“โย-บี” เดือดโดนก็อปปี้อาหารลดความอ้วน ร้อง DSI จัดการ
2013-05-06 18:15:05
Advertisement
คลิก!!!

“โย-บี” ฉุนโดนก็อปปี้ธุรกิจอาหารลดความอ้วน แล้วยังลักไก่เอารูปตนทั้ง 2 ไปใช้โปรโมต บอกพอจับได้เข้าไปโพสต์ตักเตือน คู่กรณีกลับเปิด IG ด่าโยและครอบครัวเสียหาย เผยตอนนี้ยื่นเรื่องร้อง DSI ให้ช่วยตามล่าหาตัวคนทำแล้ว

ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ YO&BEE diet food delivery กำลังไปได้สวย แต่อยู่ๆ ก็มีเรื่องทำให้ 2 นางแบบสาว “โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” กับ “บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์” หัวเสีย หลังโดนมือดีก็อปปี้ธุรกิจ แถมยังเนียนเอารูปของทั้งคู่ไปโปรโมตพอจับได้เข้าไปโพสต์ตักเตือน อีกฝ่ายกลับด่ากลับเสียๆ หายๆ เล่นสกปรกแบบนี้งานนี้ โย กับ บี ก็เลยยื่นเรื่องให้ทาง DSI ตาล่าหาคนผิดแล้ว

บี : “เราทำมา 3 เดือน แล้วปรากฏกระแสตอบรับดีมากๆ จริงๆ ธุรกิจนี้เริ่มจากเราไปเมืองนอกมา แล้วธุรกิจนี้มันบูมมาก แล้วรู้สึกว่าอาชีพของเราต้องดูแลสุขภาพและรูปร่างของตัวเองก็ทำอะไรที่เราถนัดดีกว่า ก็เลยเอามาทำในประเทศไทยโดยมีเชฟที่เชี่ยวชาญมาช่วยดูแลสูตรให้”

สุดฉุนโดนก็อปปี้ธุรกิจแถมยังเอารูปตน 2 คนไปหลอกโปรโมต

โย : “ตอนแรกก็ไม่รู้นะ แต่ว่าแฟนคลับของบีเยอะ ก็มีคนแท็กมาให้ดูในอินสตาแกรม ก็มีแต่รูปอาหารของเรา”

บี : “เหมือนโปรโมตว่าเป็นอาหารสุขภาพ แต่เป็นรูปของเรา จริงๆ เราไม่ได้อะไรหรอก เราแค่กลัวว่าลูกค้าของเราจะสับสน”

โย : “จริงๆ คุยกับเขาไม่ได้เพราะเราไม่สามารถไปคุยได้ตัวต่อตัว คือไม่สามารถรู้ได้ว่าคุณเป็นใครจากไหนยังไง ตั้งแอ็คเค้าท์ได้ยังไง คือมันไม่มีที่มาที่ไป พอพูดถึงคนนั้นจะสร้างเข้ามาแล้วเปิดตัวว่าเป็นใคร คราวนี้ก็สามารถรู้คือใคร เราก็อยากให้เขารู้ตัวนะ แต่ว่าไม่ใช่ตอนนี้ ต้องบอกว่าในอินสตาแกรมตอนนี้เราแจ้งความเขาก็บอกไม่สามารถดำเนินคดีได้ เพราะไม่สามารถที่จะดำเนินคดีได้ แบบคนผิดเพราะมันเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพราะสามารถที่จะเป็นแปลงรายชื่อและปิดแอคเค้าท์ เพราะตอนนี้ก็ถูกปิดไปแล้ว คราวนี้ก็จะเป็นเรื่องของเมนูอาหาร เพราะเราเอาลิขสิทธิ์เราเอาผิดต้องดำเนินเรื่องนิดนึงพอสมควร”

บี : “มันก็เป็นเรื่องของอาหารค่ะ ที่เราจับได้ว่าเขาก็อปปี้ก็มีการเตือนว่าอย่านะ เขาก็ปิด แล้วสร้างแอคเค้าท์ใหม่มาด่าเรา พอด่าปุ๊บก็ลบของตัวเอง เราก็ก็อปไว้ว่าด่าอะไรบ้าง ก็โดนบล็อกแล้วก็ปิดเลย ซึ่งเป็นอะไรที่แย่มาก”

