Review: Big Miracle
2012-06-16 21:21:45
Advertisement
คลิก!!!

ปาฏิหาริย์ยังใหญ่ไม่พอ

จากตัวอย่างหนัง และจากชื่อเรื่องของหนัง Big Miracle น่าจะเป็นหนังที่ต้องการจะบอกเราว่า หากเราทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจกัน ปาฏิหาริย์อันยิ่งใหญ่ย่อมบังเกิด เพื่อให้ฝ่าฟันอุปสรรคที่ใหญ่เกินกำลังนั้นไปได้ แต่น่าเสียดายที่หนังยังตีโจทย์นี้ไม่แตกพอ เล่าเรื่องได้กระจัดกระจาย วนออกไปนอกเรื่องมากเกินไป ทำให้หนังขาดพลังอย่างที่ควรจะเป็น อย่างไรก็ดี ก็มีหลายช่วงในหนังที่ทำให้เรารู้สึกสนุก ขำ ซึ้ง และทำให้คนใจอ่อนน้ำตาซึมได้ จนทำให้เรารู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ “ไม่ง่ายที่จะเกลียด

Big Miracle เป็นเรื่องราวของการผู้คนจากหลายกลุ่มหลายเหล่าที่เข้ามาเกี่ยวข้องกันเพื่อช่วยเหลือปลาวาฬสีเทาสามตัวพ่อแม่ลูก (เฟร็ด วิลมา และแบมแบม) ที่ติดอยู่ในน้ำใต้แผ่นน้ำแข็งผืนยาว มีภูเขาน้ำแข็งขวางกั้นทางออกสู่ทะเล และเหลือช่องให้หายใจเพียงนิดเดียว เป็นภารกิจที่ต้องระดมกำลังและเครื่องมือจากทุกฝ่ายเพื่อช่วยเหลือ หนังดัดแปลงจากเรื่องจริงที่ถูกเขียนเป็นหนังสือในชื่อ “Free the Whales” ของโธมัส รอส

เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่ออดัม คาร์สัน (จอห์น คราซินสกี้) นักข่าวหนุ่มที่ไปประจำอยู่อลาสก้า บังเอิญได้ภาพข่าวของปลาวาฬทั้งสามที่พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด ข่าวของเขากลายเป็นที่สนใจต่อคนมากมาย รวมถึงเรเชล เครเมอร์ (ดรูว์ แบรีมอร์) นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสาวของกรีนพีซผู้ซึ่งเป็นแฟนเก่าของอดัม, จิล เจอราร์ด (คริสเทน เบลล์) นักข่าวสาวไฟแรงที่อดัมแอบปิ๊งอยู่, เคลลี่ เมเยอร์ส (วาเนสซา ชอว์) เจ้าหน้าที่ในฝ่ายบริหารของรัฐบาลโรนัลด์ เรแกน และรูธ แม็คกรอว์ (เคธี่ เบเกอร์) ภรรยาของเจ. ดับเบิลยู. แม็คกรอว์ (เท็ด แดนสัน) เจ้าของบริษัทขุดเจาะน้ำมันยักษ์ใหญ่ ศัตรูด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของเรเชล

เรเชลบึ่งมาอลาสก้าทันทีที่เห็นข่าวเพื่อหาทางช่วยเหลือปลาวาฬ และด้วยความช่วยเหลือของอดัมที่เป็นมิตรกับคนในท้องถิ่น ทำให้ชาวอินูอิตเหล่านั้นตัดสินใจไม่ฆ่าปลาวาฬแล้วหันมาช่วยเรเชลในการเจาะปล่องน้ำแข็งให้ปลาวาฬได้หายใจ และพาออกสู่ทะเล แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะการที่จะให้ปลาวาฬออกสู่ทะเลได้ต้องพึ่งเรือทำลายน้ำแข็งขนาดใหญ่มาจัดการกับภูเขาน้ำแข็ง และเรือที่อยู่ใกล้สุดก็คือเรือของแม็คกรอว์ รูธแอบชักใยอยู่เบื้องหลังให้เรเชลยอมมาขอร้องสามีของเธอ และเธอก็แอบโน้มน้ามให้เจ. ดับเบิลยู เห็นว่าการช่วยปลาวาฬครั้งนี้จะดีต่อธุรกิจขุดเจาะน้ำมันของเขายังไง ส่วนเคลลี่ก็ส่งจดหมายล็อบบี้ให้ผู้การหนุ่มโสด สก็อต บอเยอร์ (เดอร์มอท มัลโรนี่) หัวหน้านายทหารประจำกองกำลังรักษาดินแดน ให้ทำหน้าที่ลากจูงเรือทำลายน้ำแข็งไปยังที่เกิดเหตุ โดยหวังว่าหากการช่วยเหลือสำเร็จจะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของเรแกนดูดีขึ้นในฤดูหาเสียง

