กรมการแพทย์แนะวิธีใส่ใจดูแลน้ำกัดเท้า
2012-09-18 17:44:46
Advertisement
คลิก!!!
น้ำกัดเท้า
 


กรมการแพทย์แนะวิธีใส่ใจและดูแลน้ำกัดเท้า ปัญหาสำคัญที่มากับน้ำท่วม (ไอเอ็นเอ็น)

          กรมการแพทย์ห่วงใยสุขภาพประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม พบน้ำกัดเท้าเป็นปัญหาสำคัญ ที่ไม่ควรมองข้าม โดยเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการดูแลและป้องกันอย่างถูกวิธี

          นายแพทย์เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า หลายพื้นที่ในประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัย ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวต้องเผชิญกับโรคภัยต่าง ๆ เนื่องจากกระแสน้ำจะพัดพาสิ่งสกปรก เชื้อโรค ของเสีย และสารเคมี กระจาย เป็นวงกว้าง ซึ่งปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นกับผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินย่ำน้ำ หรือแช่อยู่ในน้ำนาน ๆ ก็คือ น้ำกัดเท้า ที่เป็นจุดอ่อนทำให้เชื้อโรคที่มากับน้ำเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย

อาการน้ำกัดเท้าแบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่

          ระดับที่ 1 โรคน้ำกัดเท้าในระยะนี้ ยังไม่มีเชื้อรา เป็นเพียงอาการระคายเคืองจากความเปียกชื้น และสิ่งสกปรกในน้ำ ทำให้เท้าเปื่อย ลอก แดง คัน และแสบ โดยเฉพาะตามง่ามนิ้วเท้า และขอบเล็บ ซึ่งผิวหนังอักเสบในระดับนี้ยังไม่มีเชื้อโรคใด ๆ เข้าไปในบาดแผลได้

          การรักษาระดับนี้ ควรใช้ยาทาที่ผสมสเตียรอยด์ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาฆ่าเชื้อรา เพราะยาบางชนิดจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและแสบผิวหนังมากขึ้น และเมื่อสัมผัสกับสิ่งสกปรกที่อยู่ในน้ำจะเกิดการติดเชื้อได้ง่าย

          สำหรับระดับที่  2  ผู้ ป่วยจะมีแผลเล็ก ๆ ที่เกิดจากผิวหนังอักเสบและมีเชื้อโรคเข้าไปทางบาดแผล โดยมีอาการบวมแดง เป็นหนองและปวด ควรให้แพทย์วินิจฉัยและรักษาตามอาการของผู้ป่วย อนึ่งหากปล่อยให้มีอาการโรคน้ำกัดเท้าอยู่นาน ผิวที่ลอกเปื่อยและชื้น จะติดเชื้อราทำให้เป็นโรคเชื้อราที่ซอกเท้ามีอาการบวมแดง มีขุยขาวเปียก มีกลิ่นเหม็น และถ้าปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นเรื้อรัง เชื้อราจะเข้าไปฝังตัวอยู่ในผิวหนังรักษาหายยาก ถึงแม้จะใช้ยาทาจนอาการดีขึ้นดูเหมือนหายดีแล้ว แต่มักจะมีเชื้อหลงเหลืออยู่เมื่อเท้าอับชื้น  ก็จะเกิดเชื้อราลุกลาม ขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดอาการเป็น ๆ หาย ๆ  เป็นประจำ ไม่หายขาด

          สำหรับ คำแนะนำในการดูแลและป้องกันน้ำกัดเท้า ได้แก่ หลีกเลี่ยงการแช่เท้าในน้ำนาน ๆ หากจำเป็นต้องลุยน้ำให้สวมรองเท้าบูทกันน้ำ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันของมีคมที่อยู่ในน้ำทิ่มหรือตำเท้า รวมทั้งรีบทำความสะอาดเท้าด้วยน้ำสะอาด ฟอกสบู่ และเช็ดเท้าให้แห้งเมื่อเสร็จธุระนอกบ้าน ซึ่งการรักษาความสะอาดให้เท้าแห้งอยู่เสมอ เป็นหลักปฏิบัติสำคัญที่สุดในการป้องกันโรคนี้ โดยให้ความสนใจเป็นพิเศษที่บริเวณซอกนิ้วเท้า

          นอก จากนี้ หากพบว่ามีบาดแผลตามผิวหนังไม่ควรสัมผัสน้ำสกปรก เพื่อเป็นการป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย  หากเป็นไปได้ควรทำความสะอาดผิวหนังด้วยน้ำสะอาด และด่างทับทิมวันละครั้ง อย่างไรก็ตามเมื่อมีแผล ผื่น ที่ผิวหนังควรพบแพทย์ โดยทายาหรือรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

 

ข้อมูลจากกระปุกดอดคอม

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X