เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านโนนสวรรค์ หมู่ 9 ต.โนนรัง อ.มือง จ.ร้อยเอ็ด ว่า มีหนูน้อยวัยเพียง 12 ขวบ ป่วยเป็นปอดวาย มาแต่กำเนิด พูดไม่ได้ มีเสมหะไหลออกทางจมูกตลอดเวลา รับประทานอาหารเหลว นม และน้ำดื่มทางจมูก ปัจจุบันขาเริ่มลีบทั้งสองข้างแล้ว ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย อาศัยอยู่กับยายที่อายุมากแล้ว พ่อแม่ไปทำงานไม่มีเวลามาดูแลลูก ยายออกไปทำอะไรก็ไม่ได้ ต้องคอยดูแลหลานสาวผู้พิการตลอดเวลา มีเพียงเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเบี้ยคนพิการยาย เดือนละ 800 บาท จาก อบต.โนนรัง รวมกับหลาน เดือนละ 500 บาท เพิ่งมาเปลี่ยนแปลงได้รับเดือนละ 800 บาท เมื่อสองเดือนที่ผ่านมาเลี้ยงดูประทังชีวิตไปวันๆ วอนสื่อลงพื้นที่เพื่อนำเสนอข่าวให้ความช่วยเหลือ

 
 ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ บ้านเลขที่ 145 หมู่ 9 ต.โนนรัง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านของ นางเรียน นามนารถ อายุ 71 ปี ยายของ ด.ญ.สิริยุพา สิงห์มะหม้อ ที่พิการป่วยปอดวายมาแต่กำเนิด มีสภาพการพิการสิ้นเชิง ช่วยเหลือตนเองไม่ได้เลย มีอาการเกร็งตลอดเวลา ต้องใช้เวลากว่า 2 ชม. ในการป้อนข้าวป้อนน้ำทางสายยางสอดเข้ารูจมูกในแต่ละมื้อ จากการสอบถามทราบว่า นางเรียน มีลูก 4 คน ซึ่งแต่ละคนต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวหมดแล้ว ขณะที่สามีเสียชีวิตมากว่า 10 ปี แม้บ้านพักอาศัยจะดูใหญ่โต แต่ด้วยที่สามีเสียชีวิต ทำให้เสียเสาหลักและต้องเลี้ยงดูลูกทั้ง 4 คน และไม่มีที่นาเป็นของตนเอง มีเพียงบ้านพักอาศัยเท่านั้น ขณะที่แม่ของ ด.ญ.สิริยุพา ซึ่งเป็นบุตรสาวคนที่ 4 และสามีก็ไปทำงานที่เทศบาลคูเมือง อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ไม่มีเวลาดูแลเลี้ยงลูกตนเองจึงเป็นภาระหนักที่ตน ต้องเลี้ยงดูแทนตลอดเวลาถึง 12 ปี  

 
 นางเรียน กล่าวด้วยว่า หลานสาวป่วยปอดวายมาแต่กำเนิด พยาบาลบอกว่ากลืนน้ำคล้ำเข้าไปตัวเขียวต้องเข้าตู้อบ หมอให้นอนอยู่โรงพยาบาลร้อยเอ็ดถึง 6 เดือนแต่อาการไม่ดีขึ้นถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ขอนแก่นได้ 1 เดือนรวม 7 เดือน หมอบอกว่าเป็นโรคปอดวาย มีอายุไม่เกิน 10 ปี ก็เสียชีวิต ตนสงสารหลานจึงขอกลับมาเลี้ยงดูด้วยตัวเองที่บ้านจนกระทั่งบัดนี้ 12 ปีแล้วเลยกำหนดตาย จะเลี้ยงดูต่อไปจนถึงที่สุด ทุกวันนี้ได้ค่าใช้จ่ายจากเงินเดือนผู้สูงอายุของตนเดือนละ 800 บาท และเงินคนพิการหลานสาว เดือนละ 500 บาท เพิ่งมาเปลี่ยนแปลงได้รับเดือนละ 800 บาทเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา นำมาใช้ในการดูแลรักษาและเลี้ยงดูด้านนม อาหารและยารักษาโรค ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ในการหยิบยื่นอาหารการกินเป็นบางครั้ง เอามาแบ่งให้กินมั้ง ตนมีลูก 4 คน ต่างออกเรือนมีครอบครัวกันไปหมด บ้านหลังนี้สร้างนานแล้วตั้งแต่สามียังมีชีวิตอยู่ ปัจจุบันมีชีวิตอยู่ตามอัตภาพ อยากให้สังคมและผู้ใจบุญช่วยเหลือหลานสาวด้วย

 ด้าน นายสมเดช สิงห์เสนา อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนจังหารฐิตะวิริยาประชาสรรค์ กล่าวว่า อยากให้สังคมให้ความช่วยเหลือสองยายหลานคู่นี้ เพราะพ่อบ้านก็เสียชีวิตไปนานแล้ว กว่า 10 ปี มีชีวิตอยู่ตัวคนเดียว ลูกหลานต่างแยกกันไปมีครอบครัวหมด แม้ผู้เป็นแม่-พ่อ ด.ญ.สิริยุพา ที่อยู่ด้วยกันที่บ้านก็ช่วยเหลือได้น้อยมาก เพราะเป็นพนักงานเทศบาลชั้นผู้น้อย แถมมีลูกสาวคนที่ 2 อายุ 3 ปี กำลังเรียนเตรียมอนุบาล และน้องชาย อายุ 1 ปีเศษ เป็นภาระเพิ่มมากขึ้นอีก จึงตกเป็นภาะของนางเรียนผู้เป็นยายที่ต้องดูแลชนิดไม่ห่าง หวั่นเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต จึงอยากวอนแพทย์ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลช่วยรักษา และวอนผู้ใจบุญได้ช่วยเหลือ หรือติดต่อได้ที่ นายสมเดช สิงห์เสนา โทรศัพท์ 08-9569-1112 ตลอด 24 ชั่วโมง

ขอขอบคุณที่มา  ข่าวสดออนไลน์