"หมอรัชตะ" ตอบคำถามเปิดใจ ยืนยันขัดแย้งจัดสรรงบบัตรทองไม่เกี่ยวความไม่ลงรอยฝ่ายการเมืองกับฝ่ายประจำ ย้ำไม่เคยพูดจะปลดปลัด สธ. ขอชาว สธ.หนักแน่นอย่าเชื่อข่าวลือ ลั่นตั้งกุนซือไม่ได้เลือกข้าง ส่วนแพทย์ชนบทถ้าไม่ยอมหารือเดินหน้าเขตสุขภาพ พีฟอร์พี จะลงไปพบด้วยตัวเอง
       
       24 ต.ค.  ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความขัดแย้งเรื่องการจัดสรรงบประมาณระหว่างสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชนติ (สปสช.) และ สป.สธ. ที่ถูกมองว่ามาจากปัญหาความไม่ลงรอยกันระหว่างฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ คือ ปลัด สธ.ว่า ตั้งแต่เข้ามารับงานก็ทราบว่า มีความเห็นที่ไม่ตรงกันอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฝ่ายการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นความเห็นต่างกันในเชิงกลไกการจัดสรรเงินมาที่หน่วยบริการ ซึ่ง สธ.อยากให้คล่องตัวมากขึ้น เพื่อช่วยให้การจัดบริการดีขึ้น โดย สปสช.ก็ได้รับฟังในเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยไตรมาสแรก ปี 2558 ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทัน แต่ได้กำชับว่าภายใน 2 เดือน ต้องชัดเจน ซึ่งจากเดิมที่ลงมาหน่วยบริการ 30% ก็เพิ่มเป็น 80% 
       
       เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองไม่สามารถทำงานร่วมกับฝ่ายข้าราชการประจำโดยเฉพาะปลัด สธ.ได้นั้น ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า เรายังทำงานร่วมกันอยู่ ทำงานเพื่อประชาชน ระหว่างฝ่ายที่กำหนดนโยบายและฝ่ายต่างๆก็มาด้วยกัน ย้อนหลังกลับไปในการประชุมกระทรวงทุกคนก็มาพร้อมหน้าพร้อมตา มีการกำหนดนโยบายเชิงปฏิบัติร่วมกัน
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปว่าขณะนี้ไม่มีขั้วอำนาจที่จะส่งผลต่อการเดินหน้าเขตสุขภาพหรือไม่ ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ความเห็นที่แตกต่างย่อมมีเป็นธรรมดา แต่ขั้วอำนาจไม่ควรมีเกิดขึ้นในกระทรวง ไม่ว่าที่ไหนก็มีความเห็นแตกต่างกันแต่จะต้องบริหารความแตกต่างทางความคิดให้ได้ ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์ไม่ใช่ความรู้สึก ต้องสามัคคีร่วมกันทำงานเพื่อประชาชน ความเห็นที่แตกต่างสามารถหารือกันได้
       
       เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา กลุ่มแพทย์ชนบท มีการให้ข่าวถึงความขัดแย้งและข่าวลือว่าอาจจะมีการปลด นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด ศธ.นั้น ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ขณะนี้ข่าวลือใน สธ.เยอะ โดยเฉพาะการให้ข่าวที่ไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงและกระพือไป ขอให้หนักแน่นในการพิจารณาข่าวสารต่างๆ พินิจพิเคราะห์ด้วยจิตใจหลักแน่นรอบด้าน ไม่ใช่ใครปล่อยข่าวอะไรมาก็จะเชื่อไปหมด
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่ปลดปลัด สธ.ใช่หรือไม่ ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ตนไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย อย่างไรก็ตาม เมื่อมาทำงานที่กระทรวงก็ไม่ได้อยู่ข้างใดข้างหนึ่งต้องการมอบสุขภาพดีให้ประชาชนเป็นสำคัญ สิ่งที่จะทำให้เกิดความเชื่อมั่น จะใช้งานเป็นเครื่องพิสูจน์
       
       เมื่อถามถึงกลุ่มแพทย์ชนบทซึ่งที่ผ่านมาคัดค้านนโยบายของกระทรวงฯ และเมื่อจัดให้มีการหารือก็ไม่ยินยอมมาร่วม หากเกิดกรณีขึ้นอีกอย่าง การเดินหน้าเขตสุขภาพ ค่าตอบแทนพีฟอร์พี จะทำอย่างไร ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า คงค้องหารือให้ได้ หากเขาไม่ยินยอมมา ก็จะลงไปพื้นที่เข้าไปหาแทน แต่เชื่อว่าเมื่อเชิญมาหารือก็น่าจะมาร่วม
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า จากที่มีข่าวว่าเกิดความขัดแย้งระหว่าง ปลัดกระทรวงกับตระกูล ส.นั้น ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า เราคิดว่าความเห็นที่แตกต่างมีเป็นธรรมดา ความเห็นผู้ให้บริการ รับบริการ จัดทำนโยบาย เป็นเรื่องที่เห็นไม่ตรงกันได้ เช่น ในการลงพื้นที่ก็ลงมาดูว่ามีข้อติดขัดอย่างไร เราสามารถปรับได้และขอให้เห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
       
       ต่อข้อถามว่า จากที่มีคำถามว่าการตั้งทีมที่ปรึกษาส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแพทย์ชนบทจำนวนมากนั้น ศ.นพ.รัชตะ กล่าวว่า ขอให้ดูองค์ประกอบของทีมที่ปรึกษาจำนวน 19 ท่าน มีความหลากหลายไม่ได้อยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดย 4-5 ท่านเป็น อาจารย์มหาวิทยาลัย 3-4 มาจากอดีตโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป และมาจากภาคสังคม 2 ท่าน รวมทั้งยังมีอดีตปลัดกระทรวง อดีตรัฐมนตรี และภาคเอกชน


ที่มา  http://www.manager.co.th/