เรื่อง: Love Alram 2  (แอปเลิฟเตือนรัก ซีซั่น2)

นักแสดง: คิมโซฮยอน, จองการัม, ซงคัง, โกมินชี และ คิมชีอึน

ผู้กำกับ: คิมจินอู

กำหนดออกอากาศ: 12 มีนาคม 2021 / เวลา 15.00 น.

จำนวน: 6 ตอน

เรื่องย่อ

สี่ปีผ่านไปนับจากวันเปิดตัว Love Alarm แอปมือถือที่แจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อมีใครบางคนชอบคุณอยู่ในรัศมีระยะ 10 เมตร ในโลกที่ผู้คนไม่จำเป็นต้องบอกความในใจออกมา คิมโจโจ อีฮเยยอง และฮวังซอนโอ ต้องเผชิญกับความทรงจำวันวานต่างๆของรักแรกที่พวกเขามีอยู่ ฮเยยองยังคงอยู่เคียงข้างโจโจอย่างเงียบๆ ระหว่างที่ซอนโอยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆโจโจ ถึงเปลี่ยนใจกะทันหัน ในขณะที่โจโจพยายามรวบรวมความกล้าในการแสดงออกความรู้สึกที่แท้จริงเพื่อเป็นผลดีต่อทุกคน แต่ทว่า...

เกี่ยวกับซีรีส์

ซีรีส์ Love Alarm (แอปเลิฟเตือนรัก) ซีซั่นแรก สร้างจากเว็บตูนชื่อดังโดยชนกเยยอง กับเรื่องราวที่ใครก็ตามที่มีความรักสามารถเข้าถึงได้ ซีรีส์ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจนนำมาสู่การเปิดบทใหม่ของ ซีรีส์เกาหลีแนวโรแมนติกวัยรุ่นประเภท “high-teen” ขึ้น จากความคล้ายอันน่าทึ่งราวกับออกมาจากหน้าเว็บตูน นักแสดงหลักทั้งสามคน คิมโซฮยอน จองการัม และ ซงคัง ต่างมีเคมีที่เข้ากันอย่างลงตัวจนบรรดาแฟนๆต่างก็รู้สึกปลื้มและติดตามเชียร์ ฮเยยอง และซอนโอ อย่างใกล้ชิด

แฟนคลับจากทั่วทุกมุมโลกต่างเขียนถึงความต้องการที่จะเห็นเรื่องราวความรักของทั้งสามคนว่าจะลงเอยอย่างไรในหลากหลายภาษา จำนวนผู้ติดตามของซงคังบนโลกออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น 25 เท่าในเวลาอันสั้น นี่คือสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความชื่นชอบและกระแสตอบรับที่ดีจากบรรดาแฟนๆ และแล้วพวกเขาก็ได้หวนกลับมาอีกครั้งในรอบสองปีเพื่อสะกดผู้ชมทั่วโลกกับเรื่องราวรักโรแมนติกในโลกที่ไม่สามารถซ่อนความรักได้

คิมโซฮยอน ในบทบาทของ คิมโจโจ ผู้ซ่อนความรู้สึกในหัวใจและปิดกั้นตัวเองจากโลกที่ความรักแจ้งเตือนให้ทุกคนได้ยินกันอย่างเปิดเผย ผู้กำกับคิมจินอูเผยว่า คิมโซอยอน “ใช้ความสามารถในการสื่ออารมณ์ที่ซับซ้อนได้ดีจนทำให้เขาทึ่งมากกับฝีมือการแสดงของเธอ” การเก็บรายละเอียดและการแสดงที่เข้าถึงอย่างล้ำลึกของเธอในบทบาทของ โจโจ บ่งบอกถึงตัวละครที่มีความลังเลในการเทใจให้ระหว่างฮเยยอง และซอนโอกับการค้นพบความรู้สึกที่แท้จริงที่ตัวเธอเองมี

