เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

สธ.ประกาศชัด ยกระดับยาผสมสารซูโดฯ มีผลรุนแรงเทียบเท่ายาเสพติด หากใครมีไว้ครอบรอง เตรียมรับโทษจำคุกสูงสุด 5-20 ปี และปรับเงิน 1-4 แสนบาท ย้ำ ร้านขายยาต้องส่งคืนผู้ผลิต ห้ามเก็บของไว้

วันนี้ (4 เมษายน) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการควบคุมยาสูตรผสมสารซูโดอีเฟดรีนว่า ล่าสุด ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข 2 ฉบับ ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปดังนี้

1. กำหนดให้สารซูโดอีเฟดรีน เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 นั่นคือ เป็นยาที่มีศักยภาพในการก่อให้เกิดการใช้ในทางที่ผิดสูง มีอันตรายต่อสุขภาพมาก มีการใช้ในทางการแพทย์อยู่ในวงจำกัด

2. หากผู้ใดที่ไม่ใช่กระทรวงสาธารณสุข หรือไม่ใช่ผู้ที่ได้รับใบอนุญาต มียาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนไว้ในครอบครอง จะมีความผิด โทษจำคุก 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 2 หมื่น-1 แสนบาท แต่หากคำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วมีปริมาณเกิน 5,000 กรัม ต้องโทษ จำคุก 5-20 ปี และปรับ 1-4 แสนบาท

โดย น.พ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เตือนว่า หลังจากมีการลงนามลงในราชกิจจานุเบกษา 30 วัน ร้านขายยาและคลินิกที่ยังมียาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกชนิด จะต้องส่งยาทั้งหมดคืนให้กับบริษัทผู้ผลิต และนับจากนี้ไป ผู้ที่จะใช้ยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกสูตร ต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 เท่านั้น โดยในวันนี้ อย.จะมีการประชุมเพื่อชี้แจงบริษัทผู้ผลิตยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทั้งหมด

ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนคดียักยอกยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ และอีกหลายพื้นที่นั้น นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีดีเอสไอ เผยว่า ขณะนี้ดีเอสไอได้ประสานงานกับทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เข้าร่วมตรวจสอบเม็ดยา และของกลางที่พบจากสถานที่ต่าง ๆ แล้ว โดยให้เก็บหลักฐานอย่างละเอียด เช่น การเก็บลายนิ้วมือแฝง และการเก็บดีเอ็นเอที่ติดอยู่บนฟอยล์ยา เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับผู้ต้องสงสัย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป

ข้อมูลจากกระปุกดอดคอม