เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

หลายครั้งที่เราอยากจะตัดผมหรือเปลี่ยนทรง แต่ก็ยังรั้ง ๆ รอ ๆ ไม่กล้าเข้าร้านทำผมสักที เพราะกลัวว่าตัดไปแล้วจะออกมาไม่ได้อย่างใจ หากตัดไปแล้วไม่เข้ากับหน้า หรือว่าตัดมาแล้วเซ็ทไม่เป็นก็ดูไม่สวย เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เช่นนี้ เราควรจะคำนึงถึงอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ

1. เลือกแบบผมที่เข้ากับรูปหน้า

รูปหน้าของคนเรามีหลายแบบ และก็เข้ากับทรงผมแบบต่าง ๆ กันไป ทรงผมที่ดารา นางแบบ หรือนักร้องในดวงใจของคุณทำแล้วคุณเห็นว่าดูสวยดี แต่เมื่อมาอยู่กับคุณอาจจะดูไม่ดีอย่างที่เคยคิดเอาไว้ก็ได้ สาเหตุสำคัญข้อหนึ่งคือผมทรงนั้นไม่ใช่ทรงที่เข้ากับรูปหน้าของคุณ ทุกคนล้วนมีรูปใบหน้าที่แตกต่างกัน ทำให้ผมที่ดูดีกับอีกคน อาจจะดูไม่เข้ากันสำหรับคุณได้ เพราะฉะนั้นลองเลือกแบบผมโดยยึดเอารูปหน้าตัวเองเป็นหลัก ก่อนจะจับคู่ให้เจอแบบผมในดวงใจน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

2. คำนึงสภาพเส้นผม

ก่อนจะเลือกแบบผมที่ต้องการ อย่าลืมคำนึงถึงสภาพเส้นผมของตัวเองด้วย ผมบางทรงต้องเป็นคนผมหนา ๆ ถึงจะทำได้สวย อย่างเช่น ผมสั้นฟู ๆ แบบเห็ดที่กำลังฮิตอยู่ในตอนนี้ ถ้าเป็นคนผมหนา ทรงนี้ก็จะดูฟู ๆ ทุย ๆ เองได้โดยไม่ต้องเซ็ตมากนัก แต่หากเป็นคนผมบางหรือผมเส้นเล็กอาจต้องเสียเวลาในการเซ็ทผมนานเป็นสองเท่า นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงข้อสำคัญอีกประการด้วยว่า แบบผมที่คุณต้องการอาจต้องแลกมากับการทำร้ายเส้นผม อย่างการทำสี ดัด หนีบ ใช้ความร้อน หรือการสารเคมีมากเกินความจำเป็น หากอยากทำจริง ๆ ก็ต้องดูวิธีรับมือกับผมที่อาจเสียและวิธีการดูแลด้วย

3. เลือกแบบผมในใจ แล้วให้ช่างช่วย

คงมีหลายครั้งที่เราเข้าไปร้านทำผมพร้อมกับบอกช่างทำผมว่าต้องการทรงผมประมาณไหน หรือสาว ๆ บางรายอาจจะเอารูปทรงผมที่ต้องการไปให้ช่างดูด้วย ไม่ว่าจะเป็นการบอกด้วยปากเปล่า หรือมีภาพประกอบก็ตาม ลองเลือกไปหลาย ๆ แบบแล้วให้ช่างทำผมของคุณช่วยตัดสินใจก็จะเป็นการดี เพราะช่างที่ชำนาญเรื่องเส้นผมมากกว่าย่อมจะบอกได้ว่า ด้วยรูปหน้าและสภาพเส้นผมเช่นคุณ จะทำทรงไหนสวย หรือควรหลีกเลี่ยงไม่ทำอะไร ถือว่าเป็นการช่วยกันทั้งสองฝ่ายเพื่อหาทรงผมที่เข้ากับใบหน้าของคุณมากที่สุดนั่นเอง

4. คำแนะนำจากช่างตัดผม

ช่างตัดผมที่ดีต้องให้คำแนะนำกับคุณด้วยว่า คุณจะเซ็ทผมทรงนี้ให้เป็นแบบที่ต้องการได้อย่างไร เพราะหลังจากตัดเสร็จ เซ็ทสวย ด้วยช่างที่ร้านแล้ว หลังจากนั้นก็คือคุณที่จะต้องทำการเซ็ตผมทรงนั้นด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นคำแนะนำจากช่างทำผมของคุณก็เป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ด้วย

5. คำนวณเวลาที่ต้องใช้ในการเซ็ตผม

ลองคำนวณเวลาที่คุณต้องใช้ในการจัดการทรงผมของคุณให้ออกมาได้อย่างใจ ไม่ว่าจะเป็นเวลาในการม้วน การสระ เป่าแห้ง หนีบผม เซ็ทผม บำรุงด้วยคอนดิชั่นเนอร์ก่อนทำผม หรือต้องหาเวลาไปทำทรีตเม้นต์ทุกสัปดาห์ เพราะด้วยทรงผมแบบที่คุณเลือกทำ เสี่ยงให้ผมเสียได้ง่ายและต้องการบำรุงดูแลเป็นพิเศษ ฯลฯ เมื่อคำนวณเวลาดูแล้ว ลองคิดเปรียบเทียบกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองด้วยว่าเข้ากันได้หรือไม่ คุณมีเวลาเพียงพอที่จะดูแลและเซ็ตผมให้เป็นไปอย่างที่ต้องการได้ทุกวันหรือเปล่า เพราะเวลาต่อสิ่งเหล่านี้ก็คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณรู้สึกว่า ได้ทรงผมอยางที่ต้องการจริง ๆ หรือไม่ด้วย

หากได้คำนึงถึงเรื่องต่าง ๆ ตามด้านบนนี้แล้ว คราวนี้สาว ๆ ก็สามารถเลือกทรงผมที่มั่นใจว่าตัดแล้วจะดูดี และยังกลับมาจัดการเซ็ทผมให้สวยด้วยตัวเองได้แน่นอนค่ะ ^^

ข้อมูลจากกระปุกดอดคอม