จองการัมในบทบาทของฮเยยอง ผู้ยืนอยู่เคียงข้างโจโจเสมอมา โดยจองการัมถือว่าเป็นฮเยยองในอุดมคติของผู้กำกับ คิมจินอูเล่าว่า “เขามีความคล้ายฮเยยอง ทั้งในเรื่องของความอ่อนโยน ความพยายาม และความจริงใจ” แม้ว่าโจโจไม่ยอมแสดงท่าทีที่จะตอบรับการแจ้งเตือนของเขาก็ตาม ฮเยยองก็ยังคงอยู่เคียงข้างเสมอ ด้วยความรักที่มีมาอย่างยาวนานต่อเธอโดยไม่ย่อท้อ

ซงคังในบทบาทของซอนโอ ชายผู้ซึ่งทำให้ผู้ชมเห็นอกเห็นใจในกับความกระตือรือร้นต่อความรักที่ส่งเสียงเตือนให้แก่โจโจแต่เพียงผู้เดียว “ซอนโอ เปลี่ยนเป็นคนละคนกันเลยในซีซั่นสองจากซีซั่นแรก ผู้ชมจะได้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่และความช่างคิดของซอนโอที่มีมากขึ้น” ซงคังกล่าวไว้ โดยเขาได้เสริมมิติการแสดงของตัวละครและการเข้าถึงอารมณ์ในบทบาทของซอนโอ ผู้ต้องเผชิญกับความปวดร้าวของรักแรกที่เขาไม่อาจลืมเลือนได้แม้กาลเวลาจะดำเนินต่อไปก็ตาม

โดยนักแสดงแต่ละคนต่างก็ไม่หยุดเรียนรู้และได้พัฒนาฝีมือตนเองอย่างต่อเนื่อง การกลับมาร่วมงานอีกครั้งแม้จะทิ้งช่วงมาระยะหนึ่งแต่เคมีระหว่างนักแสดงก็ยังกลมกลืนเช่นเดิม คิมโซฮยอนกล่าวถึงการร่วมแสดงอีกครั้งว่า "เราต่างก็มีความกลมเกลียวกันมากขึ้นในกลุ่มของเราเองสำหรับซีซั่นสองนี้ โดยไม่จำเป็นต้องปรับมุมมองหรือจูนการสื่อสารกันเลย" จองการัมกล่าวว่า “การรับบทเป็นฮเยยองตลอดซีซั่นแรกและสอง ทำให้ผมเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง” เช่นเดียวกับนักแสดงอื่นๆที่กลับมารับบทอีกครั้งทำให้มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิมและอินกับบทบาทของตนเองเพื่อโฟกัสในตัวละครที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ส่งผลให้ทุกคนมีแผนร่วมกันในการสร้างและพัฒนาตัวละครที่มีหลายมิติยิ่งขึ้น ซงคังกล่าวไว้ว่า “ผมเคยมีความกังวลมากกับการรับแสดงเป็นตัวละครหลัก แต่ในซีซั่นสอง ผมมีความมั่นใจและเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น” สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตและพัฒนาการที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับตัวละครที่พวกเขาได้เข้ามารับบทบาท

