บยอนอูซอก (Byun Woo Seok) ได้เล่าถึงความเจ็บปวดที่เขาได้รับในช่วงเริ่มต้นเส้นทางการแสดง

บยอนอูซอก พระเอกจากเรื่อง 'Lovely Runner' ได้ร่วมพูดคุยในรายการ 'You Quiz on the Block' ที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ระหว่างรายการ บยอนอูซอกได้พูดถึงความรู้สึกที่ผสมปนเปหลังจากได้รับความสนใจมากมายอย่างรวดเร็วหลังจากซีรีส์ 'Lovely Runner' ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

เขากล่าวขอบคุณ

“ผมทำงานหนักมาตลอด 8-9 ปี ผมทึ่งมากและขอบคุณความรักทั้งหมดที่ผมได้รับ”

บยอนอูซอกบอกว่าตอนนี้เขาได้รับการเสนองานมากขึ้น และอธิบายว่า

“ตอนนี้ผมได้รับการเสนอบทมากขึ้นเป็น 10-20 เท่าเลยครับ”
 

บยอนอูซอกยังได้พูดถึงเรื่องที่ซีรีส์ 'Lovely Runner' ใช้เวลาถึง 3 ปีในการผลิต เขาอธิบายว่า

“นี่เป็นบทนำเรื่องแรกของผม แต่ผมเองก็ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ทำให้บทนี้ถูกเสนอให้กับนักแสดงคนอื่นก่อน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงต้องใช้เวลา 3 ปี ผมรู้สึกขอบคุณมากที่บทนี้ตกมาหาผม” 

เขาพูดต่อ

“ตอนที่ผมอ่านบท ผมรู้สึกทันทีว่า ‘ฉันต้องแสดงเรื่องนี้ ฉันอยากแสดงเรื่องนี้’”

ความสำเร็จของบยอนอูซอกไม่ใช่ได้มาชั่วข้ามคืน เขาเดบิวต์เป็นนักแสดงมาแล้ว 9 ปี และเขาได้เล่าถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงเริ่มต้นเส้นทางการแสดงซึ่งเขายังไม่เป็นที่รู้จัก 

เขาเล่าว่า

“ผมเจอกับเรื่องลำบากเยอะมาก โดยวิจารณ์แรงๆ และไม่มั่นใจในตัวเองเลย” 

เขาพูดต่อ

“ผมเคยทำงานเป็นนายแบบมาก่อน ผมเลยชอบกล้อง แต่พอเจอกับคำวิจารณ์เรื่องการแสดงบ่อยๆ ผมก็ค่อยๆกลัวกล้อง ผมตั้งคำถามกับตัวเองว่านี่คือเส้นทางที่ผมจะเดินต่อใช่ไหม”

“บางคนพูดว่า ‘ฉันว่าอีก 4-5 ปี คุณก็ยังทำมันไม่สำเร็จ’ มันน่าตลกคือ หลังจาก 4-5 ปี หลายอย่างเริ่มลงตัว พอได้ยินคำพูดแบบนั้น ผมจะคิดว่า ‘ฉันต้องเอาชนะให้ได้’ ผมไม่อยากจะหมดกำลังใจจากคำพูดของพวกเขา” 

เขาพูดต่อ

“แทนที่จะอยู่เฉยๆ ผมพยายามเอาชนะข้อบกพร่องของตัวเอง และรับความเจ็บปวดในงานนี้ ผมรับเล่นหมด ไม่ว่าจะบทเล็กแค่ไหน ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมผ่านมันมาได้”
 

ระหว่างสัมภาษณ์กับทีมงาน บยอนอูซอกเล่าว่า

“หลังจากอ่านบท ผมไปที่ร้านทำผมเพื่อทำผมให้เข้ากับตัวละคร จากนั้นผมได้รับโทรศัพท์บอกว่า ‘ขอโทษนะ คิดว่าครั้งนี้เราคงร่วมงานกับคุณไม่ได้แล้ว’”

เขาเล่าต่อ

“จะมีกรุ๊ปแชทของทีมงานและนักแสดงทุกคน แต่ผมต้องออกจากกลุ่มนั้นหลังจากที่ได้ยินว่าผมถูกตัดจากโปรเจคนั้น รู้สึกเหมือนถูกตีเข้าอย่างจัง ความภูมิใจของผมถูกทำลาย และผมคิดว่า ‘ฉันไม่ดีพอเหรอ?’ ผมถึงกับร้องไห้หนักมาก แต่ช่วงเวลาเหล่านั้นก็ทำให้ผมอยากทำให้ดีขึ้นและทำงานให้หนักขึ้น”

ที่มา  daum