“จิ๊ก เนาวรัตน์” ประกาศชัดเลิกกินเด็ก บอกไม่อยากอุปถัมภ์ใครเพราะเลยวัยแล้ว รับเลิกคิดทำธุรกิจสเต็มเซลล์ โอดไม่มีปัญญาทุ่มเงินลงทุนถึงร้อยล้านบาท! 

       
       ปล่อยตัวเองให้โสดมานานหลายปี ถึงตอนนี้นักแสดงรุ่นใหญ่ “จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์” ก็บอกว่ายังโสดสนิท แถมไม่ขอคบผู้ชายเด็กกว่าอีกแล้ว เพราะไม่อยากต้องเสียเงินลงทุน ไม่อยากมานั่งคอยเอาใจอีก บอกตอนนี้ถ้ามีเข้ามาก็ขอคนที่อายุมากกว่า จะได้มาดูแลตนได้ เผยอาการป่วยประหลาดแพ้แป้งดีขึ้น เพราะดูแลตัวเองมากกว่าเดิม
       
       “หนุ่มๆ ไม่มีเลยค่ะ สำหรับตัวพี่เองพี่รู้สึกว่าไม่ชอบเลี้ยงหนุ่ม เพราะถ้าเป็นเด็กหรืออ่อนกว่าเราจะต้องลงทุน คำว่าลงทุนก็ต้องดูแลเขาให้ดี เอาใจเขา เพราะมันต่างวัยกัน ฉะนั้นเรื่องนี้ตัดปัญหาไปได้เลย พี่ไม่ชอบเอาใจใคร ไม่ชอบมานั่งเสียเวลากับใคร ไม่ชอบมานั่งจ่ายเงินจ่ายทองหรือมานั่งลงทุนอะไรกับเรื่องพวกนี้ พี่ว่าพี่เกินเวลาไปแล้ว อยากจะมีคนที่เป็นผู้ใหญ่ดูแลเรา คุยกันรู้เรื่องและพูดจาภาษาเดียวกัน คือคนเราไม่จำเป็นจะต้องเป็นแฟนคือคบกันเป็นเพื่อนก็ได้ ฉะนั้นต้องต่างวัยกับพี่ พี่ไม่ชอบวัยอ่อน”
       
       “ตอนนี้ถ้าถามว่ามีไหมไม่มีหรอกค่ะ เพียงแต่ว่าถ้ามีก็คบได้แค่ 2-3 วันแล้วก็ไป เพราะว่าถ้าไม่ใช่ก็จะไม่ใช่เลย เราจะคุยโทรศัพท์ด้วยและรู้เลยว่าไม่ใช่แล้วล่ะ หรือเห็นแป๊บเดียวก็รู้เลยว่าไม่ใช่ ถ้าเห็นใช่ปุ๊บยังไงก็คือใช่ พี่ก็ไม่ได้พยายามหา ไม่หาด้วย ช่วงที่ผ่านมาเราก็เรียนหนังสือเพิ่งจบ พี่ก็เลยไม่ค่อยจะมีเวลาอะไรกับใครด้วยค่ะ ไปถ่ายหนัง เล่นละคร ไปงานออแกไนซ์ เสาร์-อาทิตย์ก็เรียนหนังสือ นี่ก็เพิ่งจบ ก็เลยเหมือนปิดกั้นตัวเองมาช่วงหนึ่งนะ”
       
       บอกลืมความรู้สึกมีแฟนไปนานแล้ว และยังไม่เห็นมีใครจริงใจสักคน
       “แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้เปิดรับหรอกค่ะ (หัวเราะ) ไม่รู้นะอาจจะนานไปแล้วที่เราจะรู้สึกว่าการมีแฟนเป็นยังไง และการที่มีคู่เป็นยังไง มันคงจะลืมไปหมดแล้ว และก็ไม่เห็นมีใครจริงใจกันสักคนนะ คือดูจากหลายๆ ชีวิตที่ผ่านมา เราเป็นคนศึกษาชีวิตคนเหมือนกัน แม้กระทั่งเพื่อนหรือจะเป็นคนนอกวงการหรือคนในวงการ ก็เห็นว่าความรักมันไม่เห็นจีรังสักทีหนึ่ง ความรักจริงๆ มันเป็นบ่อเกิดที่นานนมมากนะ มันไม่ใช่ผิวเผินหรอก อะไรที่ผิวเผินมันก็จะเร็ว มันจะมาไวไปไว”
       
       เผยเลิกคิดทำธุรกิจสเต็มเซลล์แล้ว บอกต้องใช้เงินลงทุนเยอะ ตนไม่มีปัญญา
       “เรื่องสเต็มเซลล์ตอนนี้ไม่ได้ลงทุนทำอะไรเลยค่ะ เพราะว่ามันแพงมาก มันเป็นสิบๆ ล้าน ร้อยๆ ล้านพี่ไม่มีปัญญาขนาดนั้นหรอก แต่พี่ก็เคยทำจริง แต่พี่ไม่มีเวลา เพราะต้องเดินทางไปเมืองนอกด้วย มันเสียเวลา เพราะตอนนี้พี่ก็ต้องดูแลตัวเองนิดหนึ่ง เพราะตัวเราไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากว่าเราใช้งานเยอะ ใช้งานมาตั้งแต่อายุน้อยๆ ทำงานมาเยอะมาก ถ้าเราทิ้งขว้างตัวเองป่านนี้เราอาจจะไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ก็ได้ อาจจะเละเทะหน้าเหี่ยวไปหมดแล้ว ก็ต้องคอยดูแลอยู่เสมอ”
       
