นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ มิน พีชญา โพสต์ ภาพกระเป๋าแบรนด์ดังบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค ว่า ขณะนี้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรสนามบินดอนเมือง ทำหนังสือเชิญ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี เข้ามาให้ข้อมูลในกรณีดังกล่าวแล้ว โดยกรมศุลกากรจะมีการตรวจสอบว่าภาพกระเป๋าแบรนด์ดังเสียภาษีศุลกากรถูกต้องหรือไม่ หากพบว่ากระเป๋าดังกล่าวลักลอบนำเข้ามาและยังไม่มีการเสียภาษีให้ถูกต้อง ก็จะต้องเสียค่าปรับและภาษีนำเข้าให้ครบถ้วน

ทั้งนี้ ปัจจุบันภาษีศุลกากร จะเรียกเก็บจากสินค้านำเข้า หากพบว่าลักลอบนำเข้ามา จะต้องเสียค่าปรับและเสียภาษีนำเข้า โดยจะใช้มูลค่าการนำเข้าหรือจำนวนของสินค้าเป็นฐาน คำนวณตามหลักเกณฑ์ ราคาซีไอเอฟ ที่ประกอบด้วย ราคาของสินค้า รวมกับค่าขนส่งและเบี้ยประกัน ซึ่งมีอัตราอยู่ที่ 60% เมื่อได้ภาษีตามมูลค่าแล้ว จะต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 7% อีกด้วย หากคำนวณบนพื้นฐานของราคา 1 ล้านบาท จะต้องเสียค่าปรับและภาษีอยู่ที่ 670,000 บาท

นายกุลิศ กล่าวอีกว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรมีประสิทธิภาพไม่เลือกปฏิบัติหรือปล่อยปละละเลย ซึ่งจะใช้การบริหารความเสี่ยง เพราะแต่ละวันไม่สามารถเรียกตรวจสอบได้ทุกราย เนื่องจากการเดินทางเข้าประเทศผ่านสนามบินดอนเมืองในแต่ละวันมีประมาณ 30,000 ราย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องบริหารความเสี่ยงด้วยการเรียกสุ่มตรวจ ซึ่งจะดูจากประเทศต้นทางว่ามีความเสี่ยงหรือไม่ โดยยืนยันว่าที่ผ่านมาจับกุมอยู่สม่ำเสมอแต่ไม่ได้เป็นข่าว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงต้องสอบถามรายละเอียดอีกครั้ง เพราะหากไม่รู้จักจริงๆ ก็อาจไม่ทราบว่าบุคคลนั้นเป็นดาราหรือนักแสดง

“กรมศุลกากรยืนยันว่ามีหลักเกณฑ์ในการจัดเก็บภาษีที่เป็นระบบอยู่แล้ว โดยกรณีนี้หากพบว่าน.ส.พีชญา วัฒนามนตรี กระทำผิดจริงจะถูกขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) ของกรมศุลกากรไว้ เมื่อเกิดการเดินทางอีกเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรจะดำเนินการตรวจสอบทุกครั้งที่เดินทางว่ามีสิ่งของที่ไม่ได้เสียภาษีถูกต้องหรือไม่”อธิบดีกรมศุลกากร กล่าว

ที่มา  ข่าวสดออนไลน์