(คลิป) อยากรู้วิธีเอาชนะนักมวยเกาหลีใต้ถึงในบ้านเหรอ? อดีตแชมป์โลก "เมืองชัย กิตติเกษม" มีคำตอบให้
2014-10-03 09:50:35
Advertisement
คลิก!!!

 

ในอินชอนเกมส์ครั้งนี้ สื่อมวลชนและนักกีฬาจากหลายๆ ชาติ ต่างแสดงความกังขาในผลการแข่งขันกีฬาหลายประเภท ที่ดูเหมือนกรรมการจะมีความเอนเอียงเข้าข้างชาติเจ้าภาพมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกีฬาที่มีกติกาในการให้คะแนนไม่ค่อยเคลียร์นัก อย่าง "มวยสากลสมัครเล่น" 
 
ที่ชัดเจนที่สุด ก็คือ กรณีของนักมวยหญิงจากอินเดียที่ไล่ถลุงนักมวยเจ้าภาพอย่างเหนือชั้น แต่กลับปราชัยไปในรอบรองชนะเลิศ จนสาวแกร่งจากแดนภารตะแสดงท่าที "อารยะขัดขืน" ไม่ยอมรับเหรียญทองแดง
 
หรือกรณีของนักมวยชายมองโกเลียที่ต่อยนักชกชาติเจ้าภาพหน้าตาเละเทะแต่กลับพ่ายคะแนนไปแบบค้านสายตาดูเหมือนว่าความผิดพลาดประการเดียวของนักสู้ลูกหลานเจงกิสข่านจะเป็นการน็อกนักมวยโสมขาวไม่ลงเท่านั้นเอง
 
เมื่อดูกีฬาเอเชียนเกมส์หนนี้ หลายคนคิดถึงกีฬาโอลิมปิกเกมส์ปี ค.ศ.1988 ที่จัดขึ้น ณ กรุงโซล ซึ่งมีมวยสากลสมัครเล่นคู่อัปยศเกิดขึ้น เมื่อ "รอย โจนส์ จูเนียร์" นักมวยทีมชาติสหรัฐฯ ขึ้นชกในรอบชิงชนะเลิศ กับนักมวยเจ้าภาพ และเป็นฝ่ายไล่ต้อนนักชกโสมขาวอย่างเหนือชั้น แต่กรรมการให้คะแนนกลับดั้นเมฆให้นักมวยเจ้าถิ่นคว้าเหรียญทองไปแบบค้านสายตาสุดๆ จนคณะกรรมการจัดการแข่งขันต้องแก้เขิน ด้วยการมอบรางวัล "เบสต์ บ็อกเซอร์" หรือ นักมวยยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนท์ ให้แก่เจ้าของเหรียญเงินอย่าง รอย โจนส์
 
แต่ "ของจริง" ก็ต้องเป็น "ของจริง" อยู่วันยังค่ำ เพราะเมื่อเทิร์นโปรแล้ว รอย โจนส์ จูเนียร์ ก็ได้รับการยอมรับให้เป็นนักมวยสากลอาชีพที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ในอีกราวทศวรรษต่อมา
 
นอกจากมวยสากลสมัครเล่น เมื่อราวทศวรรษ 1980 และต้น 1990 เกาหลีใต้ยังถือเป็นชาติที่ครองความยิ่งใหญ่ในเรื่องกีฬามวยสากลอาชีพระดับเอเชีย จนยากที่นักมวยต่างชาติจะเดินทางไปเอาชนะนักมวยโสมขาวถึงในบ้าน เพราะฝีมือลายมือและน้ำอดน้ำทนของนักชกเกาหลีใต้นั้นไม่ธรรมดา ขณะที่ลูกตุกติกในการตัดสินก็ใช่ย่อยเช่นกัน
 
วันนี้ มติชนออนไลน์ ขอนำเสนอคลิปมวยสากลอาชีพรุ่นเก่า เป็นการชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท ของสภามวยโลก ระหว่าง เมืองชัย กิตติเกษม กับ ชาง จุงกู เมื่อปี พ.ศ.2534
 
ชาง จุงกู เป็นนักมวยสากลระดับตำนานของเกาหลีใต้ เขาคือ นักชกโสมขาวคนแรกในประวัติศาสตร์และคนที่ 5 ของทวีปเอเชีย ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าบรรจุในหอเกียรติยศนักมวยนานาชาติ
 
ชาง จุงกู ครองแชมป์โลกรุ่นไลท์ฟลายเวท สภามวยโลก ในระหว่างปี พ.ศ. 2526-31 โดยป้องกันแชมป์โลกได้ถึง 15 ครั้ง (ในการป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 3 เขาเคยเอาชนะคะแนนนักมวยไทยอย่าง "สด จิตรลดา" มาแล้ว) จากนั้นเจ้าตัวได้ตัดสินใจสละแชมป์ และแขวนนวม แต่อีกเพียงหนึ่งปีต่อมา ชาง ก็หวนคืนสังเวียนอีกครั้งหนึ่ง
 
