คงต้องยอมรับว่า การพาลูกตัวน้อยออกมาดูโลก หรือไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ นั้นสามารถพบเห็นได้บ่อยมากขึ้นในปัจจุบัน แม้จะมีหลายเสียงออกมาตำหนิถึงความไม่เหมาะสม เพราะเด็กยังเล็กเกินไป บางคนอายุไม่เกิน 2 เดือนก็ถูกอุ้มเดินตามห้างสรรพสินค้าแล้ว แถมเด็กอาจร้องไห้จ้า ทำคนรอบข้างรู้สึกรำคาญกันได้ง่าย ๆ
       
       แต่ก็มีอีกหลายเสียงที่เห็นใจ และเข้าใจหัวอกพ่อแม่เหล่านั้น เพราะในสภาพสังคมปัจจุบัน การเลี้ยงลูกของหลายครอบครัวไม่มีตัวช่วยมากพอ หากไม่หอบหิ้วไปด้วยกันแล้ว จะปล่อยลูกไว้ให้ใครดูแล โดยเฉพาะครอบครัวใบเลี้ยงเดี่ยว
       
       คุณแม่เก๋ - วิภานันท์ (ขอสงวนนามสกุล) คุณแม่ใบเลี้ยงเดี่ยวที่อาศัยอยู่กับลูกน้อยหนึ่งใบเถาเผยว่า เหตุผลที่ต้องพาลูกน้อยวัย 8 เดือนไปยังสถานที่ต่าง ๆ พร้อมกับแม่นั้น มีสาเหตุหลักมาจากไม่มีคนช่วยเลี้ยงลูกนั่นเอง
       
       "เราไม่ได้จ้างพี่เลี้ยง หรือส่งไปอยู่เนิร์สเซอรี่ เพราะเราไม่ไว้ใจ ไม่อยากให้ใครก็ไม่รู้มาดูแลลูก ส่วนคุณตาคุณยายก็อยู่ต่างจังหวัด มันห่างไกลกันเกินไป ดังนั้น เราเลยตัดสินใจเลี้ยงเอง ไปไหนก็ไปด้วยกันแม่ลูก อย่างน้อยลูกอยู่ในสายตาตลอดเราก็ยังอุ่นใจ"
       
       สำหรับการเตรียมตัวพาลูกน้อยออกมาด้วยเวลาไปซื้อของ หรือทำธุระต่าง ๆ นั้น แม่เก๋ให้ความเห็นว่า ไม่ยุ่งยาก เพราะปัจจุบันมีรถเข็นเด็กเป็นผู้ช่วยชั้นดี
       
       "คือเราต้องระแวดระวังตลอด ไปซื้อของ รถเข็นของจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญ แต่ลูกจะต้องไม่คลาดสายตา เพราะคนเราเดี๋ยวนี้ไว้ใจไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้เหนื่อยตลอดเวลา บางทีไปซื้อของกันสองคน แค่ได้ยิ้มกับลูกก็มีความสุขแล้วค่ะ"
       
       หรือกรณีของคุณแม่บุ๋ม - วีรวรรณ (ขอสงวนนามสกุล) คุณแม่อีกท่านหนึ่งที่มีลูกแฝดวัยกำลังซน และมักมีการเดินทางไปต่างจังหวัดกับสามีอยู่บ่อยครั้ง
       
       "ครอบครัวเราเดินทางบ่อย เพราะต้องทำงาน การเลี้ยงลูกก็เลยต้องปรับสภาพตามพ่อแม่ด้วย เด็ก ๆ ก็จะคุ้นเคยกับคาร์ซีท แต่ละคนก็มีคาร์ซีทของตัวเอง ก็มีบ้างเหมือนกัน ที่พี่น้องงอแง แต่จะให้อยู่บ้านเราก็ดูแลเด็กเล็กพร้อมกันสองคนไม่ไหว ก็เลยไปด้วยกันดีกว่า อย่างน้อยก็มีสามีคอยช่วย พองานเสร็จก็ยังได้แวะเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วย"
       
       อย่างไรก็ดี เสียงจากผู้ที่พบเห็นเด็กเล็กตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ก็มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ยกตัวอย่าง คุณภาสกร ลิมบุรีธรรม นักท่องเที่ยวรายหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นกับทางทีมงานว่า "ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการพาเด็กเล็กออกมานอกบ้าน เพราะเขายังเล็กอยู่ บางทีร้องไห้เพราะร้อน เหนื่อย หรือหิวก็สงสารเด็กเหมือนกัน แต่ก็เข้าใจว่าบางครอบครัวอาจมีข้อจำกัด ทำให้ต้องพาลูกออกมานอกบ้านพร้อมกับพ่อแม่ อีกอย่างสมัยนี้มีข่าวการใช้ความรุนแรงกับเด็กเล็กอยู่บ่อย ๆ พ่อแม่เลยอาจไม่ไว้ใจให้คนอื่นช่วยเลี้ยงก็เป็นได้"
       
       ข้อคิดเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อพาลูกน้อยออกท่องโลก
       
       หากครอบครัวของคุณเป็นหนึ่งในครอบครัวที่ต้องพาลูกน้อยออกนอกบ้านบ่อย ๆ แล้วล่ะก็ ควรมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องต่าง ๆ และการพิจารณาหาตัวช่วยดี ๆ ที่จะทำให้การเดินทางสะดวกราบรื่นยิ่งขึ้น อาทิ
       