นับตั้งแต่วันออกอากาศของ Love Alarm กับเรื่องราวในโลกที่มีแอปมือถือที่แจ้งเตือนผู้ใช้เมื่อมีใครบางคนชอบคุณอยู่อยู่ในรัศมีระยะ 10 เมตร ผู้คนต่างพึ่งพาการใช้แอปนี้ในการแสดงความในใจแทนการใช้คำพูดเช่น “ฉันชอบคุณ” หรือ “ฉันรักคุณ” โดยแอปได้รับการอัพเดทฟีเจอร์ที่ระบุรายชื่อคนที่ “มีแนวโน้มว่าคุณจะชอบ” และ “คนที่มีแนวโน้มว่าจะชอบคุณ”ส่งผลให้แอปขยายอิทธิพลในวงกว้างยิ่งขึ้นต่อชีวิตประจำวันของผู้ใช้ เมื่อจำนวนหัวใจของคนที่ชอบคุณเปรียบเสมือนการวัดระดับความนิยมของตัวเอง ทำให้เกิดชมรม Love Alarm Badge คลับขึ้น ซึ่งเป็นชมรมพิเศษสำหรับคนเสน่ห์แรงโดยเฉพาะ โดยวัดจากคนที่ได้รับหัวใจมากกว่าสามพันดวงจากแอป ส่วนใครก็ตามที่ไม่มีใครมาชอบผลลัพธ์ของการไม่ได้หัวใจจากแอปนี้ก็ยิ่งทำให้พวกเขามีความรู้สึกที่โดดเดี่ยวยิ่งกว่าเดิม ทำให้ส่งผลกระทบต่อเนื่องทั้งในด้านสังคมและอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในวงกว้าง และมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวละครหลักที่จะสั่นคลอนชีวิตของพวกเขามากกว่าที่คาดคิด ผู้กำกับคิมจินอูกล่าวถึงผลกระทบต่อสังคมที่ถูกตีแผ่ในซีซั่นสองว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่ผู้ชมสามารถเข้าถึงเรื่องราวเหล่านี้ได้ด้วยตัวเองแทนคำพูดโดยตรง สิ่งที่อยากจะสื่ออย่างเป็นธรรมชาติคือผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตัวละครต่างๆภายใต้ ปรากฏการณ์ทางสังคมที่เกิดขึ้น”

นอกจาก โจโจ ฮเยยอง และซอนโอ ตัวละครอีกสี่คนจากเว็บตูนอย่าง กุลมี ยุกโจ มอนซูน และไบรอัน ชอน จะเติมสีสันให้กับเรื่องราวของโลกที่ถูกสั่นคลอนจาก Love Alarm นี้

โกมินชี ในบทบาทของกุลมี ผู้มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นเซเล็บแห่ง Love Alarm Badge คลับ ที่จะเป็นได้เฉพาะผู้ที่เก็บแต้มหัวใจมากกว่าสามพันดวงในแอป กุลมีมีความกระตือรือร้นและความมุ่งมั่นอย่างมากในการเก็บแต้มหัวใจ และมีความสามารถที่จะสร้างความฮือฮาทุกครั้งที่เธอเดินไปไหนมาไหน ความทะเยอทะยานและจุดหมายปลายทางในการเอาชนะใจทุกคนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทีละนิดภายในใจของเธอเอง  

คิมชีอึน ในบทบาทของยุกโจ แฟนสาวของซอนโอและเป็นสมาชิกสุดเอ็กซ์คลูซีฟแห่ง Love Alarm Badge คลับ เธอเป็นเซเล็บที่มีเสน่ห์ที่เพียบพร้อมไปทุกอย่าง สิ่งเดียวที่เธอไม่ได้ครอบครองคือหัวใจของซอนโอ แม้ว่าสัญญาณของเขาจะไม่แจ้งเตือนบนมือถือเธอก็ตาม ยุกโจมีความเชื่อว่าซอนโอจะหันมาชอบเธอในเวลาไม่ช้า ซีซั่นสองจะนำสู่จุดเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในความสัมพันธ์ของพวกเขา

โจยอจอง เธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของคิมโจโจ ทั้งยังเป็นคนเดียวที่รู้ความในใจของโจโจและคอยดูแลเธออย่างดี เธอเป็นผู้ที่มีความเชื่อว่าความรักเกิดจากการถูกชะตากันในแวบแรก อีกทั้งมอนซูนก็ชื่นชอบฟีเจอร์ใหม่ๆของ  Love Alarm เวอร์ชั่น 2.0 มากๆด้วย

