นายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะแห่งญี่ปุ่น สั่งทบทวนทบทวนแผนการก่อสร้างสนามกีฬาหลักสำหรับการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกของกรุงโตเกียวทั้งหมด หลังถูกวิจารณ์เรื่องค่าก่อสร้างที่สูงกว่า 70,000 ล้านบาท 
       
       หลังจากมีการเปิดเผยว่า สนามกีฬาแห่งชาติใหม่สำหรับกีฬาโอลิมปิกปี 2020 ซึ่งกรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพมีค่าก่อสร้างสูงถึง 252,000 ล้านเยน หรือเกือบ 70,000 ล้านบาท ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จากพรรคฝ่ายค้านและสาธารณชนอย่างกว้างขวาง จนนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้หารือกับนายโยะชิโร โมะริ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก และประกาศว่ารัฐบาลจะทบทวนแผนการก่อสร้างสนามกีฬาใหม่ทั้งหมด
       
       นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นระบุว่า ถึงแม้รัฐบาลจะทบทวนแผนการก่อสร้างใหม่ แต่ยืนยันว่าการก่อสร้างจะเสร็จสิ้นทันเวลาก่อนที่มหกรรมกีฬาจะเริ่มต้นขึ้น นายกฯอะเบะระบุว่าสนามกีฬาใหม่จะต้องทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้สึกทึ่ง แต่รัฐบาลญี่ปุ่นก็จะคงค่าใช้จ่ายไว้ให้ต่ำที่สุด
       
       เมื่อพฤศจิกายน พ.ศ.2555 คณะทำงานที่มีนายทะดะโอะ อันโด สถาปิกชาวญี่ปุ่นเป็นประธาน ได้คัดเลือกแบบของซะฮา ฮะดีด สถาปนิกจากอิรัก สำหรับโครงการก่อสร้างสนามกีฬาหลัก โดยในขณะนั้นประมาณกันว่าค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 130,000 ล้านเยน หรือราว 35,000 ล้านบาท
       
       หากแต่เจ้าหน้าที่ได้ระบุใหม่ภายหลังว่า หากก่อสร้างอย่างเที่ยงตรงตามต้นแบบ จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างกว่า 2 เท่าของตัวเลขที่ประเมินในครั้งแรก ซึ่งถึงแม้จะมีการปรับให้สนามกีฬามีพื้นที่น้อยลงเพื่อจำกัดค่าใช้จ่าย แต่ค่าก่อสร้างสนามกีฬาใหม่นี้ก็ยังสูงถึง 252,000 ล้านเยน หรือสูงถึง 8 เท่าของค่าก่อสร้างสนามกีฬาหลักสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ผ่าน ๆ มา
       
       โครงการสนามกีฬาที่มีมูลค่าสูงนี้ตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์ การสำรวจความคิดเห็นของสาธารณชนโดยสถานีโทรทัศน์ NHK ชี้ว่ากว่าร้อยละ 80 ของผู้ตอบการสอบถามไม่เห็นด้วยกับแผนนี้
       
       ทั้งนี้ คณะกรรมการโอลิมปิกของญี่ปุ่น จะต้องรายงานการเปลี่ยนแปลงใดก็ตามจากแผนการเริ่มต้นต่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากลเพื่อขออนุญาต หากแต่ยืนยันว่าการออกแบบและระยะเวลาก่อสร้างสนามกีฬาที่วางไว้แต่เดิมนั้น สามารถทบทวนแก้ไขได้ตราบเท่าที่ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาต่อการจัดการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก