แขกรับเชิญของรายการ “ที่นี่หมอชิต” วันอาทิตย์นี้เป็นวง “บอดี้สแลม” ที่สองพิธีกรดู๋และลิงพาบุกไปหาที่จังหวัดสุพรรณบุรี ไปพบกับ ตูน บอดี้สแลม และเพื่อนๆในวง ปี๊ด , ยอด , ชัช และโอม และยังมีคุณพ่อ กับ คุณแม่ ของตูน
       
       และที่สองพิธีกรต้องตามมาถึงจังหวัดสุพรรณฯ เพราะพวกเค้าชาวบอดี้สแลมกำลังจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ทั่วประเทศที่ชื่อว่า “ปรากฏการณ์ ดัม มะ ชาติ คอนเสิร์ตฯ” ที่บอดี้สแลม จะเดินทางไปหาทุกคน แล้วเวทีแรก ที่พวกเค้าใช้เปิดเป็นคอนเสิร์ตแรก คือ สุพรรณ บ้านเกิดของ ตูน บอดี้สแลม แต่ก่อนที่จะไปซุ่มติดขอบเวทีก็แวะไปสวัสดีคุณพ่อคุณแม่ของตูนกันก่อนที่บ้าน ซึ่งคุณพ่อตูนชงกาแฟเลี้ยงด้วยตัวเอง ส่วนคุณแม่ก็พาชมบ้านไปดูถึงห้องนอนตูนที่ตอนนี้กลายเป็นห้องเก็บของ ที่คุณพ่อคุณแม่เก็บของทุกชิ้นของลูก ด้วยความภาคภูมิใจไม่ว่าจะเป็นผลงานทางศิลปะ หรือ เกียรติบัตรในวัยเด็กมากมายรวมถึงจดหมายที่ตูนเขียนให้แม่เมื่อตอนอายุเเปดขวบที่ตูนอาจจะลืมไปแล้ว เเต่แม่พูดว่าไม่เคยลืมเพราะเเม่เก็บไว้
       
       จากบ้านตูนก็พาไปหาเพื่อนๆ ในวงและพาสองพิธีกรและเพื่อนๆ ไปชิมก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำของตูนก่อนจะไปเตรียมความพร้อมที่เวทีคอนเสิร์ต พร้อมพูดคุยถึงการเตรียมตัวทัวร์คอนเสิร์ตในครั้งนี้ และยังเผยถึงการเข้าไปศึกษางานถึงเวทีคอนเสิร์ตของแม่นกน้อยอุไรพร
       
       ปรากฏการณ์ ดัม มะ ชาติ นี่คืออะไร ? บอดี้สแลมยืนยันว่า เป็นคอนเสิร์ตที่ใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมาทำไมต้องเลือกสุพรรณก่อน ?
       "ไอเดียก็มาจากตูนครับ ที่อยากให้คอนเสิร์ตมันสมบูรณ์แบบให้ออกไปถึงบ้านของแฟนเพลงบอดี้แสลมทั่วประเทศจริงๆ ไอเดียแรกของตูนคือจัด 77 จังหวัดเลยครับ ซึ่งโชคดีมากที่ไม่ได้ทำยังนั้น ก็ไปคิดแล้วก็พยายามลงรายละเอียดเพื่อให้มันเกิดเป็นความจริงขึ้นมาได้ก็เพราะว่า 30 จังหวัดน่าจะกำลังพอดี ขนาด 30 จังหวัดก็ใช้เวลาครึ่งปีกว่าจะทัวร์ครบหมดเพราะว่าเล่นที่นึงก็ต้องเว้นอย่างน้อย 3 วันครับถึงจะย้ายของทุกอย่างไปไว้อีกที่นึงได้"
       
       คอนเสิร์ตนี้จะแตกต่างกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาของบอดี้สแลม ? ต้องการจะสื่ออะไรให้คนดูได้รับรู้นอกจากความบันเทิง ? 
       "จริงๆ ต้องเล่าก่อนว่าทำไมเราถึงเริ่มทำให้โชว์นี้มีขึ้นมา มันเกิดขึ้นตั้งแต่เราทำอัลบั้มตั้งแต่ปีที่แล้ว หยุด 1 ปีไปเพื่อแต่งเพลงให้เสร็จโดยที่เราไม่ได้ออกคอนเสิร์ตไม่ได้รับงานเลยซึ่งระหว่างที่เราทำอัลบั้มนี้เมื่อปีที่แล้วเพลงที่เราจะทำขึ้นเราอยากที่จะสื่อสารมันผ่านนอกจากเสียงที่เราทำมันในซีดีแล้ว เราอยากจะเล่นเผื่อให้ทุกคนได้เห็นสีสันของมัน ได้เห็นภาพของมัน คือพูดง่ายๆ เพลงที่เราทำมันไม่จบแค่เป็นเสียง เราคิดว่าจะสมบูรณ์ที่สุดในอัลบั้มนี้ถ้าทุกคนได้ดูพร้อมประกอบสีสันแล้วก็ภาพที่เราต้องการนำเสนอด้วย ก็เลยคิดว่าทำยังไงดีที่จะออกมาเป็นแบบนี้ได้ ฉะนั้นก็จะมีก้อนของโปรดักชั่นที่เราได้คิดใหม่ตั้งแต่ศูนย์เลยไปพร้อมกับตัวเพลงแล้วมันจะดีถ้าเราได้เล่นมันบ่อยๆ ส่วนใหญ่ที่เล่นรอบเดียวเรายังไม่คุ้นเคยกับมันมากพอ น่าจะดีกว่าถ้าราได้เล่นจนเป็นส่วนหนึ่งกับมันไปแล้วก็เลยเป็นที่มาจะออกไปทัวร์ โปรดักชั่นที่เราได้คิดตั้งแต่เสียงและภาพออกไปให้ทุกคนได้ดูมันถึงจะจบความที่เราตั้งใจได้สมบูรณ์"
       
       เราจะเรียกการเดินทางออกไปหาคนดูแบบนี้ว่าอะไร ? รู้มาว่ามีทีมงานไปศึกษาถึงทีมงานแม่นกน้อย อุไรพร ? 
       "ความจริงก็จริงครับ ที่คิดทำทัวร์นี้เวลาพวกเราไปทำต่างจังหวัดแล้ว เห็นนกน้อยอุไรพรมาเปิดคอนเสิร์ต เราก็ส่งทีมไปดูเลยว่าเขาทำยังไงถึงตั้งเวทีได้เร็ว แล้วก็ได้พบอะไรบางอย่างที่เป็นไทยประดิษฐ์มากที่ได้มาจากวงนกน้อยอุไรพร ที่เราก็ไม่สามารถทำแบบเขาเลยด้วยซ้ำไป เช่นรถบรรทุกจอดกลายเป็นเวทีทันทีเลย แต่จริงๆ แล้วรถบรรทุกของเราก็ธรรมดาที่เราเช่ามา เพียงแต่ว่ามันจะมีความซับซ้อนอยู่ตรงที่การดีไซน์ว่าเมื่อเวทีแยกชิ้นออกมาแล้วอะไรจะไปอยู่รถคันไหน ซึ่งดีไซน์ไม่ดีมันก็จะขนไม่ทัน มันต้องจัดระเบียบไว้ก่อนเลย ได้แต่กำหนดไว้คร่าวๆ การติดตั้งทั้งหมดทุกอย่างของเราทั้งหลังคาแล้วก็เวทีก็ 1 วันเต็มๆ ถึงจะต้องมี 3 วันอ่ะครับสำหรับการเตรียมคอนเสิร์ตของเรา เล่นเสร็จก็ต้องจับเวลาเลยเพื่อไปอีกจังหวัดนึง 7 โมงเช้าก็ต้องถึงเพื่อติดตั้งเลยทันที ติดตังเสร็จแล้วเย็นๆ ก็จะตั้งเครื่องดนตรีเข้าไปอะไรประมาณนี้”
       
       ระหว่างตูนและวงพาคุยและเดินชมเวทีขณะฝนตก และเกิดฟ้าผ่า มีเหตุการณ์ ที่ไม่คาดฝันระหว่างถ่ายทำคือ ประกายฟ้าผ่าลงที่ “ตูน” ยืนทั้งๆ ที่ยืนกันอยู่ทั้งหมด ในที่เดียวกันตูนถึงกับช็อกไปชั่ววูบเเละพูดว่าทำไมผมไม่ตาย งานนี้ไม่ใช่แค่ตูนช็อกแต่ใจหายแว๊บกันถ้วนหน้า โชคดีที่ปลอดภัยทุกคน
       
       ผละจากขอบเวทีบอดี้สแลมที่สุพรรณ ดู๋ขึ้นเครื่องบินไปเยือน จ.ปัตตานี จากการชักชวนของสองน้องชายสุดที่รัก ฝันดี (ใหญ่) - ฝันเด่น (เล็ก) จรรยาธนากร ซึ่งทั้งคู่อุทิศตัวทำงานช่วยเหลือสังคมมายาวนานในฐานะอาสาสมัคร มูลนิธิร่วมกตัญญู ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือน้ำท่วม แม้แต่เหตุด่วนเหตุร้ายบนท้องถนนก็ไปช่วยเหลือและเสี่ยงตายมานับไม่ถ้วน
       
       ล่าสุดฝันดีก็หาเงินซื้อรถพยาบาลให้จังหวัดปัตตานีเพื่อนำไปช่วยเหลือคนเจ็บคนป่วยในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งมีดาราและประชาชนร่วมทำบุญยอดเงินเกือบ 2 ล้าน และวันนี้เงินบริจาคก็ได้นำมาทำประโยชน์ในพื้นที่เต็มที่และเงินที่เหลือจากซื้อรถ สองหนุ่มได้มอบเป็นกองทุนไว้ช่วยเหลือพี่น้องใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งวันนี้เค้าส่งมอบรถและเงินเรียบร้อย เป้าหมายต่อไปอยากทำไร่สวนผสมให้คนเรียนรู้ตามรอยในหลวง ลั่นทั้งหมดที่ทำไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน แต่สิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นคืออยากให้คนไทยรักกัน และวันนี้ยังมีกิจกรรมมอบกระเป๋าและเวชภัณฑ์ จำนวน 35 ใบ ที่วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธรจังหวัดยะลา และต่อด้วยเดินทางไปวัดช้างให้ ร่วมงานกฐินสามัคคี โดยมี ปั้นจั่น-ปรมะ อิ่มอโนทัยและ เมโกะ-ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย (สองนักแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง The Eyes Diary) ร่วมทริปไปทำกิจกรรมครั้งนี้ด้วย
       
       ติดตามชมทั้งสอง เรื่องราวได้ในรายการ “ที่นี่หมอชิต” คืนวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคมนี้ ทางช่อง 7


ที่มา  http://www.manager.co.th/