คี ดู-ฮุน แสดงในบทบาทของชองด็อกกู นักพัฒนาแอปที่มีเสน่ห์แต่เป็นผู้มีความคิดแหวกแนว โจโจได้นำฟีเจอร์ที่มีโล่ป้องกันออกไปได้และพยายามที่จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนให้ถึงฮเยยอง เธอได้ตั้งข้อสงสัยว่า ชองด็อกกู ผู้มอบโล่ป้องกันให้เธอนี้ น่าจะเป็นนักพัฒนาแอปจึงหันมาตามหาเขา โดยหลังจากแอป Love Alarm ออกเวอร์ชั่น 2.0 ใหม่ นักพัฒนาผู้นี้ก็ได้เป็นที่รู้จักในฐานะคนชื่อ ไบรอัน ชอน ผู้ชมจะได้ร่วมลุ้นไปพร้อมๆกันว่าโจโจจะสามารถไขปริศนาว่าแท้จริงแล้วคนๆนี้คือชองด็อกกูตามที่เธอสงสัยหรือไม่

นักแสดงและตัวละคร

“ฉันสารภาพกับเขาเป็นครั้งแรกว่าฉันชอบเขา”

คิมโจโจㅣคิมโซฮยอน

Q. ภาคนี้แตกต่างจากภาคแรกอย่างไร?

ตัวละครโจโจเติบโตขึ้นค่ะ ช่วงเวลาที่ใช้กับฮเยยองทำให้เธอรู้สึกสบายใจและเริ่มเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ หลักๆเลยคือการที่เธอไม่สามารถใช้ระบบ Love Alarm ด้วยข้อจำกัดบางประการ ได้สร้างความเจ็บปวดและทุกข์ใจอย่างมาก การได้เห็นและเข้าถึงจิตวิทยาของตัวละครทำให้ฉันเข้าใจความสัมพันธ์ของฮเยยองและซอนโอค่ะ

Q. อะไรคือสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณตอนแสดงบทเป็นโจโจ?

มีบทหนึ่งจากซีซั่น1 ที่โจโจได้พูดว่า “ฉันจะยังคงมองโลกในแง่ดีและเข้มแข็งต่อไป…” ฉันจึงพยายามที่จะถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกนั้นต่อไปตลอดซีซั่น2 ในมุมที่ตัวละครเข้มแข็งและยืดหยัดที่จะไม่ให้ตัวเองพังทลายลง ในขณะเดียวกันฉันก็พยายามที่จะไม่ละเลยความรู้สึกนึกคิดที่ซับซ้อนของเธอที่มีต่อฮเยยองและซอนโอ โจโจยังคงรู้สึกผิดอย่างต่อเนื่องที่ทำให้ซอนโอเจ็บปวดตอนที่พวกเขาเลิกกัน ฉันพยายามหาทางที่จะถ่ายทอดสถานการณ์ให้มีชั้นเชิงเพื่อที่คนดูจะได้รู้สึกเห็นอกเห็นใจมากกว่าหงุดหงิด...พวกเขาจะได้พูดได้ว่า “ฉันเข้าใจโจโจและก็ซอนโอนะ”

Q. รู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อได้ร่วมงานกับจองการัมและซงคังอีกครั้ง?

พวกเราสนิทกันอยู่แล้วเมื่อตอนทำงานด้วยกันซีซั่นแรก แต่พอซีซั่น2กลุ่มพวกเราก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้น พวกเราไม่ต้องพยายามปรับมุมมองหรือปรับการสื่อสารปฏิสัมพันธ์กันเลย ทุกอย่างเป็นไปอย่างธรรมชาติดังนั้นแล้วพวกเราจึงสามารถโฟกัสที่ตัวละครได้ พวกเราเชื่อใจกันและกันในฐานะนักแสดงและในฐานะเพื่อนด้วยค่ะ

