เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเช้าดูวู้ดดี้

 

            ตกเป็นกระแสข่าวอย่างต่อเนื่อง สำหรับหนุ่มสุดหล่ออย่าง "นิชคุณ หรเวรกุล" น้องร้องสัญชาติไทย หนึ่งในสมาชิกบอยแบนด์ชื่อดังของเกาหลีอย่าง "2PM" ที่ขับรถประสบอุบัติเหตุชนกับรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม ที่ผ่านมา อีกทั้งผลจากการตรวจแอลกอฮอลล์ในเลือดของนิชคุณมีปริมาณเกินกว่ากฏหมายกำหนดไว้ ยังทำให้นิชคุณถูกยึดใบขับขี่ชั่วคราว ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องดังกล่าว วงการบันเทิงเกาหลีที่ค่อนข้างเข้มงวดกับเรื่องดังกล่าว ก็ได้มีการระงับการออกอากาศชั่วคราวในรายการที่เกี่ยวข้องกับนักร้องหนุ่มคนดัง ขณะที่บางโฆษณาก็ได้ทำการปลดภาพของนิชคุณจากการเป็นพรีเซนเตอร์ออก ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

           อย่างไรก็ตาม ทางด้านนิชคุณก็ได้ออกมากล่าวขอโทษคู่กรณี รวมถึงต้นสังกัด เพื่อนร่วมวง และแฟน ๆ ที่ทำให้ผิดหวัง... และล่าสุดวันนี้ (1 สิงหาคม) ทางณิชฌาน หรเวชกุล และ เชอรีน ณัฐจารี หรเวชกุล พี่ชายและน้องสาวสุดรักของ นิชคุณ ก็ได้มาอัพเดทเรื่องราวของนิชคุณ ผ่านทางรายการ เช้าดูวู้ดดี้ ให้ได้ฟังว่า..

 

 

 

            "ตอนนี้คุณยังอยู่ที่เกาหลีครับ เขายังรู้สึกเสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเสียใจมากอีกอย่างคือ ทำให้สมาชิกของวง 2PM ต้องเหนื่อยและทำงานหนักมากขึ้น ต้องซ้อม ต้องร้องใหม่ทุกอย่าง เมื่อไม่มีเขาอยู่ในวง มันเป็นความเสียใจที่บอกไม่ถูก คุณพ่อคุณแม่เพิ่งกลับมาก็บอกว่าคุณเสียใจมากจริง ๆ และยอมรับผิดชอบยอมรับผิดทุกอย่างที่เกิดขึ้น

 

            ส่วนผมกับน้องเชอรีนก็พยายามคุยและให้กำลังใจเขาตลอด คุย WhatsApp กันตลอด พยายามชวนเขาคุยเรื่องสนุก ๆ เวลาคุยโทรศัพท์กับเขารับรู้ได้เลยว่าเขาเสียงยังไม่ค่อยดีมากนัก ในครอบครัวทุกคนก็พยายามดูแลและให้กำลังใจเขา อย่างล่าสุดเรามีโพสต์ภาพให้กำลังใจเขาแบบสนุก ๆ เพราะไม่อยากให้เขาคิดมาก กลับกลายเป็นว่าทางเกาหลีเขาไม่ชอบสิ่งที่เราโพสต์ เขาคิดว่าในเมื่อเกิดเหตุการณ์เป็นแบบนี้ มีคนบาดเจ็บแล้วทำไมครอบครัวนิชคุณยังร่าเริงอยู่ เขาไม่เข้าใจว่าเราต้องการให้กำลังใจนิชคุณ ผมก็เลยโพสต์ขอโทษ และพยายามอธิบายไป ซึ่งก็น่าจะโอเคและเข้าใจเรามากขึ้น เราเพียงต้องการให้กำลังใจคนในครอบครัวเรา ซึ่งเราทุกคนรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันผิดนะและเราก็ยอมรับ

 

           เราก็เป็นห่วงความรู้สึกของคุณด้วย มันเป็นความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ผมรู้ว่าเขาเสียใจมาก แต่เขาไม่เคยร้องไห้เลย หรือถ้าเขาร้องไห้ก็คงไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นอย่างแน่นอน ณ ตอนนี้ทางค่ายก็ดูแลเขาอยู่ที่เกาหลี ให้เขาพักและฝึกซ้อมงานให้แข็งแรงขึ้น เก่งขึ้นด้วย ส่วนเรื่องอื่น ๆ ทางค่ายก็คงดูแลและแจ้งกลับมา ทางครอบครัวเราก็ดูแลและให้กำลังใจเขาทุกวัน เราคุยกันทุกวันครับ"

 

 

 

 

 

 

cr.http://www.kapook.com