       “แต่พี่ว่าคนจะทำอะไรก็ควรศึกษาให้ดีๆ ก่อน พี่ตอบไม่ได้หรอกว่ากลัวไหม แต่พี่จะทำอะไรพี่ไม่เคยกลัวและถ้าทำแล้วพี่ก็ต้องทำ ถึงทำไปแล้วมันน่ากลัวเราก็จะไม่กลัว เพราะเราทำไปแล้วมันมาแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว แต่การที่จะทำอะไรนั้นพี่ว่าอย่าไปฟังมากมายเลย เอาแค่ 50-50 ดีกว่า เพราะอะไรก็แล้วแต่มันย่อมมีทั้งดีและไม่ดีคู่กัน เราต้องศึกษา มันอยู่ที่ตัวเราค่ะ”
       
       “ตอนนี้พี่ก็มีธุรกิจของพี่ชื่อน้องมารวย ตอนนี้กำลังดูแผนงาน กำลังศึกษาน้องมารวยอยู่ มันเป็นน้องตุ๊กตาที่ต้องทำขึ้นมา ทำหน้าขึ้นมา มีฟันอยู่ 2 ซี่ แล้วนุ่งโจงกระเบนน่ารัก น่าโอบ และให้เรารวยอยู่เสมอตลอดเวลา ใครเอาไปอยู่ด้วยก็รวย กำลังศึกษาน้องอยู่ค่ะ”
       
       รับอาการป่วยจากโรคประหลาดกว่า 20 ปี ตอนนี้หายเป็นปกติแล้ว
       “อาการป่วยหายแล้วค่ะ เพราะอดไป 6 เดือน ล้างสารพิษข้างใน ไม่กินแป้ง ไม่กินอะไรที่เกี่ยวกับพวกที่คัน เพราะพี่จะคันมาก คันหัว คันทุกอย่างไปหมด เราก็ไปฉีดยาตลอดทุกอาทิตย์ และตอนนี้โอเคแล้ว กลับเข้าที่ ตอนนี้ก็ทานได้ปกติ แต่เราก็ติดเป็นนิสัยแล้วพอจะจับปุ๊บก็อย่าดีกว่า เลยกลายเป็นนิสัยเลย จะทานอาหารน้อยมาก เช้านี้ก็ทานแค่น้ำขวดโตๆ 2 ขวด เพราะเป็นคนที่เหงื่อเยอะมาก ก็เลยทานน้ำบ่อย ทานวันละ 8-9 ขวด”
       
       “ตอนนี้ทานแป้งน้อยมาก อย่างข้าวอาจจะทานจานเดียวเล็กๆ อะไรที่มันๆ ทิ้งเลย หมูก็ไม่ค่อยเท่าไหร่แล้ว เนื้อยิ่งไม่เอาเลย ก็มีวิตามินเสริม บางทีกลับมาคนยังบอกว่ากลิ่นวิตามินหึ่งเลย เพราะว่ามันเข้าไปในตัว เข้าไปในเส้นเลือด เราไม่ได้กินเป็นเม็ดๆ นะคะ ไปถึงก็ฉีดเลย แล้วก็หลับอยู่ 35 นาทีหรือ 45 นาที พี่ก็จะนอนพักอยู่ตรงนั้นเลย พอลุกขึ้นมาเราก็กระฉับกระเฉง หายขาดหรือเปล่าไม่รู้เพราะว่ามันอยู่ข้างใน แต่เรารู้ตัวว่าเราโอเคดีขึ้น แต่จะมีโอกาสกลับไปเป็นอีกไหมก็ไม่รู้เลย ทุกอย่างมันอยู่ที่อนาคต”
       
       “คุณหมอก็ไม่ได้ห้ามอะไร อย่างส้มตำปลาร้าเมื่อก่อนชอบมาก แต่ตอนนี้กินแล้วคัน ปูก็คัน ทานไม่ได้เลย ทานแล้วจะท้องเสียทันที เหมือนกับลำไส้ทำงานไวมากเลย อะไรที่ผิดนิดเดียวหรือเผ็ดมากๆ ก็จะวิ่งหาห้องน้ำเลย อาจจะเพราะภูมิต้านทานข้างในมันยังก่อตัวไม่ดีมั้งคะ เราก็ต้องเลือกนิดหนึ่ง แต่ว่าดีนะมันก็ทำให้เราผอมลง ก็ไม่วิตกอะไรนะคะ ชอบทานเม็ดแมงลัก เอามาตีให้มันฟูๆ เหมือนไข่กบ พี่ชอบทานมาก วันหนึ่งเป็นแก้วๆ เลย เข้าห้องน้ำทีเม็ดแมงลักออกมาเต็มชักโครกเลย (หัวเราะ) แล้วก็ทานถั่วเขียวต้มน้ำตาล ทานอะไรง่ายมาก ใครเอาเราไปเลี้ยงสิคะ ไม่เสียเงิน ไม่เปลืองเลย กระเป๋า Hermes พี่ก็ไม่ถือ (หัวเราะ)”