Q. ไฮไลท์ของซีซั่น2คืออะไร?

ประเด็นสำคัญคือการที่โจโจก้าวข้ามความเจ็บปวด ส่วนประเด็นที่น่าสนใจอื่นๆคือการที่โจโจ ฮเยยองและซอนโอเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นและยอมรับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของพวกเขาค่ะ

“ฉันจะชอบเธอต่อไปเรื่อยๆนะ แต่เธอไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้”

อีฮเยยอง ㅣจองการัม

Q. ภาคนี้แตกต่างจากภาคแรกอย่างไร?

หากซีซั่นแรกเป็นเรื่องของการเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ห่างๆ ซีซั่นสองต่างกันที่ตัวละครจะเริ่มแสดงออกในการเข้าหาโจโจมากขึ้นและพวกเขาอยากจะแก้ไขปัญหาทุกอย่างไปพร้อมกัน เมื่อเปรียบกับซีซั่น1 มีหลายฉากที่ต้องถ่ายทอดความรู้สึกลึกซึ้ง ความเจ็บปวดของฮเยยองที่ปรากฎขึ้นทำให้ผมเกือบจะร้องไห้เมื่อถ่ายทำ การคลี่คลายของเรื่องมีความน่าสนใจเมื่อฮเยยองไม่รู้มาก่อนว่าโจโจใช้ระบบโล่ป้องกันไว้และแอบรักเธอแบบเงียบๆในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงเตือนจาก Love Alarm

Q. อะไรคือสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณตอนแสดงบทเป็นอีฮเยยอง?

ความแตกต่างในเรื่องการแสดงออกทางอารมณ์ของฮเยยอง ที่ทั้งผู้กำกับและผู้เขียนต่างก็อยากให้ถ่ายทอดออกมาในแบบที่ต่างกัน ทั้งเมื่อตอนที่เขาเป็นฮเยยองในแบบของเขาเองและเมื่อตอนที่เขาอยู่กับโจโจหรือแม่ของเขา ผมพยายามแสดงด้านดีๆของเขาออกมาในมุมที่ไม่ดึงให้คนที่อยู่รอบตัวเขารู้สึกแย่ ต่อให้เขาจะเจอความท้าทายต่างๆในชีวิตก็ตาม

Q. รู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อได้ร่วมงานกับคิมโซอยอนและซงคังอีกครั้ง?

หลังจากซีซั่น1 พวกเราต่างก็แยกกันไปใช้ชีวิต เมื่อพวกเรามาพบกันอีกครั้ง ผมรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน ตอนนี้พวกเราสนิทกันและรู้ใจกันแบบที่สามารถพูดคุยอะไรก็ได้อย่างมั่นใจ ตอนถ่ายทำผมจะแชร์ความคิดเห็นและถามว่า “พวกเราลองทำแบบนี้กันไหม” หรือ “ทำแบบนี้จะน่าสนใจกว่าเดิมไหม” ผมเคยรู้สึกประหม่ากับการถ่ายทอดความรักที่กำลังจะผลิบานกับคิมโซฮยอนที่ยังไม่เกิดขึ้นเลยในซีซั่นแรก บทกับซงคัง ผมพยายามที่จะแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ว่ายังคงสนิทกันแต่ก็ระแวงกันมากขึ้นถ้าเทียบกับซีซั่นแรกที่มิตรภาพของพวกเขาบริสุทธิ์และร่าเริงมีพลัง เพื่อถ่ายทอดอารมณ์นี้ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำผมจะตั้งใจเก็บตัวเองห่างๆกับทุกคนก่อน หลังจากนั้นผมถึงค่อยใช้เวลาอิสระกับพวกเขาไม่ว่าจะกิน พูดคุยหรืออ่านบทด้วยกันครับ