       - เวลาที่จะเดินทาง พ่อแม่ควรพิจารณาออกเดินทางในเวลาที่เหมาะสม เช่น หากเดินทางไกล อาจเลือกเวลาใกล้ ๆ กับเวลานอนของเด็ก เมื่อลูกหลับ พ่อแม่ก็จะได้มีสมาธิกับการขับรถยิ่งขึ้นด้วยนั่นเอง
       
       - อย่าละเลยมื้ออาหารของลูก หากการเดินทางนั้นมีช่วงเวลาตรงกับมื้ออาหารของเด็ก ๆ ไม่ควรปล่อยให้ลูกหิ้วท้องรอจนกว่าพ่อแม่จะถึงจุดหมายถึงจะได้รับประทาน อาจทำอาหารง่าย ๆ ติดไปด้วยให้เด็กรับประทานแก้หิว
       
       - อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางควรเตรียมให้พร้อม เช่น คาร์ซีท รถเข็น ของเล่นเด็ก ยาของลูก เบอร์โทรศัพท์ของโรงพยาบาล หรือแพทย์ประจำตัวของลูก ฯลฯ โดยเฉพาะคาร์ซีทนั้นสำคัญมาก พ่อแม่ไม่ควรละเลยไม่จัดหาอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยชิ้นนี้โดยเด็ดขาด ส่วนของเล่นนั้นก็จำเป็นไม่แพ้กัน เพราะการพาเด็กเล็กมาก ๆ ไปต่างสถานที่ เจ้าหนูอาจไม่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งใหม่ที่พ่อแม่พาเขาไป และอาจร้องไห้จนสร้างความรำคาญให้กับคนอื่น ๆ ได้
       
       - ความเอาใจใส่ลูกน้อย หากคุณพ่อคุณแม่พาเจ้าหนูตัวน้อยเดินทางไกล แล้วเด็กเกิดร้องไห้จ้าขึ้นมาในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ให้กินนมก็แล้ว ให้ของเล่นก็แล้ว ลูกก็ยังไม่หยุดร้อง บางทีการจอดรถพัก แล้วให้คุณแม่อุ้มลูกขึ้นมาจากคาร์ซีทอาจช่วยได้ เพราะเด็กก็เมื่อยเป็น บางทีเขาอาจอึดอัด ไม่สบายตัว แต่ไม่ทราบจะบอกอย่างไร หรือถ้าลูกโตขึ้นอีกสักหน่อย การจอดแวะพักตามปั๊ม และให้เจ้าตัวเล็กลงมาเดินยืดเส้นยืดสายก็ช่วยให้เขาร่าเริงขึ้นได้เช่นกัน
       
       - การเลือกสถานที่พักควรตอบโจทย์ครอบครัว คนมีลูกเล็กยังไม่สามารถไปกางเต๊นท์นอนบนอุทยานแห่งชาติได้ ดังนั้น การเลือกที่พักโดยมีลูกตัวน้อยตามไปด้วยควรเป็นโรงแรม หรือห้องพักที่ปลอดภัยพอสำหรับเจ้าตัวเล็ก ซึ่งหากเป็นโรงแรม ควรสอบถามถึงบริการต่าง ๆ ที่ทางโรงแรมสามารถจัดเตรียมให้ได้ เช่น มีเตียงนอนสำหรับเด็กเล็กหรือไม่ เป็นต้น
       
       - เตรียมใจว่าการเดินทางนี้อาจไม่สบาย หรือสนุกอย่างที่คิด รวมถึงเตรียม "แผนสอง" เอาไว้เผื่อเจ้าตัวเล็กทำแผนแรกล้มเหลว
       
       การเตรียมพร้อมเหล่านี้ นอกจากจะช่วยคุณพ่อคุณแม่ในการ "ดูแลคนที่สำคัญที่สุด" ได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังทำให้คุณมีเวลาพักหายใจหายคอ ไม่เหนื่อยกับการเดินทางจนเกินไปอีกด้วย เพราะอย่าลืมว่า เมื่อถึงจุดหมาย คุณยังต้องเตรียมแรงกายแรงใจเอาไว้รับมือกับหนูน้อยตาใสแป๋ว ที่ชาร์จแบตมาจนเต็มด้วยนะคะ
       
       สุดท้ายนี้ หากว่าการเดินทางพร้อมเจ้าตัวเล็กเกิดจากความจำเป็นของพ่อแม่ หรือเพราะสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จากคนรอบข้างคงเป็นสิ่งที่พ่อแม่และเด็กต้องการได้รับมากที่สุด เพราะแค่ผู้ใหญ่รอบข้างช่วยขยับ หรือหลบทางให้กับรถเข็นเด็กบ้าง ก็อาจช่วยให้พ่อแม่และเด็กปลอดภัย หรือเหนื่อยน้อยลงแล้ว แต่ถ้าหากว่า การพาลูกน้อยเดินทางไปกับพ่อแม่นั้น เป็นไปเพื่อให้มีภาพไว้อัปบนเฟสบุ๊ก ไว้ให้เพื่อน ๆ เข้ามาคลิก Like โดยไม่คำนึงถึงหัวอกหัวใจของเด็กกันล่ะก็ การเดินทางแบบนั้นย่อมทำร้ายเจ้าตัวเล็กของคุณอย่างที่สุด

ที่มา  http://www.manager.co.th/