เมืองเล็กๆ ในอลาสก้าแห่งนั้นกลายเป็นจุดสนใจของทั้งประเทศทันทีเมื่อข่าวการช่วยเหลือปลาวาฬกลายเป็นที่สนใจมากขึ้น เนเธน (อาห์เมาแก็ค สวีนนี่) เด็กน้อยชาวอินูอิตเพื่อนของอดัมฉวยโอกาสนี้ในการขายของขูดรีดนักข่าวที่มาทำข่าว แต่ไม่ใช่เนธานคนเดียวที่หาประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เกือบทุกฝ่ายล้วนมาช่วยเพื่อหาประโยชน์ไม่ทางเศรฐกิจก็ทางการเมือง หรือแม้แต่ช่วยให้ตัวเองได้โด่งดังด้วยกันทั้งนั้น ดูเหมือนจะมีเพียงเรเชลคนเดียวที่ยังมุ่งมั่นอย่างบริสุทธิ์ใจ และเธอต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมในการโน้มน้าวให้ฝ่ายอื่นๆ ให้ยอมทำตามเธอ จนกระทั่งเกิดเหตุพลิกผันตอนท้ายเรื่องที่ทำให้ทุกคนเห็นถึงการทุ่มเทของเธอ จึงยอมที่จะละทิฐิและผลประโยชน์ส่วนตัวมาหาทางช่วยกันให้ปลาวาฬพ้นภัย

หนังเรื่องนี้กำกับโดยเคน ควาพิส ผู้กำกับที่เคยแต่ผ่านงานหนังตลกปนโรแมนติกมาเป็นส่วนใหญ่ เช่น He’s Just Not into You,License to Wed และ The Sisterhood of the Traveling Pants ผู้กำกับควาพิสยังได้ใส่ฟุตเตจข่าวของจริงที่เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้มาผสมการเล่าเรื่องของเขาแบบเดียวกับหนัง Apollo 13 ด้วย แต่มันไม่ได้ช่วยให้หนังดูขลังขึ้นได้เหมือนกันเลย เพราะการเล่าเรื่องในส่วนอื่นยังเป๋ไปมาตลอดทาง สาเหตุน่าจะมาจากการที่ผู้กำกับควาพิสใช้การเล่าเรื่องแบบหนังรักหลายคู่ He’s Just Not into You มาใส่ในการเล่าเรื่อง Big Miracle แบบเกินพอดี

ขณะที่ภารกิจหลักของหนังเป็นเรื่องของการช่วยปลาวาฬ หนังเป๋ออกข้างทางด้วยการเล่าเรื่องรักสามเส้าระหว่างอดัม, เรเชล และจิล ในระดับที่แย่งชิงความเด่นไปจากเนื้อเรื่องหลัก แถมยังใส่เรื่องรักปิ๊งปั๊งของผู้พันสก็อตกับเคลลี่เข้าไปอีก และก็ยังแอบพูดถึงอารยธรรมของคนเมืองที่บุกมายังดินแดนอลาสก้าแห่งนี้ ทำให้ชาวอินูอิตเสียความเป็นตัวตนด้วย

การเล่าเรื่องที่เป๋ของผู้กำกับมีส่วนทำให้หนังสนุกจากมุขตลกต่างๆ และก็การแสดงของนักแสดงทุกคนที่สวมบทที่ไม่ได้ซับซ้อนมากให้มีสีสันและน่าติดตาม แต่มันก็ส่งผลเสียเมื่อถึงตอนไคลแม็กซ์ของเนื้อเรื่องหลัก เพราะมันทำให้ขาดความสะเทือนใจอย่างที่ควรจะเป็น และหนังก็ไม่ได้ขยี้อารมณ์ให้มากพอหลังจากไคลแม็กซ์ หนังฉายให้เห็นว่าเรเชลสะเทือนใจแค่ไหน แต่ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึงอารมณ์ของตัวละครอื่นในฝ่ายอื่นที่ได้เห็นฉากนั้นยังไง จึงทำให้ทุกคนกลับมาร่วมมือกันอีก และขณะที่ทุกฝ่ายกำลังทะเลาะตบตีกันเรื่องผลประโยชน์ กลายเป็นว่าพระเอกที่ขี่ม้าขาวมาช่วยกลับกลายเป็นเรือของรัสเซียในช่วงสงครามเย็นที่บ้าระห่ำ สิ่งที่ควรเป็นปาฏิหาริย์ของหนังเรื่องนี้จึงเป็นอะไรที่เบาๆ ไม่ได้ใหญ่โตเหมือนชื่อเรื่อง

jediyuth.wordpress.com

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X