|
ถ้าเสน่ห์อย่างหนึ่งของการเดินเรื่องในซีรีส์เรื่อง Stranger
คือการซ้อนปม และทำให้ภาพของตัวละครดูไม่ชัดเจน
การเดินเรื่องในซีซั่น 2 ก็มีส่วนผสมของสูตรนั้นอยู่ด้วย
หากเรามองจากภาพรวมทั้งหมด จะเห็นว่า การต่อสู่ในซีซั่นนี้
ถูกแบ่งออกเป็น 3 ฝ่ายใหญ่ๆ ได้แก่
1.ฝ่ายตำรวจ
2.ฝ่ายอัยการ
3.ฝ่ายธุรกิจ
ในซีซั่นแรก เราได้เห็นความเกี่ยวโยงกันของ ฝั่งธุกิจกับอัยการ นำโดย อียุนบอม อีชางจุน และอียอนแจ
การที่อียุนบอม ถูกซ้อนแผนและเปิดโปงการทุจริต
ทำให้เสถียรภาพใน ฮันโจกรุ๊ป เกิดการสั่นคลอน
และกระทบถึงอำนาจของ "อัยการ" ที่ถูกสังคมตั้งคำถาม
ถึงความสุจริตในการทำงานเพื่อประชาชน
.
เมื่อสถานการณ์เอื้อประโยชน์แบบนี้
ฝ่ายตำรวจที่รอคอยเวลามานานหลายสิบปี
จึงได้เปิดการหารือเรื่องขอบเขตอำนาจในการทำคดี
ระหว่างอัยการ กับ ตำรวจขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกครึ่งนึง
.
ต่อไปนี้ คือ ภาพรวมของ Stranger EP3 ครับ
=========================
1.คดีฆ่าตัวตายที่มีเงื่อนงำ
.
ปี 2017 เกิดเหตุการณ์ตำรวจฆ่าตัวตายในห้องอาบน้ำชายของสถานีตำรวจ แม้ว่าผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จะให้การว่า ผู้เสียชีวิตฆ่าตัวตายเอง และช่วยไว้ไม่ทัน จนศพไม่ได้รับการชันสูตร และคดีก็ถูกปิดลงไป แต่ในที่สุดคดีนั้น ก็กลับมาอยู่ในมือของฝ่ายอัยการอีกครั้ง เพื่อความได้เปรียบในการทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายตำรวจ
.
ในคดีนี้ ซีรีส์เลือกจะฉายภาพเราเห็น 2 ฝั่งของคำให้การ
ฝั่งหนึ่ง คือ ภาพเหตุการณ์ที่ตำรวจเข้าไปช่วยชีวิตเพื่อร่วมงานที่กำลังฆ่าตัวตาย แต่ในอีกเหตุการณ์ คือ ภาพที่ตำรวจ 6 นาย กำลังรวมหัวกันจัดฉากการฆ่าตัวตายให้กัยเพื่อนร่วมงาน
.
โดยตัวการสำคัญในคดีนี้ คือ "แบคจุงกี"
และมีผู้ที่เห็นเหตุการณ์เป็นคนแรก นั่นคือ "คิมซูฮัง"
เมื่อเรานำข้อมูลจากคดี และพฤติการณ์ของตำรวจมาเชื่อมโยงกัน จะเห็นว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น อาจสาวลงไปได้ลึกมากกว่าการฆาตกรรม แต่อาจขยายผลได้ไปจนถึงการขัดแย้งเรืองอำนาจ และผลประโยชน์ระหว่างกันในสถานี
2.นกสองหัว "โอจูซอน"
.
ใน EP1 และ 2 มีทนายความที่เข้ามามีบทบาทในซีรีส์
และใช้เส้นสายทำให้ลูกความของตัวเองหลุดจากคดี
ทนายความคนนั้น คือ "โอจูซอน" ด้วยความที่เขามีปูมหลังเป็นอดีตข้าราชการยุติธรรม สามารถเข้าถึงตัวผู้มีอำนาจฝั่งอัยการได้ ทำให้เป็นที่สนใจของ "อียอนแจ" จากฮันโจกรุ๊ป
ภารกิจนกสองหัวของ "โอจูซอน" จึงได้เริ่มต้นขึ้น
.
เขาเปิดฉากตัวเองด้วยการเติมเชื้อไฟในใจให้กับ "คังวอนซอล" ที่ตอนนี้ยังไม่อยากยื่นมือเข้าไปพัวพันในศึกของการแย่งชิง "ฮันโจกรุ๊ป" ที่อีซองแจพยายามจะยึดสิทธิ์การบริหารคืนมาจากน้องสาวของตัวเอง เพราถ้าอัยการยื่นมือเข้าไปจัดการกับ "อีซองแจ" ก็จะทำให้ อียอนแจ ได้ความชอบธรรมในการบริหารงาน การจะปกป้องศักดิ์ศรีของ "อีชางจุน" และศักดิ์ศรีของตัวเองในฐานะคนที่รับช่วงต่ออำนาจมาจาก อีชางจุน วอนซอล ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะต้องช่วยยืนยันว่า สามีกับภรรยาไมได้วางอุบายด้วยกัน การได้อำนาจของเขา ถึงจะไม่ใช่ผลพลอยได้จากการฆาตกรรมที่เกิดขึ้น
.
