ไมโคพลาสมา...โรคระบาดป้องกันได้
2012-07-16 18:16:57
Advertisement
คลิก!!!
ไอ


ไมโคพลาสมา...โรคระบาดป้องกันได้ (ไทยโพสต์)

กลายเป็นกระแสข่าวครึกโครม เมื่อพลทหารหลายสิบนายล้มป่วยลงด้วยโรคติดเชื้อประหลาด มีไข้สูง หายใจหอบเหนื่อย และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จนถึงขั้นต้องปิดโรงพยาบาลเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค "ไมโคพลาสมา (Mycoplasma)" ที่เป็นตัวการทำให้เกิดอาการดังกล่าว

ศูนย์วิจัยสุขภาพกรุงเทพ เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ถือโอกาสนี้เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคไมโครพลาสมา เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคดังกล่าว เพื่อเป็นแนวทางป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคระบาดนี้ ว่า โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียขนาดเล็ก ชื่อ "Mycoplasma pneumonia" ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่าง จึงทำให้ผู้ป่วยมีอาการไข้สูง ไอ หายใจหอบเหนื่อยจากการอักเสบของหลอดลมและปอด

กลุ่มอายุที่ติดเชื้อได้บ่อยคือกลุ่มวัยเด็ก และเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของโรคปอดอักเสบที่ติดในชุมชน ซึ่งถ้าปอดอักเสบจากเชื้อชนิดนี้ ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรง และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

สำหรับการระบาดนั้นเชื้อ Mycoplasma pneumonia พบได้ทุกช่วงอายุ โดยพบบ่อยในช่วงอายุน้อยกว่า 40 ปี และพบบ่อยมากในเด็กเล็ก และวัยรุ่นอายุน้อยกว่า 20 ปี มีโอกาสติดเชื้อได้ใกล้เคียงกันทั้งเพศชายและหญิง พบการติดเชื้อได้ตลอดปีโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน เชื้อนี้ติดต่อทางการหายใจหรือไอ จาม หรือจากการสัมผัสสารคัดหลั่งจากระบบทางเดินหายใจที่มีเชื้อ เช่น น้ำมูกหรือเสมหะ

การระบาดส่วนใหญ่จะพบในชุมชนปิด เช่น ค่ายทหาร โรงเรียน เรือนจำ เมื่อเชื้อไมโคพลาสมาเข้าสู่ร่างกายจะใช้เวลาฟักตัวประมาณ 2-3 สัปดาห์ (แตกต่างจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือปอดอักเสบจากไวรัสที่ใช้เวลาไม่ถึงสัปดาห์) อย่างไรก็ตามพบว่าผู้ที่ได้รับเชื้อนี้ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ มีเพียงร้อยละ 5-10 เท่านั้นที่จะเกิดอาการปอดอักเสบ

ส่วนอาการทั่วไปที่พบในผู้ป่วยนั้น

1.ไข้สูงมากกว่า 38 องศาเซลเซียส อาจมีอาการหนาวสั่น

2.ไอแห้ง ๆ อาจมีเสมหะขาว อาการค่อย ๆ เป็นมากขึ้น อาจไอเรื้อรังจนทำให้เจ็บกล้ามเนื้อหน้าอก

3.ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย

4.เจ็บคอ คันคอ อาการเจ็บคอจะไม่มาก คอแดงเล็กน้อยไม่มีหนอง

5.เจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าหรือออก (พบได้น้อย)

6.อาจพบผื่นแดงตามร่างกาย ลักษณะคล้ายไข้ออกผื่น (ส่าไข้)

7.ถ้าอาการรุนแรงขึ้นจะทำให้หายใจเหนื่อย หายใจเร็ว แต่ยังคงดำเนินชีวิตประจำวันได้ปกติ

การรักษาโรคที่เกิดจากเชื้อไมโคพลาสมา สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะกลุ่ม macrolides หรือ doxycycline ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลถ้ามีอาการหายใจหอบเหนื่อยมาก หรือมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่มาก หากไม่ได้รับการรักษาอาการไข้จะเป็นอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ อาการไอประมาณ 2-4 สัปดาห์ บางรายอาการอาจเป็นนานถึง 6 สัปดาห์ หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาการจะหายเป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ยกเว้นรายที่มีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง

ไอ


ส่วนอาการบ่งชี้ที่ควรไปพบแพทย์นั้น ได้แก่

1.ไข้สูง

2.อาการไอแห้ง ๆ บ่อยครั้งและเป็นระยะเวลานาน หรือไอเป็นเลือด

3.อาการหายใจหอบเหนื่อย หายใจเร็ว

4.อาการเจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าหรือออก

5.อาการแน่นหน้าอกด้านซ้าย หรือรู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาการแขนหรือขาอ่อนแรง หรือชักเกร็ง ซึมลง อาการซีด ปาก-ลิ้นสีซีด ปัสสาวะสีเข้ม (สีน้ำปลาหรือสีโค้ก) หรือมีจุดเลือดออกตามร่างกาย ซึ่งอาการเหล่านี้อาจบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนจากเชื้อไมโคพลาสมา

6.ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือรับประทานยากดภูมิคุ้มกัน อาจเกิดการติดเชื้อรุนแรงได้ง่าย

หากคุณมีอาการดังที่ได้กล่าวไปเบื้องต้น ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาแต่เนิ่น ๆ เท่านี้ก็จะเป็นการยับยั้งภัยระบาดของโรค "ไมโคพลาสมา" ได้แล้ว

ข้อมูลจากกระปุกดอดคอม

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X