อานัส โต้ ไม่ได้หนีนักข่าว หลังจากที่ กี้-แก้ม ออกมาฉะกันผ่านสื่อ เชื่อ เรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด ไม่กระทบความสัมพันธ์

หลังจากที่ แก้ม-กวินตรา โพธิจักร และ กี้-รฐกร สถิรบุตร เปิดศึกน้ำลายผ่านสื่อ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของอานัส ฬาพานิช แต่กลับกลายเป็นอานัส ที่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับสื่อ ในงานรางวัลละครเรตติ้งสูงสุดของทางช่อง 7 ล่าสุด เจอตัวหนุ่มอานัส สื่อเลยขอสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้

ทั้งนี้ อานัสกล่าวว่า ตนเองไม่ได้หนีสื่อ เเต่เป็นนิสัยส่วนตัว ที่เมื่อเลิกงานแล้ว จะขอตัวกลับเงียบ ๆ เวลาคนเยอะ ๆ ก็จะวางตัวไม่ถูก ส่วนที่วันนั้นมีคนมองว่า ทั้งกี้และแก้มอยู่ในงานนั้น อันที่จริงทั้งคู่ไม่ได้มีส่วนกับการที่ตนหลบหรือไม่ได้หลบนักข่าว เเต่ไม่อยากคุยเรื่องนี้เยอะ เพราะไม่อยากสร้างปัญหาให้ทั้งสองฝ่าย ตอนที่ข่าวออกมาแรก ๆ ทั้งคู่เหมือนดูมีปัญหากันนิดหน่อย และมีการเอาตนเองเข้าไปด้วย ข่าวที่ออกมาเลยดูแรง ก่อนหน้านี้ตนเองเคยมีข่าวกับกี้ ก็บอกเขาไปว่าตนไม่ได้พูด พอโทรไปถามแก้มเรื่องข่าว เขาก็บอกว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น ก็ไม่รู้ว่าใครพูดอะไรบ้าง

ส่วนประเด็นภาพในอินสตาแกรมของกี้ ที่โพสต์รูปขาของผู้ชายคนหนึ่ง และบรรยายใต้ภาพว่า สุนัขคาบไปรับประทาน จนทำให้มีคนสงสัยว่า ขานั้นเป็นขาของอานัส อานัสเองก็ออกมาชี้เเจงว่า ตนเองยังไม่ได้เห็นรูปหรือข้อความ รู้เเต่ว่าเป็นรูปสุนัขบนตักของผู้ชาย และมีการโพสต์ข้อความรุนแรง ตนเองไม่รู้ว่ากี้หมายความว่าอย่างไร อาจไม่ได้หมายถึงตนก็ได้ บางทีคนอาจจะนึกสนุกเอามาเป็นประเด็น สื่ออินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็ว ทำอะไรต้องระวัง อย่าให้คนอื่นเกิดปัญหา ส่วนตัวก็ไม่ได้ซีเรียสกับรูปดังกล่าว คิดว่ากี้ทำไปเพราะความสนุก

ส่วนเรื่องนี้ กระทบความสัมพันธ์กับแก้มหรือเปล่า อานัสตอบว่า ตอนนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรกัน ทุกอย่างอาจจะเกิดจากความเข้าใจผิด พอรวม ๆ กันแล้วมันอาจจะดูแรง ความสัมพันธ์ของตนเองก็ยังคงเป็นพี่ชายของแก้มเหมือนเดิม ไม่ได้ปิดโอกาสเขา ถ้าเจอคนที่ดีกว่าก็ไม่ว่าอะไร ตอนนี้ตนเองก็ดูแลแก้มในระดับหนึ่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจกระทบกับความสัมพันธ์บ้าง แต่ตนเองและเเก้มไม่ค่อยยุ่งวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของกันและกันอยู่แล้ว

นอกจากนี้ อานัสยังกล่าวเสริมว่า ตอนนี้ความสัมพันธ์เป็นเพียงพี่น้องไปก่อน ชีวิตยังอีกไกล เรื่องงานเเต่งงานยังไม่ได้มองถึงจุดนั้น อีกทั้งตนเองยังเป็นมุสลิมอีก แก้มเองก็เป็นคนดี รักครอบครัว เเต่ชีวิตคู่ต้องดูกันอีกนาน



อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก