|
เมื่อในเร็ว ๆ ที่ผ่านมานี้ สำนักข่าว ‘CNN Business’ ได้กล่าวให้เครดิตกับ ‘K - Dramas’ หรือซีรีส์เกาหลีในฐานะ ‘ปัจจัยสำคัญ’ ที่มีส่วนช่วยให้แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลกอย่าง ‘Netflix’ สามารถเจาะตลาด ขยายฐานผู้บริโภค และสร้างอัตราการเติบโตอย่างมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเอเชีย ได้เป็นผลสำเร็จในระดับน่าประทับใจมาก ๆ
และด้วยเพราะเหตุนั้นเอง ปัจจุบัน ‘Netflix’ จึงเริ่มที่จะหันมาให้ทั้งความสนใจ และความสำคัญกับตลาดเอเชียมากขึ้นผ่านการลงทุน และพัฒนาออริจินอลคอนเท้นท์ที่มีการเพิ่มเติมกลิ่นอายความเป็น ‘เกาหลีใต้’ ลงไปในเนื้อเรื่อง พร้อมด้วยการสร้างสรรค์ทางเลือกใหม่ ๆ อย่างเรทอัตราค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกแบบรายเดือนที่มีราคาถูกลง สำหรับแพคเกจการเป็นสมาชิกแบบ ‘Mobile only’ อีกด้วย
ทั้งนี้ ‘CNN Business’ ได้อ้างอิงถึงประเด็นดังกล่าวว่า “เช่นเดียวกันกับที่ ‘Netflix’ ประสบความสำเร็จกับตลาดต่างประเทศอื่น ๆ มาแล้ว ในตอนนี้ ‘Netflix’ ก็กำลังจะได้พบกับความสำเร็จอีกครั้งในตลาดเอเชีย ที่ซึ่งอิทธิพลของ ‘Original Series by Netflix’ เริ่มกลายเป็นความน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยการพัฒนา ลงทุน และนำเสนอความสร้างสรรค์ต่าง ๆ ในรูปแบบของ ‘ซีรีส์เกาหลี’”
“ในช่วงปี 2019 ที่ผ่านมานี้ เนื้อหาประเภท ‘ซีรีส์เกาหลี’ สามารถกวาดครองอันดับความนิยม (Top 10 lists) ประจำปีได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเข้าถึง/รับชมจากฐานสมาชิกในเขตทวีปเอเชียตะวันออกฉียงใต้ ผู้ซึ่งมีความรักในความเป็น ‘ซีรีส์เกาหลี’ อย่างยิ่งยวด ทั้งนี้ ความนิยมดังกล่าวนั้นยังสามารถบ่งบอกได้ถึงอัตราการเติบโตในภูมิภาคเอเชียตะวันอกฉียงใต้ของ ‘Netflix’ ที่สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 4 เท่าอีกด้วยเช่นกัน (เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2018)”
นอกจากนี้แล้ว ทาง ‘CNN Business’ ยังได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “ภายในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2018 – 2020 แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง ‘Netflix’ ได้ทุ่มเงินลงทุนกว่า 2 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ (หรือเกือบ 6 หมื่นล้านบาท) เพื่อการเข้าซื้อลิขสิทธิ์การผลิต หรือการจัดจำหน่ายคอนเท้นท์หลากหลายประเภทในตลาดเอเชีย ส่งผลให้จนถึงในปัจจุบันนี้ ‘Netflix’ ได้กลายเป็นทั้งเจ้าของลิขสิทธิ์ และผู้มีสิทธิ์จัดจำหน่ายออริจินอลคอนเท้นท์สัญชาติเอเชียมากมายกว่า 200 เรื่องด้วยกัน”
ทั้งนี้ เมื่อในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานี้ ทาง ‘Netflix Korea’ ได้ออกมากล่าวถึงบทความดังกล่าวโดย ‘CNN Business’ ว่า “ประเทศเกาหลีใต้ของเรากำลังมุ่งเน้นการเสริมสร้างขีดความสามารถของเรา เพื่อขึ้นเป็น ‘Content Powerhouse’ หรือผู้มีอิทธิพลด้านการสร้างสรรค์ และผลิตเนื้อหาในระดับโลก”
และแน่นอนว่า ความทะเยอทะยานดังกล่าวนั้นก็ไม่ได้เป็นเพียงความคาดหวังที่เลื่อนลอยอีกต่อไป เมื่อบริษัทแม่ของ ‘Netflix Korea’ หรือ ‘Netflix’ ได้ตัดสินใจเริ่มอัดฉีดการลงทุนด้านการสร้างสรรค์ และจัดจำหน่ายออริจินอลคอนเท้นท์สัญชาติเกาหลีใต้เป็นจำนวนมหาศาล ด้วยจุดประสงค์ในการสร้างอัตราการเติบโตผ่านทั้งคอนเท้นท์ และบริการใหม่ ๆ มากมาย
สุดท้ายนี้ ออริจินอลคอนเท้นท์สัญชาติเกาหลีใต้ที่เกิดขึ้นจากการเริ่มต้นลงทุนในตลาดอย่างจริงจังของ ‘Netflix’ (ตั้งแต่เมื่อในปี 2016) นั้นล้วนแต่ได้รับความนิยมอย่างมากมายในทั่วโลก อาทิ ‘Kingdom’ ‘Sweet Home’ ‘Extracurricular’ รวมไปจนถึงคอนเท้นท์ที่กำลังอยู่ในระหว่างการผลิตอย่าง ‘Kingdom: Ashin’ ‘Glitch’ และอื่น ๆ อีกมากมาย