กรมอนามัยแนะวิธีถนอมสายตา หลังใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟนเวลานาน ย้ำกะพริบตาถี่ๆ ใช้น้ำตาเทียม พักสายตาทุกชั่วโมง กินหารมีประโยชน์ บริหารกล้ามเนื้อสายตา ช่วยลดอาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง และสายตาล้า
       
       นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ทำให้สายตาต้องเพ่งหน้าจออยู่เป็นเวลานาน เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาทางด้านสายตา เช่น ปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า สายตาสั้น รวมทั้งผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น ปวดศีรษะ ปวดหลัง ปวดเหมื่อยคอ บ่า ไหล่ โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ควรรู้จักถนอมดวงตา ซึ่งมีหลายวิธี อาทิ กระพริบตาให้ถี่ขึ้น ใช้น้ำตาเทียมหยอดเพิ่มความชุ่มชื้น จัดวางคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม ให้หน้าต่างอยู่ทางด้านข้างจอ เพื่อลดแสงสะท้อน โดยจุดศูนย์กลางของจอให้อยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4 - 9 นิ้ว ใช้ตัวอักษรใหญ่เวลาพิมพ์งาน ปรับความเข้มของตัวอักษร เลือกแว่นที่เหมาะสมเพื่อกรองแสง และใช้เลนส์สีเขียวอ่อนที่ช่วยให้สบายตา นอกจากนี้ ควรพักสายตาทุกชั่วโมง โดยเปลี่ยนอิริยาบถ หรือลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย เพื่อพักสายตาและป้องกันอาการปวดเมื่อย
       
       นพ.พรเทพ กล่าวว่า การบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ดวงตามีสุขภาพดีขึ้น เช่น กินอาหารที่มีโอเมกา 3 กินผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักคะน้า แครอทอุดมไปด้วยเบตาแคโรทีน กินปลาแซลมอน ปลาทูนา กินไข่ ถั่วประเภทนัท และอื่นๆ ที่ไม่ใช่แหล่งโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ส้ม ผลไม้รสเปรี้ยวอื่น ๆ หรือน้ำผลไม้ ช่วยทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซี นอกจากนี้ควรสวมแว่นกันแดดที่สามารถปกป้องดวงตาจากรังสีอัลตร้าไวโอเลต UVA และ UVB ป้องกันต้อกระจก และจอประสาทเสื่อม หลีกเลี่ยงการใส่คอนแทกต์เลนส์เกิน 19 ชั่วโมง อาจทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร
       
       “ทั้งนี้ ควรบริหารกล้ามเนื้อตา โดยการกลอกตาขึ้นลงช้าๆ 6 ครั้ง กลอกตาไปข้างขวา และซ้ายสลับกัน มองวัตถุใกล้ตัว และไกลตัวออกไป และกลอกตาเป็นวงกลมช้า ก็จะช่วยผ่อนคลายและส่งผลดีต่อดวงตา ซึ่งผู้มีอายุระหว่าง 20 - 39 ปี ควรพบจักษุแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ทุก 5 ปี และทุก 2 - 4 ปี สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 40 - 64 ปี” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว