|
ตามรายงานจากทีมเทคนิคของ “ยูฟ่า” ปรากฏข้อมูลที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปของวงการฟุตบอลยุโรปในปัจจุบันที่กำลังเข้าสู่ภาวะขาดแคลนอย่างน่าใจหาย
การขาดแคลนที่ว่าไม่ได้หมายถึงเรื่องทรัพยากร หรือสินทรัพย์ หากแต่หมายถึง “กองหน้า” ในระดับท็อปของวงการ
โดยเฉพาะกองหน้าที่ได้รับการปลุกปั้นขึ้นมาเองจากสโมสร (Home-grown strikers) ที่กลายเป็นของหายากสุดๆในทศวรรษที่ผ่านมา
ในพรีเมียร์ลีก นักเตะอังกฤษคนสุดท้ายที่ได้รางวัลดาวซัลโวคือ เควิน ฟิลลิปส์ สมัยอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ ในปี 2000 ขณะที่ในสเปน นักเตะคนสุดท้ายที่ได้รางวัลรองเท้าทองคำของแชมเปี้ยนส์ ลีก คือ ราอูล กอนซาเลซในปี 2001 กับ เรอัล มาดริด
มันสะท้อนให้เห็นถึงในบรรดาสโมสรใหญ่ทั้งหลาย ในแนวรุกนั้นพวกเขาไม่มี “ที่” และ “โอกาส” มากพอสำหรับนักเตะดาวรุ่งในสังกัดแล้ว
"เควิน ฟิลลิปส์" และ "ราอูล กอนซาเลซ"
8 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลที่แล้ว ทำประตูกันได้รวม 191 ประตู ในจำนวนนี้มีเพียง 8 ประตูเท่านั้นที่มาจากนักเตะในชาติเดียวกัน คือ โธมัส มุลเลอร์ (5 ประตู), เวย์น รูนี่ย์ (2) และ แดนนี่ เวลเบ็ค (1)
อาร์แซน เวนเกอร์ หนึ่งในปราชญ์ลูกหนังของวงการยอมรับว่าเวลานี้สโมสรในยุโรปผลิตกองหน้าชั้นดีแทบไม่ได้ และกองหน้าระดับท็อปเกือบทั้งหมดมาจากอเมริกาใต้
ลิโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์, หลุยส์ ซัวเรซ, อเล็กซิส ซานเชซ, เซร์คิโอ อเกวโร่, ราดาเมล ฟัลเกา หรือแม้แต่ ดีเอโก้ คอสต้า ก็เป็นสายเลือดละตินแท้ที่กระจายอยู่ตามสโมสรชั้นนำต่างๆ
นี่คือปัญหาใหม่ของวงการฟุตบอลยุโรป ที่เกิดขึ้นแล้วและยังหาทางแก้ไขไม่ได้
http://www.sanook.com/