เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้

          ล่าหนุ่มไนจีเรียแสบ หลอกตีสนิทสาวผ่านเน็ต ก่อนล่อลวงไปข่มขืน แล้วกักขังตัวไว้ เพื่อฝึกให้กลืนยาเสพติด เพื่อส่งเข้าอเมริกา
 
          เมื่อ เวลา 15.30 น. ของวานนี้ (19 พฤศจิกายน) ร.ต.อ.สมบัติ สืบศรี ร้อยเวร สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งว่ามีผู้ถูกกักขังภายในห้องเช่าแมนชั่นแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวนและมูลนิธิร่วมกตัญญูเดิน ที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 6 พบประตูห้องถูกล็อกจากด้านนอกเจ้าหน้าที่จึงใช้คีมตัดเหล็กตัดกุญแจห้องเข้า ไป พบ น.ส.จอย (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ถูกขังอยู่ภายในห้อง จึงเข้าให้การช่วยเหลือ
 
          เบื้องต้น น.ส.จอย ให้การว่า ตนทำงานเป็นแม่ข่ายของศูนย์วิทยุพระยาอินทรี และได้รู้จักกับนายแม๊กซี่ หนุ่มชาวไนจีเรีย ทางอินเทอร์เน็ตในเว็บไซด์หาคู่ และคุยกันทางอินเทอร์เน็ตอยู่ระยะหนึ่ง จากนั้นนายแม๊กซี่ได้ชวนตนทำธุรกิจทัวร์ต่างประเทศ ซึ่งตนก็เห็นดีด้วยเพราะอยากจะเดินทางไปเยี่ยมพ่อที่ไปหาทำงานอยู่ที่สหรัฐ อเมริกา จึงนัดพบเพื่อพูดคุยธุรกิจกับนายแม็กซี่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านบาง นา เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยนายแม๊กซี่ได้ให้ความหวังกับตนว่าจะพาไปหาพ่อที่อเมริกา  และชักชวนตนมาที่ห้องพักที่เกิดเหตุ ก่อนลงมือข่มขืน และขังตนให้อยู่ในห้องเพียงลำพัง
 
          วัน ต่อมานายแม็กซี่ได้เดินทางมาหาตนที่ห้องอีกครั้ง พร้อมบังคับให้ตนทดลองกลืนผงแป้งข้าวจ้าวที่หุ้มด้วยถุงยางอนามัย เพื่อดูว่าตนจะกลืนได้มากน้อยเพียงใด และบอกกับตนว่าจะให้กลืนก้อนโคเคนแล้วพาไปพบพ่อที่อเมริกา โดยให้ตนหัดกลืนทุกวัน วันไหนตนไม่ยอมทำก็จะถูกนายแม็กซี่ทุบตี และจับหัวโขกกับพื้นจนฟันหน้าหัก
 
          นอกจาก นี้ นายแม๊กซี่ยังได้ยึดเอาโทรศัพท์มือถือและเอกสารประจำตัวไปทั้งหมด พร้อมแจ้งว่ากำลังเร่งทำพาสปอร์ต เพื่อพาตนไปประเทศอเมริกาภายในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ โดยบอกเพียงว่า พอถึงสนามบินจะมีคนมารับ โดยที่ตนจะได้เงินเที่ยวละ 60,000 บาท เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว
 
          น.ส.จอ ย กล่าวต่อว่า ตั้งแต่ตนรู้ว่าต้องเข้าไปอยู่ในขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ตนก็พยามยามหลบหนี โดยเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือและยัดใส่ขวดน้ำพลาสติกโยนลงมาด้านล่าง เผื่อมีคนเก็บไปอ่าน และเขียนกระดาษขอความช่วยเหลือว่าตนโดนจับมาขัง สอดออกมาทางช่องใต้ประตู แต่ก็ไม่มีใครสนใจ แม้กระทั่งทุบประตูและตะโกนขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครช่วย เพราะคิดว่าเป็นเรื่องสามี ภรรยา จนกระทั่งในวันนี้นายแม๊กซี่ได้ลืมโทรศัพท์ไว้ในห้อง ตนจึงแอบโทรศัพท์ไปที่มูลนิธิที่รู้จักกันเพื่อให้ช่วยแจ้งเจ้าเหน้าที่ ตำรวจมาให้การช่วยเหลือ
 
          ทั้ง นี้ เจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน และจะได้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมนายแม็กซี่ หนุ่มชาวไนจีเรีย รายนี้มาดำเนินคดีในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่มิใช้ภรรยาตนเอง และกักขังหน่วงเหนี่ยว  และจะได้ขยายผลในเรื่องการค้ายาเสพติดข้ามชาติเพื่อประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเข้าทลายแก๊งส่งยาเสพติดข้ามชาติรายนี้ต่อ ไป

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม