อีซองคยอง (Lee Sung Kyung) เริ่มต้นเส้นทางในวงการบันเทิงด้วยการเป็นนางแบบ 

เธอมีผลงานการแสดงที่ได้รับความนิยมหลายเรื่อง เช่น Weightlifting Fairy Kim Bok Joo, Dr. Romantic, and Sh**ting Stars

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะมาเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จเหมือนในปัจจุบัน ชีวิตของเธอเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมากมาก่อน

ระหว่างรายการ Seri Money Club คิมจงกุก (Kim Jong Kook) ได้บอกว่าตอนที่เจอกับ อีซองคยองครั้งแรก เขาคิดว่าเธอมาจากครอบครัวที่ร่ำรวย และเกิดมาโดยคาบช้อนเงินช้อนทอง ซึ่งเขามารู้ที่หลังว่าเขาคิดผิด

อีซองคยองเล่าว่าครอบครัวของเธอเคยยากจนมากสมัยที่เธอเป็นเด็ก 

ตอนที่เธอเป็นเด็ก พ่อของอีซองคยองทำงานหนักมากเพื่อสร้างโรงงานให้เป็นธุรกิจครอบครัว แต่โรงงานถูกไฟไหม้ทำให้พวกเขาไม่เหลืออะไรเลย ทางเลือกเดียวคือต้องย้ายไปอยู่สลัมเพราะไม่มีเงินจ่ายหนี้ 

“ตอนที่ฉันอายุได้ 4 ขอบ พ่อของฉันมีโรงงานของตัวเอง แต่เขาล้มละลายหลังจากโรงงานถูกไฟไหม้ เพราะต้องหาเงินใช้หนี้ เราเลยต้องย้ายไปอยู่สลัม” - อีซองคยอง 

อีซองคยองเล่าถึงตอนที่ต้องอยู่ในอพาร์ทเม้นท์คับแคบกับครอบครัวจนเรียนจบ ม.ปลาย เธอบอกว่าอายมากตอนเพื่อนมาเยี่ยมบ้าน เพื่อนคนนั้นถามว่า ‘ครอบครัวทั้งหมดของเธออยู่ที่นี่ได้ยังไง?’

นอกจากนี้เธอยังอายที่พ่อของเธอขับรถเก่าๆ ทำให้เธอบอกพ่อว่าให้จอดส่งเธอก่อนถึงโรงเรียน และเธอจะเดินต่อเอง อย่างไรก็ตามมีเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป

ตอนแรกอีซองคยองอยากเป็นนักเปียโน อย่างไรก็ตามเธอไปเจอป้ายประกาศรับสมัครนางแบบ ซึ่งเธอไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว และพ่อแม่ของเธอก็เชียร์ให้เธอสมัคร ตอนนั้นเองที่ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป

“พ่อแม่ของฉันสังเกตได้ว่า ‘นางงามเกาหลี’ แต่ละคนมีฐานะทางบ้านที่แตกต่างกัน พวกเขาคิดว่ามันคงจะเป็นประสบการณ์ที่ดี ฉันเลยสมัครไปและได้งาน” – อีซองคยอง 

หลังจากลองศึกษาวิธีการเต้นและการเดิน อีซองคยองได้ทำงานเป็นนางแบบอิสระอยู่ 3 ปี หลังจากที่เธอเรียนจบ เธอได้รับโอกาสให้เดบิวต์ในฐานะนักแสดงในซีรีส์เรื่อง It’s Okay, That’s Love

ตอนนี้อีซองคยองก้าวขึ้นมาเป็นนักแสดงแถวหน้าของวงการเกาหลีอีกคนหนึ่งและได้ร่วมงานกับแบรนด์หรูมากมายทั้ง Chanel, Louis Vuitton และ Damiani