กาย เพียร์ซ แหกนรก

นักแสดงบางคนเก่งกาจและมีเสน่ห์มากๆ เราอยากเห็นพวกเขามีผลงานโด่งดัง เป็นนักแสดงทำเงินในระดับโลก มีหนังทำที่รายได้ถล่มทลาย แต่ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง อาจเพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดในการเลือกงานแสดง ทำให้พวกเขากลับเหมือนติดแหง็ก หรือถูกคุมขังไม่ให้รุ่งได้เสียที ซึ่งกาย เพียร์ซ นักแสดงนำของLockout เป็นคล้ายๆ แบบนั้น เขาแจ้งเกิดและเป็นที่ยอมรับในความสามารถจากหนังอย่าง The Adventures of Priscilla,Queen of the Desert, L.A. Confidential และ Memento แต่ก็ดูเหมือนกลับต้องมาแป้กเพราะหนังอย่าง The Time Machineแล้วเมื่อกำลังจะกลับมารุ่งอีกครั้งเพราะผลงานการแสดงอย่างในหนังออสการ์ The Hurt Locker และ The King’s Speech การรับบทนำใน Lockout กลับกลายมาเป็นเหมือนตัวฉุดรั้งเขาอีกครั้ง การแสดงของเพียร์ซนั้นยียวนชวนหลงใหลมาก และดูสนุกเมื่อเล่นเข้าคู่กับแม็กกี้ เกรซ นักแสดงนำหญิงของเรื่อง แต่ทั้งหมดถูกกลบไปเพราะการที่มาอยู่ในหนังที่ไม่เพียงเป็นการลอกสูตรหนังเก่าหลายเรื่องแล้ว ยังเล่าเรื่องได้อย่างค่อนข้างจืดชืด ขาดความตื่นเต้น มีงานสร้างและเทคนิคพิเศษที่ถูกและเห่ยอย่างมากจนเราเสียดายคุณค่าทางการแสดงของเขาเลย

เหตุการณ์ในหนัง Lockout เกิดขึ้นในปี 2079 ปีที่โลกส่งนักโทษไปคุมขังอยู่ในคุกกลางอวกาศ ชื่อ MS1 ที่ไม่เพียงการคุ้มกันแน่นหนาแล้วยังมีการจับแช่แข็งอยู่ในนั้นด้วย แม็กกี้ เกรซ รับบทเป็นเอมิลี่ วอร์น็อค ลูกสาวประธานาธิบดีและนักสิทธิมนุษยชนที่เดินทางไปที่คุกดังกล่าวเพื่อดูสภาพความเป็นอยู่ เพราะสงสัยว่าขั้นตอนแช่แข็งนั้นส่งผลให้นักโทษเหล่านี้กลายเป็นบ้า หรือสมองเสื่อม และยังสงสัยด้วยว่าบริษัทที่ให้การสนับสนุนโครงการอวกาศในครั้งนี้สมรู้ร่วมคิดกับทางการในการจับนักโทษเหล่านี้มาเป็นหนูทดลอง ซึ่งขณะที่เธออยู่ที่นั่นก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นทำให้นักโทษหลุด เกิดการยิงกัน และยึดคุกอวกาศนั่นเพื่อต่อรองกับทางการ

ขณะเดียวกันนั้นบนโลก สโนว์ ตัวละครองของกาย เพียร์ซ (ที่กว่าเราจะรู้ชื่อจริงของเขาก็ถึงตอนจบของหนัง ซึ่งชื่อจริงเป็นมุขตลกที่ตั้งใจจะส่งให้ฮา แต่จังหวะของหนังทำให้กลายเป็นมุขแป้ก) อดีตสายลับของซีไอเอก็ถูกเข้าใจผิดว่าฆ่าพวกเดียวกันเองระหว่างคอยปกป้องเพื่อนในการแลกเปลี่ยนข้อมูลลับด้านโครงการอวกาศ พวกเขาเป็นคนดีและอยากให้ข้อมูลนี้อยู่ในมือของผู้ที่ทำให้เกิดประโยชน์แก่มวลมนุษย์ได้ แต่คนร้ายนั้นต้องการข้อมูลเอาไปขายต่อ ตำรวจลับนั้นจับกุมสโนว์ได้ และเอาผิดเขาข้อหาที่ฆ่าเพื่อนซึ่งเขาไม่ได้ทำ และได้รับข้อเสนอให้ไปช่วยลูกสาวประธานาธิบดีเพื่อแลกกับการยกเลิกข้อหาทั้งหมด สโนว์รับเงิน แต่เจตนาที่จริงแล้วคือไปยังคุกเพื่อพบเพื่อนอีกคนที่ถูกขังอยู่ในนั้น และถามถึงที่ซ่อนของข้อมูลลับ หลังจากนั้นก็เข้าสูตรหนังบู๊แนวแหกคุกช่วยตัวประกันแบบที่เราเคยเห็นกัน