แต่เขากลับล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าจะเป็นการแพ้คะแนน "ฮุมแบร์โต้ กอนซาเลซ" ในการชิงแชมป์โลกรุ่น 108 ปอนด์ ของสภามวยโลก ซึ่งตนเองเคยครอบครอง
 
ถัดมา เขาพยายามขยับรุ่นขึ้นไปชิงเข็มขัดฟลายเวท ของสถาบันเดียวกัน กับคู่ปรับเก่า สด จิตรลดา แต่ชางกลับตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนนให้สดไปอย่างเฉียดฉิว
 
ท้ายที่สุด ยอดมวยเกาหลีใต้ก็ได้รับโอกาสอีกครั้ง เป็นการชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท สภามวยโลก จาก "เจ้าจก - เมืองชัย กิตติเกษม" ในเดือนพฤษภาคม ปี 2534 ที่กรุงโซล
 
ด้าน เมืองชัย เอง ในยุคนั้น ก็ถือว่ามีดีกรีไม่ธรรมดา เจ้าจกเคยเป็นแชมป์โลกไลท์ฟลายเวทของสหพันธ์มวยนานาชาติ ก่อนจะเสียตำแหน่ง ด้วยการพ่ายน็อคให้แก่ยอดมวยรุ่นเล็กของสหรัฐ อย่าง "ไมเคิล คาร์บาฮาล"
 
จากนั้น เมืองชัย ข้ามรุ่น มาชิงแชมป์โลก 112 ปอนด์ ของสภามวยโลก ด้วยการเปิด "ศึกสายเลือด" กับยอดมวยรุ่นพี่ "สด จิตรลดา" ปรากฏว่า เมืองชัยโชว์ฟอร์มเยี่ยม ไล่ทุบสดแพ้น็อกไปอย่างย่อยยับในยกที่ 6
 
ก่อนที่ เจ้าจกจะบินมาป้องกันแชมป์โลกครั้งแรกกับรุ่นเก๋าอย่างชาง จุงกู
 
เกมการชกวันนั้นดำเนินไปอย่างเมามัน ใน 11 ยกแรก เมืองชัยโดนสอยนับแปดไปถึง 3 ครั้ง แต่เจ้าตัวก็เล่นงานอดีตแชมป์โลกเจ้าถิ่นได้อย่างสะบักสะบอมไม่น้อยเช่นกัน ผลคะแนนก่อนยกสุดท้าย จึงออกมาแบบคู่คี่สูสี กรรมการคนแรกให้เมืองชัยนำ 104-102 กรรมการคนที่สองให้เสมอ 103-103 กรรมการคนสุดท้ายให้ชางนำ 104-103
 
แต่แล้วเหตุพลิกผันในยกสุดท้ายก็บังเกิดขึ้น เมื่อเมืองชัยปล่อยหมัดเด็ด ส่งชางร่วงลงไปนับแปด เมื่อลุกขึ้นมา นักมวยโสมขาวก็ยังเมาไม่ฟื้น จึงโดนเจ้าจกไล่เช็คบิล จนถูกกรรมการผู้ห้ามบนเวทีจับแพ้ทีเคโอไปอย่างช็อกอารมณ์แฟนมวยเจ้าถิ่น และน่าเจ็บกระดองใจแบบสุดๆ
 
หลังการชกสุดมันระดับห้าดาวในไฟท์นั้น เมืองชัยป้องกันแชมป์โลกได้อีก 2 ครั้ง หนึ่งในนั้น คือ การย้ำแค้นสด จิตรลดา ด้วยชัยชนะน็อกในยกที่ 9 ชนิดที่ในช่วงปลายการแข่งขัน แฟนมวยชาวไทยที่ฟาร์มจระเข้ สมุทรปราการ ต่างพร้อมใจกันตะโกนคำว่า"ทารุณ ๆ ๆ" ออกมา เพื่อเรียกร้องให้กรรมการบนเวทียุติการชกได้แล้ว เนื่องจากสภาพของสดนั้นบอบช้ำแบบสุดๆ
 
ก่อนที่เจ้าจกจะไปพ่ายน็อกเสียแชมป์ให้แก่นักมวยเชื้อสายรัสเซียที่ไปชกอาชีพอยู่ในญี่ปุ่นอย่าง "ยูริ อาร์บาชาคอฟ" และแม้จะพยายามทวงแชมป์กลับคืนมา แต่เจ้าจกก็ถูกยูริไล่ถลุงจนพ่ายแพ้ไปแบบไม่ครบยกซ้ำอีกหน
 
ขณะที่ ชาง จุงกู นั้น หลังจากแพ้น็อกเมืองชัยอย่างน่าเจ็บใจ ยอดมวยโสมขาวก็ประกาศแขวนนวมไปอย่างสมศักดิ์ศรี

ที่มา  มติชนออนไลน์





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X