วันที่ 12 มกราคม ตัวแทนจากวงการบันเทิงได้แก่ ผู้กำกับ บงจุนโฮ (Bong Joon Ho), อีวอนแท (Lee Won Tae), จางฮังจุน (Jang Hang Jun), นักแสดง คิมอึยซอง (Kim Eui Sung), ชเวด๊อกมุน (Choi Duk Moon) และ นักร้อง ยุนจงชิน (Yoon Jong Shin) ได้จัดงานแถลงข่าวขึ้นที่ Seoul Press Center

ระหว่างการจัดงานประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมและศิลปะ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ประกอบด้วยองค์กร 29 องค์กรของวงการบันเทิง ได้แถลงการณ์ของให้มีการสืบสวนกรณีการเสียชีวิตของนักแสดง  อีซอนคยุน (Lee Sun Kyun) และขอให้มีการวางกฎที่เหมาะสมเพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

แถลงการณ์ขอให้มีการสืบสวนความเหมาะสมและการดำเนินการกฎหมายว่ามีความถูกต้องหรือไม่ระหว่างการสืบสวนการใช้สารเสพติดของอีซอนคยุน, ขอให้สื่อลบบทความที่อ่อนไหวซึ่งเกี่ยวข้องกับอีซอนคยุน และขอให้ประกาศขั้นตอนทางกฎหมายที่ชัดเจนหากมีกรณีแบบเดียวกันเกิดขึ้นอีก 

นักแสดงชเวด๊อกมุนรับหน้าที่พิธีกรในงานนี้ โดยมีวิทยากรได้แก่ ยุนจงชิน, อีวอนแท, คิมอึยซอง, ชเวจองฮวา ตัวแทนสมาคมโปรดิวเซอร์เกาหลี, โกยองแจ จากสมาคมภาพยนตร์อิสระ, ผู้กำกับจางฮังจุน, กวักชินเอ (ตัวแทนบริษัทผลิตภาพยนต์ Barunson และ Women in Film), ยุนจงชิน, ผู้กำกับอีวอนแท, อีจูยอน จากสมาคมตลาดภาพยนตร์เกาหลี และ ชเวจองฮวา ประธานสมาคมโปรดิวเซอร์เกาหลี

แถลงการณ์จากงานประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมและศิลปะ ระบุดังนี้:

“ผมหวังว่าเหตุการณ์โศกนาฏกรรมจะไม่เกิดขึ้นอีกในขั้นตอนการสืบสวนของบุคคลสาธารณที่อยู่ในวงการวัฒนธรรมและศิลปะ

ข้อเรียกร้องจากบุคคลซึ่งเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและศิลปะต่อการเสียชีวิตของนักแสดง อีซอนคยุน:

วันที่ 27 ธันวาคม นักแสดงได้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย 

ตั้งแต่การเริ่มรายงานข่าวในวันที่ 19 ตุลาคม หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้กล่าวว่า

“การสืบสวนกำลังดำเนินไปจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาเสพติดของนักแสดง L”  ซึ่งอ้างข้อมูลมาจากเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจอินชอน จนถึงการฟ้องร้องอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ตุลาคม จากนั้นเป็นเวลามากกว่า 2 เดือนที่เขาเผชิญกับสื่อโดยไม่มีการปกป้องใดใด กระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การทดสอบสารเสพติด และการเก็บตัวอย่างสำหรับการนำไปวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นย้ำ จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงการวิเคราะห์เสียง และการเข้าร่วมให้ปากคำกับตำรวจทั้ง 3 ครั้ง ทั้งหมดถูกไลฟ์ผ่านสื่อตลอด 

ไฟล์บันทึกเสียง ซึ่งยากที่จะตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องและใช้เป็นหลักฐานได้หรือไม่ กลับถูกเปิดเผยต่อสาธารณะผ่านทางสื่อ สุดท้ายหลังจากการเรียกตัวไปสืบสวนครั้งที่ 3 ซึ่งใช้เวลาไปกว่า19 ชั่วโมง เขาได้เลือกเส้นทางที่ยากด้วยการจบชีวิตตัวเองหลังจากขอให้มีการตรวจสอบคำพูดของเขาว่าเป็นความจริงหรือไม่โดยใช้เครื่องจับเท็จ

ดังนั้นเพื่อที่จะแสดงจุดยืนของเราต่อเหตุการณ์โหดร้ายที่เขาเผชิญมาตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา เราชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่เราพอจะทำได้ ดังนี้:
 

1.ขอให้มีการสืบสวนเจ้าหน้าที่ 

เราขอให้มีการสืบสวนอย่างละเอียดว่ามีการแทรกแซงใดใดเกิดขึ้นระหว่างการสืบสวนหรือไม่ ตั้งแต่มีข้อมูลภายในซึ่งเกี่ยวข้องกับการสืบสวนของนักแสดงผู้ล่วงลับถูกเผยแพร่ออกมาจนกระทั่งนำมาสู่การเสียชีวิตของเขาตลอด 2 เดือนระหว่างการสืบสวน 

[เราขอให้มีการสืบสวน] ว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายระหว่างเจ้าหน้าที่ที่ให้ข่าวกับสื่อระหว่างการสืบสวนหรือไม่ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายว่ามีการติดต่อกับสื่อ หรือถูกถามคำถามเกี่ยวกับการสืบสวนจากนักข่าวหรือไม่ เราขอให้มีการสืบสวนเพื่อให้ไม่เกิดความสงสัยและขอให้แถลงผลการสืบสวนต่อสาธารณะ 

