งข้อจำกัดในเรื่องภูมิศาสตร์อีกด้วย

โดยรวมแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้จะมีเรื่องราวทั้งดีและร้ายที่จะทำให้ผู้ชมเสียน้ำตาได้ทั้งจากความเศร้าและความสุข ซีรีส์ที่โดดเด่นอีกเรื่องหนึ่งที่เรานึกถึงก็คือเรื่อง City Hunter ในปี 2011 ที่สร้างมาจากการ์ตูนและเป็นเรื่องราวที่มีทั้งฉากแอคชั่น, ความน่าตื่นเต้นและความโรแมนติก นำแสดงโดยนักแสดงสุดฮอตอีมินโฮ (Lee Min ho) และพัคมินยอง (Park Min young) ด้วยองค์ประกอบที่เข้ากันได้เป็นอย่างดีเมื่อนำมาทำเป็นซีรีส์ การแสดงของอีมินโฮจึงเป็นที่โดดเด่นจากความสามารถทางการแสดงของเขาที่รอบด้าน และซีรีส์ก็ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติและขายลิขสิทธิ์ไปได้ในหลายประเทศอีกด้วย

5. นักแสดงสมทบคนสำคัญที่น่าจดจำ

นอกจากคู่รักรีรีแล้ว ผู้ชมก็ต่างตกหลุมรักไปกับตัวละครที่เหลือของ Crash Landing on You ด้วย ไม่ว่าจะเป็น นายทหารคิมจูมอค แฟนบอยตัวยงของขเวจีอู (Choi Ji woo) และเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องซีรีส์เกาหลีซึ่งเป็นคนที่แฟนๆ เชื่อมโยงถึงได้มากที่สุด คนต่อมาจองมันบก ทหารเกาหลีเหนือที่ทำหน้าที่ดักฟังโทรศัพท์และถูกคนในหมู่บ้านเรียกว่า “หนู” ซึ่งเขาทำให้เหตุการณ์ในเรื่องที่เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของผู้กองรีพลิกผัน รวมไปถึงพ่อแม่ของผู้กองรี, พ่อแม่ของซอดัน และยังมีเรื่องราวการหักมุมต่างๆ อีกด้วย

นอกจากซีรีส์ที่เกี่ยวกับทหารแล้ว เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนหรือออฟฟิศ, เรื่องราวทางการแพทย์หรือเรื่องราวเกี่ยวกับกฎหมาย รวมไปถึงเรื่องราวของทีมเชฟหรือนักกีฬาต่างๆ ก็ต่างทำให้เกิดเนื้อเรื่องย่อยที่น่าสนใจทั้งสิ้น และยังมีเรื่องราวที่คาดเดาไม่ได้ของนักแสดงสมทบอีกด้วย

ตัวอย่างที่โดดเด่นเลยก็คงเป็นเรื่องแรกในซีรีส์ชุด Reply เรื่อง Reply 1997 ที่ออกอากาศในปี 2012 ซึ่งเป็นการแจ้งเกิดให้กับซีรีส์ทางช่องเคเบิ้ลที่เป็นเรื่องราวของนักเรียนไฮสคูลในช่วงปี 1990 ข่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการเป็นแฟนคลับศิลปิน การเดบิวต์ของวง K-Pop ในยุคแรกๆ และกระแสความนิยมต่อเกาหลีต่างๆ

เรื่องราวย้อนยุคและการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ใน Reply 1997 ที่นำแสดงโดยซออินกุก (Seo In guk) และจองอึนจี (Jung Eun ji) จาก Apink ร่วมด้วยนักแสดงสมทบมากมายที่ประกอบไปด้วยไอดอล K-Pop อย่างโฮย่า (Hoya) อดีตสมาชิกจาก Infinite และอึนจีวอน (Eun Ji won) จาก Sechs Kies วงเกาหลีรุ่นแรก พวกเขาทำให้เกิดความน่าสนใจและพลังที่ทำให้ผู้ชมเข้าใจได้เป็นอย่างดีถึงการเติบโตขึ้นในเมืองปูซานในช่วงปี 1990 ได้เลย