โรค มือชา อาการนี้อาจเกิดกับคุณ?
2012-09-26 12:57:02
Advertisement
คลิก!!!

มือชา
มือชา



โรคมือชา อาการนี้อาจเกิดกับคุณ? (กรุงเทพธุรกิจ)

        อาการชา เป็นปัญหาให้เกิดความวิตกกังวล และไม่สบายใจกับผู้ที่ประสบ เกรงว่า อาการชาจะกลายเป็นอัมพาตอัมพฤกษ์ บางคนเครียดจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ

        อาการของ มือชา - การกดทับเส้นประสาทที่ฝ่ามือจะทำให้มีอาการปวดมือ และปวดร้าวขึ้นไปที่แขนมักจะมีอาการชาที่นิ้วมือ โดยเฉพาะที่นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลางและบางส่วนของนิ้วนางตามแนวของเส้นประสาท 

        อาการปวดจะมีมากขึ้นเมื่อมีการใช้งานในลักษณะการเกร็งอยู่นานๆ เช่น การจับมีด กรรไกร การทำงานช่างที่ใช้ค้อนหรือใช้เครื่องมือที่มีแรงสั่นสะเทือนตั้งแต่เครื่องเป่าผมจนถึงเครื่องกระแทกเจาะคอนกรีต มักจะมีอาการปวดในเวลากลางคืนหรือเวลาตื่นนอนตอนเช้าบางรายที่ถูกกดทับอยู่นานๆ จะเริ่มมีอาการอ่อนแรงของมือ เช่น จะรู้สึกว่าไม่ค่อยมีแรงเวลากำมือ โดยเฉพาะการใช้มือหยิบของเล็กๆ จะทำได้ลำบากและมีกล้ามเนื้อลีบที่ฝ่ามือ

สาเหตุและพยาธิสภาพ

        อาการปวดและชาเกิดเนื่องจากมีความดันสูงในช่องอุโมงค์ที่เส้นประสาทลอดผ่านที่บริเวณฝ่ามือ เนื่องจากมีการอักเสบและการหนาตัวของเนื้อเยื่อพังผืดที่คลุมช่องอุโมงค์นี้เกิดการกดทับเส้นประสาท ในรายที่เป็นอยู่มากๆ ก็จะเกิดเนื้อเยื่อพังผืดบางๆ รัดเส้นประสาทอีกชั้นหนึ่ง ทำให้การรักษาด้วยยาไม่ได้ผล

การตรวจวินิจฉัยโรค มือชา

        จะมีอาการปวดแปลบๆ เวลาเคาะที่เส้นประสาทอาจพบมีกล้ามเนื้อลีบ ในบางรายอาจต้องใช้การตรวจระบบไฟฟ้าของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ

ปัจจัยเสี่ยง มือชา และโรคที่เกี่ยวข้อง 

        โรคเบาหวาน

        โรคข้ออักเสบ เช่น รูมาตอยด์ เก๊าต์

        โรคต่อมไทรอยด์บกพร่อง

        ภาวะตั้งครรภ์

        ก้อนถุงน้ำหรือเนื้องอกในช่องอุโมงค์

        กระดูกหักบริเวณข้อมือ

        การใช้งานมือนานๆ

         ภาวะบวมน้ำจากโรคไต โรคตับ

การรักษาโรค มือชา

        ให้หลีกเลี่ยงการใช้งานมือในลักษณะเกร็งนานๆ

        ควบคุมหรือรักษาโรคประจำตัว โดยเฉพาะเบาหวานให้ดี

        การใช้ยาลดอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ชนิดรับประทานมักจะได้ผลดี โดยอยู่ในดุลพินิจของแพทย์

        บางรายอาจต้องใช้อุปกรณ์ช่วยดามข้อมือชั่วคราว

        การฉีดยาสเตียรอยด์เข้าในช่องอุโมงค์จะช่วยอักเสบและบางรายจะหายได้

การผ่าตัด 

        เป็นการรักษาในรายที่มีอาการมากหรือกล้ามเนื้อเริ่มอ่อนแรงหรือลีบลง และไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาและการรักษาด้วยการผ่าตัดทำให้โรคหายขาดได้

        การผ่าตัดจะเป็นการตัดและเลาะพังผืดที่รัดเส้นประสาท ซึ่งเป็นการผ่าตัดเล็กและผู้ป่วยสามารถใช้งานได้ภายใน 2 สัปดาห์ และจะใช้งานได้ตามปกติ ภายใน 4 - 6 สัปดาห์
 

 

 

 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X