หญิงมีครรภ์ทั้งหลายพึงเลี่ยงใช้โทรศัพท์มือถือในช่วงตั้งครรภ์ หลังทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยล พบว่า คลื่นโทรศัพท์อาจส่งผลต่อการพัฒนาของสมองทารกในครรภ์ และอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมาธิสั้นได้
       
       ศาสตราจารย์ ดร. Hugh Taylor ผู้อำนวยการฝ่ายสูติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเยล อีกทั้งยังเป็นผู้ร่วมศึกษาวิจัยถึงผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างตั้งครรภ์เผยถึงผลการทดลองในครั้งนี้ว่า
       
       “เราได้ทดลองกับหนูที่กำลังตั้งท้องกลุ่มหนึ่ง โดยแบ่งเป็นสองกรง กรงหนึ่งมีการวางโทรศัพท์มือถือไว้ด้านบนและเปิดเครื่องตลอดเวลา กับอีกกรงหนึ่งวางโทรศัพท์มือถือเอาไว้ แต่ปิดเครื่อง”
       
       “จากนั้น ก็รอจนหนูทดลองคลอดลูกออกมา และโตพอที่จะสังเกตพฤติกรรมได้ ซึ่งทีมวิจัยพบว่า ลูกหนูกลุ่มที่ได้รับคลื่นโทรศัพท์มือถือตลอดเวลานั้นเป็นหนูที่มีความกระตือรือร้นมากกว่าปกติ พวกมันมักจะวิ่งชนกำแพงอยู่บ่อยๆ ไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบตัว อีกทั้งสมองส่วนของความจำของลูกหนูกลุ่มนี้ก็มีมวลน้อยกว่ากลุ่มอื่นๆ ด้วย”
       
       ศาสตราจารย์ เทย์เลอร์ กล่าวต่อไปว่า การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า คลื่นโทรศัพท์มือถือนั้นส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ และขอใช้ผลการศึกษานี้เตือนผู้บริโภคให้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวอย่างระมัดระวัง ส่วนคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ควรหลีกเลี่ยง หรือไม่ก็ควรวางโทรศัพท์ให้ห่างจากบริเวณครรภ์ให้มากที่สุด
       
       สำหรับผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของโลก อย่างแอปเปิล หรือแบล็กเบอร์รี นั้น ออกมาเผยว่า ทางบริษัทได้เตือนผู้บริโภคแล้วเช่นกัน โดยพิมพ์คำแนะนำเอาไว้ในคู่มือการใช้งาน อย่างไรก็ดี มี ดร.Devra Davis อีกหนึ่งนักวิจัยจากกลุ่ม Environmental Health Trust ได้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อนโยบายดังกล่าวของสองผู้ผลิตชื่อดัง โดยเธอให้ความเห็นว่า
       
       “เป็นเรื่องไม่ถูกต้องนักที่บริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออ้างว่าตนเองได้พิมพ์คำเตือนในการใช้งานว่าไม่ควรวาง หรือใช้ใกล้ๆ กับร่างกาย เอาไว้ในคู่มือแล้ว แต่ในภาพยนตร์โฆษณาสินค้า พวกเขากลับให้พรีเซนเตอร์แสดงท่าทางการใช้งานสวนทางกับสิ่งที่คู่มือบอกอย่างสิ้นเชิง”
       
       ล่าสุด ศาสตราจารย์ เทย์เลอร์ เจ้าของผลงานการศึกษาดังกล่าวได้ขึ้นอภิปรายบนเวทีที่จัดโดยองค์กรของดร. Devra เกี่ยวกับผลกระทบจากการใช้โทรศัพท์มือถือในขณะตั้งครรภ์ด้วย ขณะที่กระแสการรณรงค์การใช้งานโทรศัพท์มือถืออย่างปลอดภัยก็เริ่มเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทั่วโลก ทั้งจากกลุ่มองค์กร และหน่วยงานภาครัฐ เช่น ในประเทศฝรั่งเศส ก็ได้มีการห้ามไม่ให้บริษัทผู้ผลิตมือถือทำตลาดกับกลุ่มเด็กแล้ว เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพในเด็กนั่นเอง
       
       ส่วนประเทศไทยก็วนๆ กันอยู่แถว 3G ต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของใครบางคน...

       
       เรียบเรียงจากเดลิเมล

       ที่มา  http://www.manager.co.th/