Q. ไฮไลท์ของซีซั่น2คืออะไร?

ซีซั่นแรกทำให้พวกเราเข้าใจกันและกันและความรู้สึกของตัวเอง ส่วนในซีซั่น2พวกเราได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความรู้สึกว่าไม่ควรยึดติดกับแอปแต่ควรแสดงออกอย่างจริงใจ พวกเราเติบโตขึ้นและอยู่ในขั้นตอนของการเยียวยาจากความเจ็บปวด ในที่สุดโจโจก็เริ่มเปิดใจให้ฮเยยองผู้โหยหาความรักและเขาก็ทำตัวน่ารักกับเธอในระหว่างความรักที่กำลังผลิบาน ผมตื่นเต้นและดีใจที่ได้เล่นบทนี้และหวังว่าจะไม่ทำให้พวกคุณผิดหวัง

“ถึงเวลาที่เธอต้องดูส่วนลึกของหัวใจตัวเองแล้ว

ฉันไม่สามารถปล่อยเธอไปด้วยเหตุผลหลายๆอย่างที่ไม่อาจเข้าใจได้”

ฮวังซอนโอㅣซงคัง

Q. ภาคนี้แตกต่างจากภาคแรกอย่างไร? อะไรคือสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณตอนแสดงในบทนี้?

คงไม่ใช่เรื่องเว่อร์เลยที่จะพูดว่าซอนโอจากซีซั่นแรกต่างกันคนละคนเลยในซีซั่นสอง ผู้กำกับคิมจินอูต้องการถ่ายทอดตัวละครที่โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ผมจึงลดระดับความขี้เล่นของเขาลง ซึ่งการที่ผมเป็นคนที่ขี้เล่นอยู่แล้วมันเป็นเรื่องที่ยากทีเดียวที่จะต้องปรับในช่วงแรก แต่สักพักหนึ่งพอผมอินกับบทของตัวละครนี้กลายเป็นว่าผมไม่ได้รู้สึกอยากจะทำตัวบ้าๆบอๆเลยครับ ผมใช้เวลาและความพยายามอย่างมากในการศึกษาเกี่ยวกับตัวละครของซอนโอจากซีซั่นแรกเพื่อที่จะสานต่อความโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นได้ดียิ่งขึ้น ผมหวังว่าผู้ชมจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยการเห็นซอนโอในบทที่มาดขรึมขึ้นและสลัดลุคความเป็นเด็กออกไปครับ

Q. รู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อได้ร่วมงานกับคิมโซอยอนและจองการัมอีกครั้ง?

ในซีซั่นแรกความสัมพันธ์ระหว่างโจโจและซอนโอเข้าสู่เริ่มต้น การพัฒนาและเจอกับอุปสรรคต่างๆ ส่วนซีซั่นสองจะเริ่มคลี่คลายจากจุดพีคและปิดฉาก ผมสนิทกับคิมโซฮยอน การทำงานด้วยกันเลยเป็นเรื่องที่สนุกและเพลิดเพลินทั้งสองซีซั่น สำหรับจองการัมนั้น ผมไม่ได้เข้าฉากกับเขามากเท่าไหร่ในซีซั่นสอง ผมเลยให้ความสำคัญมากในแต่ละฉากที่เราอยู่ด้วยกัน และเนื่องจากผมสนิทกับเขาอยู่แล้ว การทำงานด้วยกันเลยเป็นอะไรที่ง่ายขึ้น ในการแสดงอารมณ์ที่มีความซับซ้อนและขัดแย้งกันระหว่างมิตรภาพและความรักครับ

Q. รู้สึกอย่างไรกับการร่วมงานกับผู้กำกับคิมจินอู

ผู้กำกับคิมจินอูเป็นคนขี้เล่นเหมือนผม ผมเลยรู้สึกผ่อนคลายเวลาทำงานร่วมกันในช่วงการถ่ายทำ เขามีความเชื่อมั่นในการแสดงหลายๆด้านของผม ผมจึงสามารถเตรียมตัวกับบทของผมได้เต็มที่และถ่ายทอดความรู้สึกตัวเองได้อย่างอิสระครับ

