ในระหว่างที่จองจุนยองกำลังสร้างความโกรธเคืองแก่ประชาชนทั่วประเทศจากข้อกล่าวหาว่าถ่ายวิดีโอและเผยแพร่อย่างผิดกฎหมาย คำพูดที่ไร้ยางอายของเขาก็ถูกเปิดเผยออกมาเป็นการเพิ่มเติม

อ้างอิงจาก MBN 'News 8' ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ระบุว่า นอกจากการฟ้องร้องของอดีตแฟนสาวเมื่อปี 2016 แล้ว เมื่อปีที่แล้ว จองจุนยองก็เคยถูกสอบสวนจากข้อกล่าวหาเรื่องการซ่อนกล้องด้วย โดยตำรวจที่ได้รับแจ้งข้อมูลลับ ได้เริ่มทำการสืบสวน และตัดสินว่ามีผู้ทำร้ายและผู้หญิงที่เสียหายหลายคน ที่สำคัญ สื่อยังได้เปิดเผยข้อความที่จองจุนยองชวนมาหลับนอนและบอกว่าจะช่วยให้เป็นดาราออกมาด้วย

ในตอนนั้น ตำรวจได้ร้องขอวิดีโอดังกล่าวจากบริษัทกู้ข้อมูลโทรศัพท์มือถือ แต่ทางบริษัทบอกว่าต้องมีหมายจับ ตำรวจจึงได้ยื่นขอหมายตรวจค้นและยึดทรัพย์กับอัยการ แต่อัยการกลับตีกลับคำร้อง ซึ่งตอนที่ถูกฟ้องร้องเมื่อปี 2016 จองจุนยองถูกตัดสินว่าบริสุทธิ์ จึงไม่จำเป็นต้องตรวจค้นและยึดทรัพย์ เป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดความสงสัยเรื่องการสืบสวนที่ไม่สมบูรณ์ของอัยการ

พร้อมกันนี้ก็ได้มีการเปิดเผยรายชื่อสมาชิกในห้องแชทกลุ่มเจ้าปัญหาออกมาด้วย โดยในห้องแชทกลุ่มเจ้าปัญหามีสมาชิก 8 คน ได้แก่

1. จองจุนยอง

2. ซึงรี

3.ชเวจงฮุน

4. นายยูยอนซอก สามีของพัคฮันบยอล และเป็นอดีตประธานบริษัท Yuri Holdings

5. นายคิมจากคลับ MD

6. (A) เพื่อนสนิทของจองจุนยองที่เคยไปออกรายการวาไรตี้ด้วยกัน

7. (B) อดีตพนักงาน YG Entertainment

8. (C) ญาติของสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ป

ส่วนยงจุนฮยอง วง Highlight และอีจงฮยอน วง CNBLUE ที่ถูกกล่าวถึงในเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นสมาชิกในห้องแชทกลุ่มดังกล่าว

แต่ทั้งคู่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการถูกวิจารณ์ได้ โดยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา ยงจุนฮยองได้ประกาศถอนตัวออกจากวง Highlight และกล่าวว่า

"ผมเคยได้รับวิดีโออันอื่นครับ นอกจากนั้น ผมยังได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนั้นอย่างไม่เหมาะสมด้วยครับ การกระทำทั้งหมดนี้เป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรมอย่างมาก และผมก็โง่เขลา ผมคิดถึงแต่ความพึงพอใจของตนเอง โดยลืมคิดไปว่านี่คืออาชญากรรมและเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมาย เป็นความผิดของผมเองที่ไม่สามารถห้ามปรามเรื่องนั้นได้อย่างเด็ดขาดครับ"

อีจงฮยอนก็ยอมรับอดีตที่เคยแชร์และเผยแพร่วิดีโอซ่อนกล้องของจองจุนยอง โดยเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ทางต้นสังกัดได้เปิดเผยว่า

"อีจงฮยอนสำนึกผิดและคิดว่าสมควรแล้วที่ถูกวิจารณ์เรื่องดูวิดีโอใน KakaoTalk การพูดคุยที่ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องเพศและการดูถูกผู้หญิง หากเขามีจิตสำนึกเรื่องเพศที่ถูกต้อง ก็คงจะไม่เฉยเมยต่อเรื่องนี้ และรู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำเช่นนั้น ขออภัยทุกท่านที่คงจะผิดหวังอย่างมากและท่านที่ได้รับบาดแผลจากการพูดคุยที่ไร้ศีลธรรมและจริยธรรมโดยไม่มีความรู้สึกผิด"