โย : “โดนก็อปเราไม่นอยด์นะ เพราะขนาดของแบรนด์เนมยังโดนก็อปแสดงว่าเขาก็สนใจเรา(หัวเราะ) เราก็ต้องไปดูเรื่องของโซเชียลเน็ตเวิร์กว่าเขาปิดไปแล้ว เราทำอะไรได้บ้าง เขาปิดไปแล้วเราจะทราบไหมว่าสร้างมาจากอีเมลล์อะไร คือตอนนี้ก็ต้องไปเช็คที่เฟซบุ๊กค่ะ เพราะเราต้องการรู้ว่าเป็นใคร เขาก็มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกลับ แต่ก็ปิดเบอร์เหมือนกัน ตอนนี้ก็เปิดมาใหม่แล้ว สักประมาณอาทิตย์ที่แล้ว เป็นแอคเค้าท์ที่เปิดมานานแล้ว แต่ดึงรูปเราไปในแอคเค้าท์ของเขา”

“แต่รูปโปรโมตเป็นรูปเรานะ ก็ยังเข้ามาด่าเราอีก คุยกันไม่รู้เรื่องซะแล้ว ก็ต้องดูว่าถ้ายังไม่ดึงรูปออกก็คงต้องดำเนินคดี ก็คงจะเตือน และถามว่ารูปนี้มีที่มาที่ไปยังไง ถ้าเขายังไม่ปิดยังไม่ถอนออก ก็ไม่ถึงให้ขนาดใหญ่โตเพราะเคสมันเล็ก ถ้าสามารถเจรจาได้ก็อยากเคลียร์ (ดูเขาไม่ค่อยเกรงกลัว?) มันยังทำต่ออีกหลายเจ้าค่ะ บอกตรงๆ ว่ามันแจ้งความไม่ได้ คงเป็นแค่ยื่นเรื่องให้ DSI เขาตักเตือน ดำเนินคดีก็คือการยื่นเรื่องไปเตือน ซึ่งพอไปเตือนเขาก็ปิดแอคเค้าท์ คือจริงๆ ไปนั่งถึงตรงนั้นแล้ว DSI ก็คือใหญ่ที่สุดแล้วค่ะ เขาก็บอกว่าทำได้ดีที่สุดก็คือตรงนี้ ถ้าตรงนี้ทำไม่ได้มากไปกว่านี้ก็ไม่มีใครทำได้แล้ว นอกเสียจากว่ารู้ตัวคนทำจริงๆ แล้วก็ไปดำเนินคดีในอีกรูปแบบนึง เช่น หมิ่นประมาท”

บี : “อันนี้ก็เป็นเรื่องของจิตใต้สำนึกของคนที่ทำ ว่าเขามีจิตใต้สำนึกแค่ไหน ขอให้เขามีความสุขกับสิ่งที่เขาทำแล้วกันค่ะ ในสิ่งที่เขาทำและทำให้คนอื่นเดือดร้อน ถ้ามีความเป็นคนก็ต้องละอายบ้าง เอาเป็นว่าเราไม่จองเวรจองกรรมกับเขาแล้วกัน ทำอะไรไปก็ขอให้เจริญๆ ซึ่งจริงๆ ตอนนี้เราก็รู้นะ เราก็มีรูป แต่เราไม่อยากไปจองเวรจองกรรมเท่านั้นเองค่ะ”

โย : “เรื่องหมิ่นประมาทอาจไม่เกี่ยวกับอาหารนะ แต่เขาเปิดไอจีมาด่าโย ด่าครอบครัวโย ทำรูปโย รูปหมาโย คือแรงมากบอกตรงๆ เราทำอะไรให้ เราอยากรู้ว่าเป็นใคร ถ้าจับได้ว่าเป็นใครก็ดำเนินคดีได้เลย เพราะไม่รู้จักอะไรเลย คือทำอาหารเพื่อสุขภาพเราไม่ว่าหรอก แต่ดึงรูปเราไป มันผิดจรรยาบรรณ คุณก็คิดเมนูขึ้นมาเอง ทำเองเลยจบ คือโลโก้ก็คล้ายๆ ด้วย”

 

http://www.manager.co.th

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X