หนังเป็นการกำกับครั้งแรกของผู้กำกับโฆษณา สตีเฟ่น เซนต์ เลเกอร์ กับ เจมส์ เมเธอร์ โดยร่วมเขียนบทกับลุค เบสซง โดยลอกองค์ประกอบทางโครงเรื่องจาก Escape from New York ที่พระเอกเป็นยอดนักบู๊ต้องบุกเข้าดินแดนนักโทษเพื่อช่วยลูกสาวประธานาธิบดี แล้วมาผสมกับหนัง Die Hard ตรงที่พระเอกคนเดียวต้องกึ่งหนีกึ่งสู้กับผู้ร้ายเป็นฝูงในพื้นที่ปิด แล้วให้ความสัมพันธ์ของพระนางเป็นแบบคู่กัดคล้าย Romancing the Stone โดยมีความตั้งใจจะสร้างกาย เพียร์ซ เป็นพระเอกนักบู๊คนใหม่เหมือนเลียม นีสันที่ลุค เบสซง ทำมาแล้วสำเร็จจาก Taken แต่ทุกอย่างล้มเหลวหมดเพราะผู้กำกับไม่สามารถเล่าเรื่องสูตรสำเร็จนี้ได้น่าติดตามเท่าต้นฉบับที่พวกเขาหยิบยืมมา จังหวะจะโคนในการเล่าขาดความเร่งเร้าที่จะก่อให้เกิดความมันส์ได้ นอกจากนี้ หนังมีปมอยู่เยอะแย่ที่ต้องคลี่คลาย ทั้งเรื่องสมรู้ร่วมคิด เรื่องสายลับ เรื่องมนุษยธรรม แล้วทั้งหมดมาแย่งเวลาของฉากบู๊เอาตัวรอด แล้วเมื่อจะคลี่คลายปมทั้งหมดก็ทำออกมาอย่างง่ายดาย หาทางออกให้อย่างตื้นเขิน ไม่ควรให้รู้สึกลุ้นหรือตื่นเต้นตามเลย

งานสร้างทุกอย่างของหนังก็เหมือนหนังเกรดบี ที่เป็นเกรดบีอย่างแย่ด้วย การออกแบบฉากต่างๆ ดูเชยและถูก ส่วนเทคนิคพิเศษต่างๆ ก็ดูหลอกตาอย่างมาก ฉากกาย เพียร์ซ ขี่มอเตอร์ไซค์อนาคตหนีบนถนนแล้วหลบหลีกการไล่ล่าดูออกเลยว่าเป็นงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิกทั้งหมดที่เหมือนหนังการ์ตูนหยาบๆ

สิ่งเดียวที่ทำให้ทนดูหนังเรื่องนี้จบได้ก็คือกาย เพียร์ซ ที่นอกจากไปฟิตหุ่นให้กำยำสมเป็นพระเอกนักบู๊แล้วยังส่งบทบาทที่ยียวนกวนประสาท ได้อย่างน่ารักน่าชัง ดูเก่งกล้าสามารถได้อย่างน่าเชื่อ เป็นการออกแบบตัวละครได้อย่างมีเสน่ห์และชวนให้หลงรัก แต่น่าเสียดายที่ตัวละครนี้มาอยู่ในหนังที่ด้อยคุณภาพ ทำให้ส่วนที่ด้อยของหนังมาขังเสน่ห์ของเพียร์ซไม่ให้หลุดออกมา

หลังจาก Lockout แล้ว เพียร์ซยังจะผลงานให้ติดตามอีกจากบทร้ายๆ ใน Lawless ของผู้กำกับจอห์น ฮิลโค้ท และ Prometheusของผู้กำกับริดลี่ย์ สก็อต ซึ่งเพียร์ซจะได้แสดงความเก่งกาจได้การแสดงของเขาอีกครั้งซึ่งเราหวังว่ามันจะช่วยให้เขาได้กลับมาเป็นพระเอกนักบู๊อีก

jediyuth.wordpress.com