เมื่อวันที่ 14 มีนาคม เวลา 10.00 น. จองจุนยองที่เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ได้เข้ารับการสอบสวนกับหน่วยสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติกรุงโซล ในฐานะผู้ต้องหาจากข้อกล่าวหาเรื่องการซ่อนกล้องถ่ายและเผยแพร่วิดีโอร่วมเพศของผู้หญิง 10 คน ตลอดระยะเวลา 10 เดือน ตั้งแต่ปลายปี 2015 เขาปรากฏตัวต่อหน้านักข่าวด้วยสีหน้าซีดเผือด และบอกว่าจะเข้ารับการสืบสวนอย่างซื่อสัตย์ และเอาแต่บอกว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมาเหมือนนกแก้ว

หลังจากเสร็จสิ้นการสืบสวนเป็นเวลา 21 ชั่วโมง จองจุนยองได้กลับมายืนต่อหน้ากล้องของนักข่าวอีกครั้ง และเปิดเผยว่า

"ผมได้ให้ปากคำอย่างตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์ครับ ผมได้มอบโทรศัพท์ทองคำให้และได้พูดทุกเรื่องอย่างตรงไปตรงมาครับ"

โดยตำรวจได้เก็บเส้นผมและปัสสาวะของจองจุนยองเพื่อที่จะตรวจสอบความเป็นไปได้ในการใช้ยาเสพติด และกำลังปรึกษาแผนการร้องขอหมายจับอยู่ในขณะนี้ ซึ่งในวันที่ 15 มีนาคม ก็ได้ยกระดับการตรวจสอบโดยค้นและยึดบ้าน

อีกทั้งความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับตำรวจก็เป็นเป้าหมายในการตรวจสอบเช่นกัน เพราะมีการตรวจพบข้อสงสัยว่า สมาชิกในห้องแชทกลุ่ม 8 คน ได้รักษาความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับ 'อธิบดีตำรวจ' ที่อยู่ในระดับสูง เพื่อปกปิดอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับพวกตัวเอง ซึ่งมีการเปิดเผยออกมาว่า 'อธิบดีตำรวจ' ที่พวกเขากล่าวถึงคือนาย A พ.ต.ท ระดับอธิบดี

อนึ่ง รายการ '2 Days & 1 Night' ทางช่อง KBS 2TV ที่จองจุนยองเข้าร่วมรายการอยู่ ได้ประกาศยุติการผลิตและออกอากาศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ออกมาเมื่อวันที่ 15 มีนาคม โดยทาง KBS กล่าวว่า "ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ในช่วงเวลาของ '2 Days & 1 Night' จะนำรายการอื่นมาออกอากาศแทนชั่วคราว KBS คำนึงถึงผู้ชมที่กำลังรอ '2 Days & 1 Night' ทุกเย็นวันอาทิตย์ และได้พิจารณาแผนการออกอากาศโดยตัดต่อและลบส่วนที่จองจุนยองปรากฏตัวออกมาทั้งหมดในการถ่ายทำเดิมความยาว 2 ตอน แต่ก็เข้าใจความเข้มงวดของคดีนี้ จึงได้ตัดสินใจเช่นนี้เพื่อปรับปรุงรายการทุกด้าน"

และกล่าวขอโทษว่า "KBS ขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่ไม่ได้ดูแลผู้ร่วมรายการอย่างละเอียดถี่ถ้วน และจะเตรียมแผนรับมือป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ที่สำคัญ เรารู้สึกถึงความรับผิดชอบที่หนักอึ้งเกี่ยวกับการยอมรับการตัดสินว่าบริสุทธิ์ของหน่วยงานสืบสวน ทั้งๆ ที่จองจุนยองเคยมีประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ที่คล้ายคลึงกันเมื่อ 3 ปีก่อน และตัดสินใจให้เขากลับมาร่วมรายการใหม่โดยไม่ได้มีการตรวจพิสูจน์อย่างเพียงพอ"

ที่มา : Nate
แปลโดย : http://www.popcornfor2.com