เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ 9 entertain โพสต์โดย คุณ NineEntertain Modernnine สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม

 

            ภรรยาคนล่าสุด คมน์ อรรฆเดช ปรี๊ดแตก! โดนลูกฟ้องร้อง ทวงบุญคุณส่งเสียเรียน เผยเตรียมแถลงข่าว - ฝ่ายลูกยันไกล่เกลี่ยยาก หากไม่ได้ที่ดินเขาใหญ่และเงิน 160 ล้าน

 

            สืบเนื่องจากคดี ชิงมรดกระหว่างลูกชายลูกสาว และ นางพรพิมล มั่นฤทัย ภรรยาคนล่าสุดของ นายคมน์ อรรฆเดช ผู้อำนวยการสร้างหนังบู๊เมืองไทย ที่เสียชีวิตไปอย่างฉับพลันเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และทิ้งทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ไว้เป็นมูลค่ากว่าพันล้านบาทโดยที่ไม่ ได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น

 

            ล่าสุด วานนี้ (28 พฤศจิกายน) หลังจากที่ นางพรพิมล ทราบว่าถูกลูก ๆ ของสามีฟ้องร้อง ก็ถึงกับไม่พอใจและทวงบุญคุณว่า ถ้าอย่างนั้นก็เอาเงินที่ส่งเรียนคืนมาให้หมด และจะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวด้วย ซึ่งทางลูก ๆ ของ คมน์ อรรฆเดช บอกว่ายิ่งมีการออกมาแก้ข่าวก็ยิ่งดี จะได้มีการขุดคุ้ยความเป็นมาทั้งหมด การตรวจสอบทรัพย์สิน เอกสารเกี่ยวกับบริษัทฯ และการเงินทั้งหมด เพราะเพียงไม่นานหลัง คมน์ เสียชีวิต ได้มีใบทวง และแจ้งหนี้มาถึงลูก ๆ เพื่อให้รับรู้เรื่องหนี้ ทำให้ทุกคนสงสัยว่ามีแต่การพูดและทวงหนี้ แต่ไม่แจงทรัพย์สินทั้งหมดเลย

 

            ทางด้าน นางนุชนารถ ภิรมย์ ลูกสาวของ นายคมน์ อรรฆเดช กล่าวว่า หลัง จากที่เป็นข่าวประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายได้ให้กำลังใจและสนับสนุนให้ต่อสู้เพื่อได้มาของ สิทธิอันชอบธรรม โดยเฉพาะทรัพย์มรดกที่ดินเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา จำนวน 47 ไร่ นางพรพิมล ไม่มีสิทธิใด ๆ ทั้งสิ้น เท่าที่ทราบมา หลังพ่อเสียชีวิตได้มีการโอนย้ายทรัพย์สิน ธุรกิจไปยังบริษัทฯ ในเครือที่ไม่มีพ่อ และตัดชื่อพ่อออกโดยอาศัยเสียงข้างมากในบริษัทฯ ซึ่งเป็นฝ่ายนางพรพิมลทั้งหมด ไม่มีฝ่ายพ่อเลยแม้แต่คนเดียว แม้แต่คอมพิวเตอร์ของน้องชายที่ใช้ทำงานในบริษัทฯ และดูแลพ่อ ก็ยังถูกถอดฮาร์ดดิส ออกไปหมด แต่น้องชายไหวตัวทันได้เก็บข้อมูลทั้งหมดออกมาก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้มีข้อมูลสำคัญมากมายในการตรวจสอบทรัพย์สิน

 

            นางนุชนารถ ระบุด้วยว่า ความเคลื่อนไหวภายในมีมาโดยตลอด โดยเฉพาะการเปลี่ยนชื่อกรรมการบริหารบริษัทฯ ตั้งบริษัทใหม่ถ่ายโอนทรัพย์สิน หยุดรายได้บริษัทเก่า แต่หนี้สินยังคงไว้ และ ล่าสุดได้มีการขายโรงหนังที่ จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.นครศรีธรรมราช ไปแล้วด้วย โดยผู้ซื้อไม่ทราบว่าจะเกิดกรณีข้อพิพาทมรดกและทรัพย์สินของพ่อ สำหรับโรงหนังที่พ่อทำธุรกิจร่วมกัน คือ โรงหนังโคลิเซียม สุราษฎร์ธานี พัทลุง ภูเก็ต ปัตตานี นครศรีธรรมราช และยะลา จำนวน 7 สาขา และยังมี ห้างสรรพสินค้าอีกด้วย ทรัพย์สินทั้งหมดในส่วนของธุรกิจของพ่อนั้น ได้มี นายพิทักษ์ ภิรมย์ หรืออาร์ม ทำธุรกิจอยู่ใกล้ชิดพ่อมาโดยตลอด และพ่อเคยบอกว่าให้เป็นผู้ดูแล เมื่อพ่อเสียชีวิตจะได้ดำเนินธุรกิจแทนพ่อได้ แต่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น พอพ่อเสียชีวิต ทุกคนก็หมดสิทธิ น้องชายต้องออกมาจากการทำงานร่วมกับ นางสาวพรพิมล มั่นฤทัย ที่น่าสงสัยทั้งที่น้องชายรู้เรื่องของพ่อหมด แต่ไม่เคยให้ร่วมเป็นผู้จัดการมรดกของพ่อด้วยแม้แต่คนเดียว ทำให้พวกลูก ๆ สงสัยว่าคิดอะไรอยู่

 

            ทั้งนี้ นางนุชนารถ ยืนยันว่า การไกล่เกลี่ยนั้นคงยาก ถ้าไม่เลิกยุ่งกับทรัพย์มรดกที่ดิน 47 ไร่ของพ่อที่เป็นมรดกตกทอดของลูกทั้ง 4 คน จะต้องต่อสู้กันให้ถึงที่สุด ส่วน เงินอีก 160 ล้านที่ร้องขอนั้น เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เป็นการตอบแทนญาติพ่อ ภรรยาพ่อคนแรกที่ยังมีชีวิตอยู่ และลูก ๆ โดยเฉพาะน้องชายพ่อที่ดูแล ทำงานให้พ่อมาตลอดอีกด้วย ถ้าสามารถปฏิบัติตามนี้ได้ก็คงไม่มีปัญหาเรื่องของการไกล่เกลี่ยอย่างแน่นอน

 

 

 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม