เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3

ตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับนักเรียนชั้น ม.6 ที่ใช้เก้าอี้ฟาดหน้าหญิงสูงวัยแล้ว ด้านเจ้าตัวรับทำจริง เหตุถูกขโมยนาฬิกาชิ้นสุดท้ายที่พ่อมอบไว้ให้ก่อนเสียชีวิต

จากกรณีเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ เด็กนักเรียนไทยใช้เก้าอี้ฟาดใส่หญิงสูงวัย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบว่าสถานที่เกิดเหตุอยู่บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาปทุมวัน ใกล้ปากซอยเกษมสันต์ 3 ถนนพระราม 1 ในเขตท้องที่ สน.ปทุมวัน และทราบตัวหญิงสูงวัย รวมถึงนักเรียนที่ก่อเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (24 กรกฎาคม) พันตำรวจเอกวิวัฒน์ คำชำนาญ ผกก.กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ได้เชิญตัว นายเอ นามสมุมติ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนมีชื่อย่านปทุมวัน หลังพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้ทำการออกหมายเรียกในคดีทำร้ายร่างกาย นางสมจิตร พลายเนาว์ อายุ 50 ปี ทำงานเป็นแม่บ้าน เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา

โดยนายเอ นามสมุมติ ยอมรับว่า เป็นคนใช้เก้าอี้ฟาดนางสมจิตรจริง ซึ่งเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่ไปเที่ยวกับเพื่อน และมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ทำให้นาฬิกาอาร์มานี่หลุดจากข้อมือหล่นลงข้างทาง หลังทะเลาะวิวาทได้เดินหานาฬิกาแต่ไม่เจอ จึงได้ไปสอบถามร้านอาหารบริเวณใกล้เคียงจนพบว่า นางสมจิตรเป็นผู้เก็บนาฬิกาไว้

จากนั้นตนกับเพื่อนจึงออกตามหานางสมจิตร จนกระทั่งพบนางสมจิตรที่จุดเกิดเหตุ แต่เมื่อเข้าไปสอบถามนางสมจิตรกลับไม่ยอมรับว่าเป็นคนเอานาฬิกาไป ด้วยความโมโห จึงได้ทำการค้นตัวนางสมจิตร กระทั่งพบนาฬิกา จากนั้นตนจึงด่าทอ แต่นางสมจิตรก็ไม่ยังยอมรับว่าขโมยนาฬิกาไป ตนจึงโมโห และใช้เก้าอี้ฟาดไปที่ใบหน้านางสมจิตร 1 ครั้ง อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่าที่วัยรุ่นวัย 17 คนดังกล่าวลงมือทำร้ายร่างกายป้าแม่บ้าน เนื่องจากโมโหที่ขอนาฬิกาคืนแต่ป้าแม่บ้านกลับขอเงินเป็นข้อแลกเปลี่ยน

ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า นายเอ เป็นเด็กที่มีปัญหาครอบครัว พ่อเสียชีวิต และพักอาศัยอยู่กับญาติ โดยที่บ้านค่อนข้างมีฐานะ ส่วนนาฬิกาอาร์มานี่ดังกล่าว เป็นของขวัญวันเกิดที่พ่อมอบให้ โดยมีราคาประมาณ 20,000 บาท ซึ่งเป็นของที่นายเอรักมาก และถือเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายจากพ่อที่เสียชีวิต

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเอ ส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุม และในวันนี้ (25 กรกฎาคม) เจ้าหน้าที่ จะนำตัวนายเอส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ซึ่งหากไต่สวนพบว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาโดยชอบธรรม ก็จะทำการส่งตัวนายเอไปยังสถานพินิจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า พบตัวนางสมจิตรที่บ้านใน จ.ขอนแก่น โดยนางสมจิตร เผยว่า ในวันเกิดเหตุ ตนกำลังเดินทางกลับที่พัก ระหว่างทางเดินไปเตะนาฬิกาข้อมือ จึงสลัดเอานาฬิกาออกจากเท้า ทว่า มีวัยรุ่นชาย 2 คน แสดงตัวเป็นเจ้าของ และกล่าวหาว่าตนขโมย จังหวะเดียวกันเด็กอีกคนคว้าเก้าอี้ตีเข้าที่หน้าของตน จนต้องเย็บแผลถึง 12 เข็ม และนอนรักษาตัวถึง 2 คืน ก่อนกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิด เมื่อรักษาอาการบาดเจ็บหายดี ตนจะเข้าไปแจ้งความยังสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ เพราะถือว่าตนเป็นคนบริสุทธิ์ที่ต้องได้รับบาดเจ็บ