หลังจากที่แพทย์ยังไม่ยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตและต้องรอผลการตรวจชันสูตรศพอย่างแน่ชัดของ “เซจ สตอลโลน” ลูกชายคนโตวัย 36 ปีของนักแสดงชื่อดัง “ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน” ไปอีก 6 สัปดาห์ มาตอนนี้เกิดดรามาขึ้นในครอบครัว เมื่อสมาชิกครอบครัวรายหนึ่งโพสต์ข้อความกล่าวหานักแสดงบู๊เป็นต้นเหตุทำลูกชายเสียชีวิต

เอ็ด ฟีลีตี ลูกพี่ลูกน้องของ เซจ วัย 18 ปี ที่เป็นลูกชายของ โทนี แอน น้องสาวต่างมารดาของซิลเวสเตอร์ ได้เขียนข้อความแสดงความไม่พอใจลงในเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า นักแสดงดังได้ตัดขาดลูกชายออกจากชีวิตนำไปสู่การเสียชีวิตของเซจ

โดยข้อความดังกล่าวมีใจความว่า “เขาทำอะไรผิดเหรอ แค่บอกสุขสันต์วันเกิด ไม่เธอ (เจนนิเฟอร์ ฟลาวิน ภรรยาใหม่ของซิลเวสเตอร์) หรือเขา จะโทร.กลับหน่อยไม่ได้เหรอ สิ่งที่เขาต้องการทั้งหมด ก็คือ พ่อเขาเอง”

“ผมรู้ว่าคุณไม่สนว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่คุณจะสนก็ต่อเมื่อคุณกำลังจะแดดิ้นตายภายใต้การถูกจับตาและความเห็นของสาธารณะ พวกคุณทำผมรู้สึกแย่มาก”

เซจ ถูกพบศพที่บ้านพักในฮอลลีวูด ฮิลล์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะแม่บ้านกำลังทำความสะอาด โดยรอบตัวเขาพบขวดกองอยู่เกลื่อนกลาดรวมถึงยาตามใบสั่งแพทย์ด้วย

เอ็ด ยังมาดร้ายมุ่งประเด็นไปที่ เจนนิเฟอร์ ฟลาวิน อดีตนางแบบภรรยาของซิลเวสเตอร์ด้วยเช่นกัน “เจนนิเฟอร์ ฟลาวิน เธอชนะแล้ว เธอฉีกครอบครัวนี้ออกเป็นชิ้นๆ แล้วเธอก็ขึ้นรับรางวัล ยินดีด้วย! อย่างที่เธอเคยบอกครอบครัวเราไง “ตอนนี้ฉันเป็นครอบครัวเดียวกับสไลแล้ว เขาไม่ต้องการพวกคุณอีกต่อไปแล้ว” แล้วมาคอยดูกันว่าเขาจะต้องการเธอมากแค่ไหนหลังจากนี้”

นอกจากข้อความเปิดศึกดังกล่าวแล้ว เอ็ด ยังโพสต์ข้อความอื่นเพื่อแสดงความระลึกถึงญาติของเขาด้วย ก่อนที่จะลบมันออกไปในภายหลัง

“ไม่เจ็บอีกแล้วเหลือแต่ความเจ็บปวดที่เซจทิ้งไว้ให้กับแม่ของเขา หนึ่งในคนใจดีที่สุดที่ผมเคยรู้จัก คนที่ทำทุกอย่างเพื่อคนอื่น... ดูสิว่าคุณจะปฎิเสธยังไง ทำกับครอบครัวได้ขนาดนี้ ไม่มีโทรหาผมหรือแม่ผมเลยสักครั้ง “เทวดาไปอยู่ข้างกายผู้หญิงคนนั้น” แล้วลูกชายคุณล่ะ?”

“พวกเขากำลังจะวาดรูปคุณและภรรยาคุณเป็นสีดำกับแดง รูปคุณจะค่อยๆ เลือนหายและทุกๆคนจะเห็นว่าอะไรอยู่ข้างใน คอยดูให้ดี พายุใหญ่กำลังจะมา มันเริ่มน่าขยะแขยง โชคดีแล้วกัน ครอบครัวบ้าอะไรเนี่ย!”

แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับครอบครัวสตอลโลน ได้เผยด้วยว่า ความสัมพันธ์ของซิลเวสเตอร์และเซจ ค่อนข้างร้าวลึกและหมางเมินกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

“เซจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าบ้านของพ่อเขา และเขายอมรับกับสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆด้วยว่าเขารู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้มาก เขารู้สึกเหมือนถูกตัดขาดออกจากชีวิตของพ่อเขา เซจนับถือพ่อของเขามากแต่พวกเขาบาดหมางกันในช่วงหลังๆ มันทำให้เขาเศร้ามาก”

ล่าสุด ซิลเวสเตอร์ ได้ออกแถลงการณ์โดยร้องขอความเป็นส่วนตัวว่า “ทุกคนได้โปรดระลึกถึงลูกชายมากความสามารถของผมและได้โปรดห็นใจซาชาแม่อันเป็นที่รักของลูกชายผมด้วย ขอให้สื่อได้โปรดหยุดการคาดเดาสันนิษฐานและรายงานข่าวที่สร้างปัญหาเสียที”

http://www.manager.co.th