Q. ไฮไลท์ของซีซั่น2คืออะไร?

ซีซั่นหนึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของวัยรุ่น ต่างจากซีซั่นสองที่เป็นเรื่องของความรักความสัมพันธ์ที่เติบโตไปด้วยกัน เมื่อความรักเกิดผ่านแอป การที่เราเก็บมุมมองนี้ไว้เป็นจุดศูนย์กลางจะสามารถทำให้ผู้ชมติดตามซีรีส์นี้ได้อย่างมีอรรถรสมากขึ้น ซีซั่นสองนี้มีทั้งเรื่องราวที่สนุกและเยียวยาหัวใจ ผมหวังว่าผู้ชมจะกลับมาติดตามซีรีส์เรื่องนี้กันอีกครั้งครับ

บทสัมภาษณ์ผู้กำกับคิมจินอู

Q. คุณได้เข้ามากำกับ Love Alarm 2  ได้อย่างไร?

ผมได้รับข้อเสนอในการกำกับ Love Alarm 2  ในช่วงที่ผมอยากจะลองกำกับเรื่องราวแนวอื่นๆที่แตกต่างจากผลงานที่ผ่านมา โดยเฉพาะอยากกำกับแนวดราม่าหรือแนวโรแมนติกคอมเมดี้ครับ ผมมองว่าคงเป็นเรื่องท้าทายดีในการนำเสนอการพัฒนาตัวละคร กับเรื่องราวที่ยังเล่าไม่หมดจากซีซั่นที่แล้ว บทละครในเรื่องสามารถถ่ายทอดทั้งสองสิ่งนี้ออกมาได้อย่างสมดุลและไหลลื่น ผมเลยไม่มีอะไรที่ต้องกังวลเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เข้ามากำกับซีรีส์แนวนี้ ผมกลับรู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสนี้และไม่ได้ลังเลเลยที่จะตอบรับข้อเสนอในการกำกับเรื่องนี้ครับ

Q. อะไรคือสิ่งสำคัญสำหรับคุณในการกำกับซีรีส์นี้?

ผมพยายามปรับแก้ไขเรื่องราวอันน่าทึ่งที่ยังเล่าไม่จบในด้านแผลเก่าของโจโจกับสิ่งที่เปลี่ยนในด้านความรู้สึกของตัวละครนี้ ส่วนตัวผมรู้สึกชื่นชอบการดำเนินเรื่องของซีรีส์และการนำเสนอโลกแห่งจินตนาการในเชิงสัญลักษณ์ต่างๆที่มีอยู่ในเว็บตูนนี้ ผมเลยใช้เวลาคิดเยอะและยาวนานกับการหาวิธีนำเสนอเรื่องนี้ในด้านที่น่าดึงดูดมากที่สุด โดยผมพยายามที่จะนำเสนอออกมาจากการใช้อนิเมชั่นและใช้เทคนิคต่างๆ โดยยังรักษาด้านครีเอทีฟของผลงานต้นฉบับไว้ด้วย สำหรับซีซั่นสองต่างจากซีซั่นแรกทั้งด้านของการคุมโทนและวิธีการนำเสนอ เนื่องจากเป็นเรื่องของการก้าวผ่านวัยของกลุ่มเด็กมัธยมที่เข้าสู่ช่วงชีวิตมหาลัยและออกสู่สังคมภายนอก หากพลังบริสุทธิ์ของวัยรุ่นเป็นสัญลักษณ์ของซีซั่นแรก แก่นสารของซีซั่นสองก็คือการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ผมคิดว่าผู้ชมที่ได้ติดตามซีซั่นที่แล้วจะมองถึงความน่าสนใจของการที่เห็นตัวละครต่างๆโตขึ้นในอย่างมีความหมาย ประเด็นทางสังคมที่เกิดจากการปรากฎตัวของ Love Alarm ก็ถูกหยิบยกออกมาเช่นกันครับ โดยผมมีความพยายามที่จะแสดงให้ผู้ชมเห็นถึงผลกระทบของตัวละครต่างๆเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้

