ตรวจรถเชฟโรเลตพุ่งตกชั้น 5 ชี้ผู้ตายขับย้อนศรลงตึก ไม่เกี่ยวกลไกรถ
2012-11-07 11:41:51
Advertisement
คลิก!!!
ตรวจรถเชฟโรเลตพุ่งตกชั้น 5

ตรวจรถเชฟโรเลตพุ่งตกชั้น 5


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

             เจ้า หน้าที่ตำรวจ ตรวจรถเชฟโรเลตป้ายแดงพุ่งตกชั้น 5 ตึกรสา ชี้ผู้ตายขับรถประมาทเอง ขับวนรถย้อนศรทางลงตึก ไม่เกี่ยวกับกลไกรถผิดพลาด

             จากกรณีที่ นางสาวกอบกาญจน์ วิชรัตน์ อายุ 43 ปี ผู้จัดการฝ่ายอะไหล่ บริษัท เชฟโรเลต (ประเทศไทย) ขับรถเก๋งยี่ห้อ เชฟโรเลต สีขาว รุ่นครูซ ทะเบียนป้ายแดง ศ-2453 กทม. ตกลงมาจากลานจอดรถชั้น 5 อาคารรสา ทาวเวอร์ ซอยพลหลโยธิน 19 จนเสียชีวิตอย่างปริศนา ไปเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

             ล่าสุด วานนี้ (6 พฤศจิกายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่จากบริษัทเชฟโรเลต ได้เดินทางมายัง สน.พหลโยธิน เพื่อร่วมประชุม และร่วมตรวจสอบรถยนต์คันเกิดเหตุ

             ทั้ง นี้ พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี  ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ทาง ผบ.ตร. มอบหมายงานตนให้มาตอบคำถามของสังคมว่า สาเหตุที่รถร่วงลงมานั้น เป็นเพราะอะไร โดยตนได้วางประเด็นไว้ 3 ประเด็น คือ...
 
             1. เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมหรือไม่ ซึ่งเมื่อตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว ก็พบว่าผู้ตายเดินเข้าลิฟต์ที่ชั้น 20 ของอาคาร และออกจากลิฟต์ชั้นที่ 6 โดยเดินมาเพียงลำพัง ไม่มีใครเดินตามมา และไม่พบว่าผู้ตายเกิดความเครียดแต่อย่างใดจึงตัดประเด็นนี้ทิ้งไป

             2. เรื่องนี้เกี่ยวกับกลไกเครื่องยนต์หรือไม่ ซึ่งทางตำรวจได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาตรวจสอบรถคันดังกล่าว ก็พบว่า พวงมาลัยของรถไม่ได้ล็อค เบรกก็ปกติดี จึงตัดประเด็นนี้ทิ้งไปเช่นกัน

             3. เรื่องพฤติกรรมการขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งพบว่าจุดที่ร่วงลงไปนั้นเป็นที่จอดรถ โดยปกติจะมีรถจอดทุกคัน แต่ในวันและเวลาที่เกิดเหตุ (19.30 น.) ไม่มีรถจอด และเมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดก็พบว่า ปกติเวลาจะขับรถวนลงต้องเลี้ยวซ้ายเพื่อกลับรถ ถึงจะลงได้ แต่ผู้ตายขับรถเลี้ยวขวาเจตนาจะลัดทางเลยวนรถลง และเมื่อวนลงไปแล้วเห็นทางข้างหน้าคล้ายถนนทางตรง จึงขับตรงไป เพราะไม่พบร่องรอยการเบรกที่พื้น แต่มีการเบรกครั้งสุดท้ายตอนที่รถผ่านแนวเสาไปชนกำแพง
 



ตรวจรถเชฟโรเลตพุ่งตกชั้น 5



             ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า จากการคำนวณภาพพบการเคลื่อนที่ต่อเนื่องรวม 11 จุด และพบว่าไม่มีการชะลอหรือเร่งเครื่องรถ โดย ผู้ตายขับรถด้วยความเร็วเพียง 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าไม่เร็วมาก แต่เนื่องจากเบรกไม่อยู่ เพราะอยู่ในระยะใกล้แนวกำแพงเพียง 9.3 เมตร เท่านั้น ทำให้เบรกไม่ทัน ต่อจากนั้นเพียงชั่ววินาที เมื่อรถชนกรวยแล้ว ก็ไปกระแทกตัวหนอนกั้นรถ ทำให้รถเหินขึ้นไปกระแทกกับกำแพง ก่อนที่จะร่วงลงมา
 
            สำหรับสาเหตุเบื้องต้นนั้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. คาดว่า อาจจะเป็นการพลั้งเผลอของผู้ตาย หรือไม่ได้ตั้งสติก่อนสตาร์ท ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น และเมื่อตรวจสอบยังโทรศัพท์มือถือก็ไม่พบการโทรเข้า-ออก ในช่วงเวลาดังกล่าว แสดงว่าผู้ตายไม่ได้โทรศัพท์ระหว่างขับรถ

            อย่าง ไรก็ดี พล.ต.ท.จรัมพร ก็ได้เชิญกรมโยธาธิการมาตรวจสอบกำแพง และพบว่ากำแพงเป็นแผ่นสำเร็จและมีโครงเหล็ก สูง 75 เซนติเมตร แต่ก็ไม่สามารถกันแรงกระแทกได้ ซึ่งความจริงแล้วกำแพงที่อยู่ด้านตรงกับทางลงจะต้องแข็งแรง เลยอยากจะขอความร่วมมือกับเจ้าของอาคารให้ดูแลในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมาไม่มีกฎหมายควบคุม

            ส่วนประเด็นเรื่องเกียร์ P และเบรกมือที่ยกค้างไว้นั้น พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวว่า หลังจากที่รถตกลงสู่พื้น รถก็ยังมีการเคลื่อนอยู่ ด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิเข้าไปช่วยเหลือ และได้ปรับเกียร์พร้อมดึงเบรกมือให้รถหยุดนิ่ง เพื่อทำการดึงร่างผู้ตายออกจากรถ สำหรับการสอบปากพยานรายอื่น ๆ ทราบว่า ผู้ตายทำงานที่บริษัทมา 5-6 ปี และรถคันดังกล่าวก็เป็นรถที่ซื้อเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายขับแต่รถเกียร์ธรรมดา เพิ่งจะมาหัดขับเกียร์ออโต้ได้เพียงไม่กี่เดือน ส่วนขั้นตอนต่อไป ก็จะทำการตรวจสอบอีกครั้งอย่างละเอียด และเตรียมสรุปสำนวนคดีให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

 

 

 

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X