|
ดิสแพท (Dispatch) เปิดเผยว่า การที่ อีซูมาน (Lee Soo Man) ขายหุ้นใน SM Entertainment ให้กับ HYBE เป็นทางเลือกเดียวที่เขาเหลืออยู่
รายงานพิเศษของดิสแพทเปิดเผยบทสัมภาษณ์ของแหล่งข่าววงใน และแถลงการณ์ของ HYBE ที่กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SM Entertainment ของอีซูมานว่านี่คือทางเลือกเดียวที่อีซูมานเหลืออยู่ในเวลานี้
ก่อนหน้านี้เชื่อว่า HYBE และ อีซูมานมีการพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวมาก่อนเนื่องจาก อีซูมาน และ บังชีฮยอก ต่างก็เคยเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลด้วยกัน อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ของพวกเขาไม่ได้ส่งผลกับการซื้อ-ขายหุ้นที่เกิดขึ้น
อีซูมานคิดถึงแต่การเติบโของบริษัท SM Entertainment เขาบริหารบริษัทด้วยความคิดที่ว่า ‘ฉันคืออีซูมาน, อีซูมานคือ SM, SM คืออีซูมาน” อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปเห็นได้ชัดว่าในขณะที่อีซูมานสร้าง SM Entertainment เขาก็ได้ยึดบริษัทไปด้วย
ยกตัวอย่างจากสัญญาที่หลุดออกมาเปิดเผยว่า อีซูมานจะได้รับเงิน 6% จากรายได้ของผลงานเพลงทุกเพลงของบริษัทตั้งแต่ปี 2022 – 2092 รวมถึง 3% จากรายได้การจัดการจนถึงปี 2025 สัญญานี้เซ็นผ่านบริษัทส่วนตัวของเขา Like Planning จากสัญญานี้ อีซูมานจะได้รับเงินถึง 8 หมื่นล้านวอน (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) มากกว่า 70 ปี แม้ว่าจะหมดสัญญากับ Like Planning แล้วเงินจำนวนดังกล่าวก็จะถูกโอนไปยังบัญชีของอีซูมาน
HYBE ไม่อยากให้มีสัญญานี้ต่อไป จึงทำให้สัญญานี้ถูกยกเลิกไป และอีซูมานจะไม่ได้รับค่าลิขสิทธิ์ตามที่ระบุไว้ในสัญญาก่อนหน้า อีซูมานยอมสูญเสียเงิน 8 หมื่นล้านวอน ตลอด 70 ปี เพื่อที่จะย้ายหุ้นหลักใน SM Entertainment ไปยัง HYBE
“ระหว่างการตกลงสัญญา เราตัดสินใจไม่ยอมรับสัญญาข้อที่กล่าวว่าจะต้องจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ให้กับโปรดิวเซอร์อีซูมานเพื่อแสดงให้เห็นความตั้งใจของเราในการพัฒนาระบบการจัดการ
อีซูมานตัดสินใจจะร่วมมือเต็มที่ในการพัฒนาโครงสร้างของบริษัทด้วยการโอนหุ้นของ SM Entertainment ที่เขาถืออยู่มายัง HYBE” – HYBE
นอกจากหุ้นของ SM Entertainment ที่อีซูมานโอนให้ HYBE แล้ว ยังมีหุ้นของบริษัท Dream Maker Entertainment Limited ที่รับผิดชอบดูแลการจัดคอนเสิร์ตและรายการสด รวมถึงการทำการตลาดของบริษัท
สำนักข่าว Invest Chosun รายงานว่า HYBE มีสิทธิที่จะซื้อหุ้น SM Entertainment ที่เหลืออยู่ 3.66% ภายใน 12 เดือนข้างหน้า การที่อีซูมานทำเช่นนี้หมายถึงเขาเต็มใจที่จะไม่รับรายได้จาก SM
สื่อรายงานว่า บังชีฮยอกไม่ได้จับมือกับอีซูมาน แต่ บังชีฮยอกจับมือร่วมงานกับ SM Entertainment ต่างหาก
“อีซูมานติดต่อไปยังบังชีฮยอกอย่างเร่งรีบ บังชีฮยอกยอมช่วยเหลือเขาตามที่ขอ แต่สิ่งที่น่าสังเกตคือการช่วยเหลือของบังชีฮยอกในครั้งนี้เหมือนกับตัดขาดคอนเนคชั่นทั้งหมดระหว่างอีซูมานและ SM
บทบาทของอีซูมานใน SM สิ้นสุดลงแล้ว
รายได้ที่อีซูมานจะได้จาก SM Entertainment แทบจะหายไปทั้งหมด ตอนนี้เงินทั้งหมดนั้นจะเข้าบริษัทและผู้ถือหุ้น อีซูมานทิ้งหุ้นของเขาและหนีไป
จะมีใครทำให้อีซูมานได้กลับมาบริหาร SM Entertainment อีกครั้งได้อย่างไร” – วงใน
ดิสแพทบอกว่าสิ่งที่น่าหัวเราะเยาะในเรื่องนี้คือทีมบริหารของ SM Entertainment ในตอนนี้ไม่สามารถทนต่อผลกำไรที่ไม่เป็นธรรมซึ่งอีซูมานได้รับได้อีกต่อไป ทำให้พวกเขาพยายามปรับโครงสร้างบริษัทด้วยการร่วมงานกับ Align Partners และเรียกร้องให้มีการเปิดเผยบัญชีการเงิน ทีมบริหารเลือก Kakao เป็นพาร์ทเนอร์รายใหญ่ เพราะเชื่อว่าเป็นทางเลือกที่ดีเพราะ Kakao คงต้องดูแล Kakao Entertainment และไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการจัดการภายในของ SM Entertainment มากนัก
โครงสร้างใหม่ของ SM Entertainment เป็นการต้อนอีซูมานให้จนมุม เพราะจะมีการตรวจสอบรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ของเขามากขึ้น การที่เขาจะทำลายแผนนี้ได้คงต้องขอความช่วยเหลือจาก HYBE ซึ่งเป็นเพียงเป้าหมายระยะสั้นเท่านั้น สุดท้ายแล้วผู้นำขององค์กรคนใหม่และ Align Partners จะตัดสินใจเป้าหมายใหม่ของบริษัทซึ่งสอดคล้องกับการตัดสินใจของอีซูมาน และในตอนนี้เป้าหมายของ HYBE คือการสร้างเสถียรภาพของโครงสร้างองค์กรภายใน SM Entertainment
“ในฐานะบริษัทบันเทิง HYBE ยังคงเป็นคู่แข่งของ SM Entertainment พวกเขาจะยังคงแข่งขันกันในอุตสาหกรรมเคป็อปในอนาคต อย่างไรก็ตามก่อนหน้าจะไปถึงจุดนั้นคงต้องปรับโครงสร้างการทำงานและพัฒนาเสียก่อน ถ้าเป็นแบบนั้น SM Entertainment จะไม่น่ากลัวเหรอ? ทุกอย่างในเค-ป็อปรวมอยู่ที่ SM แล้ว” – วงใน
ที่มา Dispatch และ Invest Chosun