Q. อะไรคือสิ่งที่แตกต่างออกไปหรือพัฒนาการที่เห็นได้ชัดเจนในตัวละครต่างๆในซีซั่นสอง?

ตัวละครที่เห็นความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนที่สุดคือซอนโอ กับด้านที่เขาเคยเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองและพึ่งพาตัวเองเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดในซีซั่นแรก แต่ในซีซั่นสองตัวตนของเขาถูกหล่อหลอมจากความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับคนที่อยู่รอบด้านเขาครับ เช่นเดียวกับนิสัยของฮเยยอนที่มีแนวโน้มที่จะคิดและรับผิดชอบทุกอย่างเพียงลำพังในช่วงแรก แต่ในซีซั่นสองเขาเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาของตนเองโดยเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ส่วนตัวต่างๆของเขามากขึ้น โจโจเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงของทุกๆตัวละครและเธอได้ใช้แรงนี้ในการเผชิญหน้าและก้าวข้ามความบอบช้ำทางจิตใจของเธอเองได้ในที่สุด

Q. คุณมีวิธีการทำงานกับนักแสดงอย่างไรบ้าง?

แทนที่ผมจะสอนวิธีให้พวกเขาแสดงให้เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ผมใช้วิธีสังเกตุอย่างใกล้ชิดถึงการตอบสนองของนักแสดงแต่ละคนในสถานการณ์ต่างๆและทำงานร่วมกับวิธีการตีความของพวกเขาให้เป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด จริงๆแล้วผมเรียนรู้อะไรจากพวกเขามากกว่าที่พวกเขาเรียนรู้จากผมด้วยซ้ำ บางครั้งในช่วงที่ได้ร่วมงานกัน พวกเขาทำให้ผมถึงกับพูดว่า “เฮ้ย นี่เป็นการตีความแบบใหม่และน่าสนใจมาก!” คิมโซฮยอน ต้องสื่ออารมณ์ถึงความโดดเดี่ยว ความวิตกกังวล และหลายอารมณ์ที่มีความซับซ้อนเช่นความกลุ้มใจปะปนกับการคาดหวัง เธอทำได้ดีมากถึงจุดที่ผมทึ่งในฝีมือการแสดงของเธอไปเลย เธอไม่เพียงแต่ฉายแววให้กับตัวเธอเองแต่ทำให้นักแสดงที่อยู่ข้างเธอฉายแววเด่นตามไปด้วย ในเรื่องของพลังบวก ซงคังมีเยอะที่สุดในกองถ่ายครับ เขามีความถนัดในการปรับตัวตามสถานการณ์ต่างๆและมีพรสวรรค์ในการนำเสนอเสน่ห์ในหลายๆด้านอย่างเป็นธรรมชาติ จองการัม มีความคล้ายกับฮเยยองในด้านที่พวกเขาทั้งสองมีความอ่อนโยน ความพยายามและความจริงใจ เขาแสดงจากการตีความที่ไม่ซ้ำใครและทำงานอย่างหนักมากในการทำความเข้าใจบทให้ลึกซึ้งและลำดับซีนต่างๆในใจก่อนการแสดงได้อย่างดีครับ

Q. สุดท้ายคุณอยากจะกล่าวอะไรเกี่ยวกับซีรีส์ที่จะถูกเผยแพร่ไปกว่า 190 ประเทศ? 

การถ่ายทอดผลงานที่สร้างสรรค์ไปยังผู้คนที่แตกต่างในหลากหลายประเทศและได้เห็นว่าพวกเขาคิดยังไงกับงาน ถือเป็นเกียรติที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้กำกับครับ ผมมีความมั่นใจและหวังว่าทางเราจะไม่ทำให้แฟนที่รอชม Love Alarm 2 ผิดหวังครับ