นอกจากนี้ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อข้อมูลละเอียดถี่ถ้วนและเจตนาเบื้องหลังของการรายงานข่าวของช่อง KBS เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ที่มีข้อมูลการวิเคราะห์ที่ชัดเจนจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ว่ามีความจำเป้นที่จะนำเสนอข้อมูลเหล่านี้หรือไม่ และวัตถุประสงค์ของการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว และยังมีข่าวที่รายงานเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ตอนที่ผู้ล่วงลับปฏิเสธข้อหาหลังจากเข้าร่วมการสืบสวนข้ามคืนเป็นเวลา 19 ชั่วโมง หลังการเรียกตัวครั้งที่ 3 ว่ามีความถูกต้องหรือไม่

แม้ว่าการทำงานของสื่อระหว่างการสืบสวนนั้นคงจะอยู่ภายใต้ขอบเขตของกฎหมายอยู่แล้ว แต่เราขอให้มีการออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนว่า การกระทำ ที่รวมการเปิดเผยข้อมูลของผู้ล่วงลับในการเรียกตัวสอบสวนทั้ง 3 ครั้ง และไม่มีมาตรการในการป้องกันผู้ล่วงลับไม่ให้ถูกเข้าถึงในวันนั้น เป็นสิ่งที่อยู่ในขอบเขตการทำงานตามกฎหมายของสื่อจริง 

เจ้าหน้าที่สืบสวนไม่ควรจะลอยตัวเหนือปัญหา และควรจะออกมารับผิดชอบด้วยการชี้แจงขั้นตอนการสืบสวนของพวกเขาว่าเป็นไปตามกฎหมาย มีเพียงการสืบสวนที่ละเอียดเพื่อนำไปสู่ความจริงเท่านั้นที่จะแก้ไขการสืบสวนที่ผิดพลาดได้ และป้องการการเกิดเหยื่อคนที่ 2 หรือ 3
 

2.คำถามต่อสำนักข่าวและสื่อ

เราจะพูดได้หรือว่าการนำเสนอข่าวการสืบสวนของผู้ล่วงลับมาจากการตอบสนองความต้องการต่อความอยากรู้ของสาธารณะชน? ชีวิตส่วนตัวของผู้ล่วงลับต้องถูกนำไปพูดถึงแค่เพียงเพราะเขาเป็นบุคคลสาธารณะใช่หรือไม่? มีการขอให้นำเสนอข่าวโดยตำรวจเนื่องจากผู้ล่วงลับเป็นบุคคลสาธารณะหรือไม่? โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ KBS ได้นำเสนอไฟล์เสียงสนทนาของผู้ล่วงลับโดยไฟล์นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเลย การรายงานข่าวมีขึ้นเพื่อสิทธิที่สาธารณะชนควรรู้ ซึ่งเป็นความเสี่ยงของช่องโทรทัศน์ในฐานะผู้ออกอากาศสาธารณะหรือไม่? เราขอให้สื่อ รวมถึง KBS ลบเนื้อหาที่ผิดจริยธรรมของสื่อ 

การหาประโยชน์จากศิลปินที่ได้รับความนิยมจากสาธารณะชน อย่างเช่นพวกยูทูปเบอร์ หรือคนที่ปล่อยข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน เราจะต้องเงียบต่อไปอีกนานแค่ไหนจากเรื่องป่วยๆจากคนที่ถูกเรียกว่าผู้บ่อนทำลายบนโลกไซเบอร์? ไม่มีทางแก้ปัญหาเรื่องนี้เลยหรือ? 

3.ข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลและรัฐสภา 

แม้ว่าการสืบสวนตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่จะเป็นไปตามกฎหมายก็ตาม แต่รัฐบาลและรัฐสภาก็ไม่ควรนิ่งเฉยกับเหตุการณ์นี้ พวกเขาควรตรวจสอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลอาชญากรรมและการปกป้องสิทธิมนุษยชนระหว่างการสืบสวน และเริ่มทำงานเพื่อตรวจสอบดูข้อกฎหมายที่ควรจะมีการปรับปรุง 

การปรับปรุงกฎหมายให้ชัดเจนเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อป้องกันการเข้าใจคาดเคลื่อนระหว่างสิ่งที่จำเป็นและข้อกัดระหว่างสิทธิส่วนบุคคลของผู้ต้องหาและสิทธิในการรับรู้คือสาธารณะชน เพื่อป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่สืบสวนตีความและใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ทางกฎหมาย

เราจะพยายามเต็มที่จนกว่าจะได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะต้องใช้ความพยายามและถูกตั้งคำถามมากแค่ไหนก็ตาม

ขอให้นักแสดงอีซอนคยุนไปสู่สุขติ 

ทางตัวแทนผู้กำกับและนักแสดงยังกล่าวอีกว่า

“จากเหตุการณ์นี้ เรามีแผนจะร่วมมือกับหลายองค์กรที่มีความตั้งใจเดียวกัน เพื่อก่อตั้ง ‘กฎหมายอีซอนคยุน’ เราหวังว่าความมุ่งมั่นของเราจะเป็นที่รับรู้ไปทั่วโลก และเหตุการณ์น่าเศร้าเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”