ความลังเลตรงนี้เอง หี่เปิดช่องให้ โอจูซอน ใช้ในการวางกับดัก โดยดึงเอาเรื่องที่ ยอนแจ และอีชางจุน ที่กำลังถูกสื่อโจมตีมาขี้นำ ว่าถ้าปล่อยให้ อียอนแจ แพ้ไปในศึกครั้งนี้ คนที่จะกลับมานั่งตำแหน่งประธานฮันโจกรุ๊ป ก็คือคนเลวมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วอย่าง อีซองแจ ดังนั้น ตัวเลือกที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอย่าง อียอนแจ จึงน่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า แต่โอจูซอน ฉลาดมาก เขาเลือกจะไม่พูดออกไปตรงๆ เขาแค่บอกว่า อธิบดีมีอำนาจชี้ขาดในการเลือกประธานฮันโจกรุ๊ปคนใหม่ แล้วปล่อยให้ วอนซอล ไปตัดสินใจเอาเองว่าจะเลือกอะไร
.
ผลงานจากการทำหน้าที่เติมเชื้อไฟครั้งนี้เอง ที่ทำให้ จูซอน ได้รับตำแหน่ง "ที่ปรึกษาภายในของฮันโจกรุ๊ป" แบบลับๆ
แต่ดูเหมือนว่าความอุ่นใจแค่นี้จะไม่พอสำหรับ ยอนแจ เพราะเธอยังต้องการดึงตัว "ชีมก" ให้มาอยู่ฝั่งเดียวกันด้วย
3.สรุปรวบความขัดแย้งระหว่างอัยการกับตำรวจ
หากเราจะสรุป จุดเริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างตำรวจกับอัยการ ซึ่งเป็นประเด็นหลักของซีซั่นนี้ เราควรทำความเข้าใจไทม์ไลน์ของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก่อน
ตามประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ หลังจากการจัดตั้งรัฐบาล โดยคณะกรรมการร่วมสหรัฐอเมริกา-สหภาพโซเวียต ตั้งแต่ปี 1945 เกิดการโต้แย้งสิทธิ์ระหว่าง อัยการ และตำรวจ รวมกัน ทั้งหมด 4 ครั้ง
ครั้งแรก ปี 1998 - สำนักงานอัยการต่อต้านเรื่องการแก้ไขสิทธิ์ในการสอบสวนอย่างรุนแรง และการต่อสู้ครั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมเข้าข้างอัยการ ทำให้การหารือเพื่อให้สิทธิ์อิสระในการสอบสวนกับตำรวจถูกยกเลิกไป
ครั้งที่ 2 ปี 2005 - การแก้ไขสิทธิ์สอบสวนระหว่างตำรวจกับอัยการยังไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้การแก้ไขกฏหมายคดีอาญาที่กำหนดให้ตำรวจเกาหลีรับคำสั่งจากอัยการในการสืบสวนคดี และเป็นอันยกเลิกไป
ครั้งที่ 3 ปี 2011 - มีการลบข้อกำหนดที่ระบุว่าตำรวจฝ่ายคดีต้องปฏิบัติหน้าที่ตามที่อัยการสั่ง แต่สิทธิ์ในการสั่งการ และสิทธิ์ในการยุติการสอบสวนยังคงไว้กับอัยการ
และครั้งที่ 4 ปี 2019 - เกิดวิกฤติศรัทธา เมื่ออัยการยอมจำนนกับอำนาจทางการเมือง ทำให้สูญเสียความน่าเชื่อถือจากประชาชน มติมหาชน และอำนาจทางการเมืองจึงกลายเป็นแรงกดดันมหาศาล ที่ทำให้สำนักงานอัยการต้องแก้เกมก่อนด้วยการเสนอเงื่อนไขล่วงหน้าเรื่อง โครงสร้างองค์กรตำรวจปกครองตนเอง มาให้ฝ่ายตำรวจพิจารณา โดยหลักการ คือ แบ่งกำลังตำรวจเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งกลายเป็นหน่วยงานตำรวจภูธรปกครองตนเอง และอีกส่วนจะเป็นตำรวจแห่งชาติ
.
ตรงนี้จะเห็นว่าซีรีส์มีการสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในการทำงานของตำรวจที่เกิดขึ้น โดยตัวแทนของฝั่งตำรวจ ที่พุดเรื่องนี้ คือ จางกอน เขาได้ยกเรื่องสิทธิ์การป้องกันตัว และสิทธิ์ในการขอหมายศาล โดยไม่ต้องผ่านอัยการ เพื่อที่จะได้ทำให้การทำงานของตำรวจรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าที่เป็น มาในที่ประชุม แต่จะเห็นว่าข้อเสนอนั้นถูกปัดตกไป เพราะตำรวจชั้นสูง ไม่เห็นชอบด้วย พวกเขาเลือกจะโฟกัสอยู่แค่การแกไขสิทธิ์สอบสวนเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ถ้าจะมองให้ลึกไปในเชิงการเมืองระดับภายใน เราก็สามารถวิเคราะห์ต่อไปได้ว่า การได้สิทธิ์สอบสวนที่มากกว่า ย่อมทำให้คู่ความพยายามจะเข้าหาเพื่อเสนอผลประโยชน์ตอบแทนแลกกับการจัดการให้คดีเป็นประโยชน์กับฝั่งตนเองได้เหมือนกัน
.
ใน EP4 เราน่าจะได้เห็นการเฉือนคมกันกลางที่ประชุมระหว่างฝั่งอัยการ และฝั่งตำรวจกันแล้ว ที่สำคัญคือ การอยู่ฝั่งตรงข้ามกันครั้งแรกของ ยอจิน และชีมก ทั้งคู่จะทำตัวยังไง และจะหาทางออกเรื่องนี้กันแบบไหน ต้องรอติดตามชมกันต่อไปครับ
=========================
รับชมซีซั่น 1 และ 2 แบบถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ : https://www.netflix.com/title/80187302?s=i&trkid=13747225