บทสัมภาษณ์ ยวน แม็คเกรเกอร์ จาก The Impossible
2012-11-23 21:51:14
Advertisement
คลิก!!!

บทสัมภาษณ์ ยวน แม็คเกรเกอร์ นักแสดงนำจาก The Impossible (มงคลเมเจอร์)

          The Impossible ถ่ายทอดโศกนาฏกรรมทางธรรมชาติ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในศตวรรษที่ 21 สร้างจากเหตุการณ์จริงของครอบครัวหนึ่ง ประกอบไปด้วย มาเรีย (นาโอมิ วัตตส์), เฮนรี่ (ยวน แม็คเกรเกอร์) และลูกชายทั้งสามคน ที่เดินทางมาพักผ่อนชายทะเลในเมืองไทย แต่เช้าวันที่ 26 หลังคืนวันคริสต์มาส สวรรค์บนดินก็แปรเปลี่ยนเป็นฝันร้าย เมื่อคลื่นยักษ์สูงเท่าตึกสามชั้น พุ่งเข้าถล่มทุกสิ่งทุกอย่างแบบไม่ทันตั้งตัว ทำให้ทุกคนในครอบครัวต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ความเป็นความตายนี้


 อะไรคือสิ่งที่ดึงดูดคุณเข้ามาแสดงใน The Impossible?

          สิ่งที่ดึงดูดผมเข้ามาก็คือเรื่องราวที่สมจริงและโหดร้าย มันเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นกับโลกมนุษย์ ที่คนหลายแสนต้องสูญเสียชีวิตในเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว ซึ่งการต้องเป็นผู้เล่าเรื่องนั้นทำให้ผมรู้สึกกังวล กลัวว่าจะทำไม่ได้ตามที่เรื่องราวต้องการจะเล่า นั่นก็คือการถ่ายทอดความรักของครอบครัว จิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ และสิ่งที่คอยกระตุ้นให้เราไม่ยอมหยุดหายใจ และอีกประการหนึ่งก็คือผมเป็นพ่อคนมา 15 ปี มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้รับบทเป็นพ่อ และมันก็มีบทพูดอยู่บทหนึ่งที่ ลูคัส ลูกชายของผมในเรื่อง ที่หลงอยู่กับแม่เพียงลำพังหลังเหตุการณ์สึนามิ เขาพูดว่า "แม่ครับ ผมจะไม่ยอมให้แม่อยู่ในสภาพนี้อีกแล้ว" สิ่งนี้มันกระแทกใจและทำให้ผมรู้สึกจุกอกขึ้นมาทันที 


 ช่วยพูดถึงการทำงานร่วมงาน ฮวน อันโตนิโอ บาโยน่า หน่อย?

         ฮวน เป็นผู้กำกับหนุ่มไฟแรง มันเป็นภาระอันใหญ่หลวงของเขาในการถ่ายทอดหนังที่มีความสำคัญแบบนี้ แต่เขาบอกกับพวกเราตั้งแต่แรกว่าไม่ต้องการที่จะสร้างหนังหายนะบล็อคบัสเตอร์ทั่วไป เพราะเขาอยากทำให้มันมีความสำคัญกว่านั้น เขาต้องการทำให้คนดูห่วงใยและอยากเอาใจช่วยครอบครัวนี้ นอกจากนั้น ฮวน ก็ยังเอาใจใส่ในความสมจริง เขาต้องการใช้น้ำจริง ๆ โดยนอกจากที่พวกเราต้องมาถ่ายทำในสถานที่จริงที่ประเทศไทย เราก็ยังต้องถ่ายทำในแท็งก์น้ำขนาดมหึมาที่อลิคานเต้ ในสเปนอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นาโอมิ และเด็กหนุ่มที่รับบทเป็นลูกชายคนโต พวกเขาต้องใช้เวลากว่า 6 อาทิตย์ภายในน้ำ มันเป็นอะไรที่ลำบากมาก


 ดูเหมือนว่าคุณเข้ามาถ่ายทำในโรงแรมที่เกิดเหตุจริง ๆ ด้วย ช่วยเล่าความรู้สึกหน่อย?

          ใช่ครับ พวกเราไปถ่ายทำในโรงแรมจริงที่ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ พวกเรายืนอยู่ตำแหน่งเดียวกับพวกเขาตรงสระน้ำในโรงแรม ในวินาทีที่คลื่นยักษ์ซัดเข้ามา ซึ่งตอนที่เราถ่ายทำก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ครอบครัวจริงมาเยี่ยมกองถ่ายพอดี พวกเขาไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเลยนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สึนามิ มันเป็นประสบการณ์ที่กินใจและมีอารมณ์ร่วม และทำให้ผมอยากถ่ายทอดเรื่องราวของพวกเขาให้เที่ยงตรงมากที่สุด


 คุณช่วยเล่าถึงประสบการณ์โดยรวมในการเข้ามาถ่ายทำในภูเก็ตหน่อย?

          คุณรู้ไหม ผมยืนอยู่หน้าหาดที่งดงามที่สุด และผมก็ไม่เคยนึกเลยว่าที่นี่เคยมีคนเสียชีวิตอยู่นับพัน ตั้งแต่ผมมาถ่ายทำที่นี่ ผมก็พบกับผู้อยู่ในเหตุการณ์ ที่สูญเสียคนในครอบครัวมากมาย แต่สิ่งที่น่าทึ่งก็คือทุกคนยังมองโลกในแง่ดี ผมได้ทำความรู้จักกับคนไทยคนหนึ่ง ที่สูญเสียทุกคนในครอบครัวจากเหตุการณ์สึนามิ เขาเปิดบาร์ที่ชื่อว่า "ความทรงจำ" ผมชอบไปนั่งอยู่ที่นั่นทุกคืน บางอย่างอยู่ในหัวของคุณตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ ทุกหนทุกแห่ง เวลาคุณว่ายน้ำคุณก็จะคิดว่าที่นี่มันเคยมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วที่นี่ก็ยังคงอยู่ มันเหมือนกับนิวยอร์กหลังเหตุการณ์ 9/11 คือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยังคงอยู่ และเราก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไป


 คุณมีผลงานบล็อคบัสเตอร์มามากมาย อย่างไตรภาค Star Wars แต่คุณเองก็ยังมีผลงานในหนังคุณภาพเล็ก ๆ มากมายเช่นกัน คุณมีหลักการในการเลือกแสดงหนังยังไง?

          ผมชอบที่ผู้คนคิดว่าเส้นทางอาชีพของผมไม่สามารถคาดเดาได้ และผมก็คิดว่าหนังบล็อคบัสเตอร์ไม่มีพื้นที่ว่างในการเข้าไปสำรวจถึงความซับซ้อนของชีวิต เพราะพวกมันขับเคลื่อนด้วยนายทุน ถ้ามีใครบางคนลงทุน 300 ล้านเหรียญไปกับหนัง พวกเขาก็ต้องหวังว่ามันจะกลับคืนมาเป็นสองหรือสามเท่า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องการมีความเสี่ยงใด ๆ ทั้งสิ้น มันจึงเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อย ๆ ในการทำหนังที่ส่งสารอะไรบางอย่าง โปรเจคท์ขนาดกลางที่ขับเคลื่อนด้วยแรงใจ ผมดีใจที่ The Impossibleเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทำสิ่งที่ต้องการ

 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก 


.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X