แบรนด์ที่มีชื่อว่า “เลดี้ กาก้า” หรือ สตรีกาก้า ในภาคไทย จัดเป็นโมเดลใหม่ของธุรกิจ เป็นมากไปกว่าที่มีคนเคยขนานนามว่าเธอเป็น New Madonna เธอกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ในเร็ววันเกินกว่าที่ใครหลายคนจะคาดคิด เพราะเธอปล่อยของดีของเด็ดที่มีอยู่ในตัวอย่างเต็มที่และคนทั้งโลกก็ตอบรับมัน

เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วย Social Media ที่เธอและทีมงานหมั่นคอยเติมเชื้อไฟและแรงปรารถนาให้กับแฟนคลับของเธออยู่เสมอ

นั่นจึงทำให้เธอเป็นศิลปินไม่กี่คนที่กำชัยชนะในโลก Music 2.0 ได้ชนิดที่ว่าใครหลายคนต้องค้อนขวับกันคนละหลายตลบ

กล้าที่จะแตกต่างอย่างสร้างสรรค์

เลดี้ กาก้า จัดเป็นคนที่มีพรสวรรค์และรู้จักสร้างมันให้แข็งแกร่งและเจิดจรัสยิ่งขึ้น เธอเป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรีชาวอเมริกัน เล่นเปียโนได้คล่องแคล่วตั้งแต่อายุ 4 ขวบ นิวยอร์กคือบ้านเกิดเมืองนอนของเธอ และนักร้องหญิงผู้มีคาแร็กเตอร์โลดโผนเกินจะเปรียบกับผู้ใดคนนี้เคยเป็นศิษย์โรงเรียนคอนแวนต์มาก่อน

ความแปลกและแตกต่างอย่างชาญฉลาด บุคลิกที่แรงแต่ชัดเจนทำให้เธอเป็นที่จดจำได้ง่ายแม้เพียงแรกเห็นก็อยากรู้จักว่าเธอคือใคร หรือไม่อีกทางหนึ่งก็คืออยากจะหลีกหนีไปให้ไกล

ไม่ใช่ว่าเธอเป็นศิลปินคนแรกที่สร้างจุดขายด้วยชุดสุดประหลาดหลุดโลกและเซ็กซี่จัดจ้านแบบนี้ (หนึ่งในดีไซเนอร์ที่เธอโปรดปรานมากคือ Alexander McQueen ดีไซเนอร์สุดเปรี้ยวผู้ล่วงลับ) เพราะศิลปินหญิงหลายคน ต่างเคยกรุยทางมาก่อนแล้ว ทั้งมาดอนน่า คริสติน่า อากีเลร่า พิงค์ บียอนเซ่ ฯลฯ ซึ่งต่างก็มีสไตล์และคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจนเป็นของตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้เท่าเธอ เพราะกาก้าทำให้คนเชื่อว่าเธอคู่ควรและเหมาะสมกับชุดที่เธอใส่ได้จริง

กาก้าไม่ยี่หระและเลือกที่จะโดดเด่นโดยไม่แยแสต่อคำครหาใดๆ เพราะเมื่อเธอสวมใส่เมื่อนั้นโลกจะหันมาจับจ้องเธอ เธอตระหนักดีว่า Viral Marketing ทรงอิทธิพลเพียงใด และเธอไม่รีรอที่จะใช้มันอย่างช่ำชอง สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อคนเรามีความแน่วแน่ เชื่อมั่นในวิถีทางของตนเองและทำให้มันเป็นจริงแล้ว ความสำเร็จย่อมไม่หนีหายไปไหน

ชุดที่เธอสวมใส่ (ไม่ว่าจะเป็นรังนก หรือแม้แต่ดาวเทียมก็เคยจัดวางตระหง่านบนศีรษะเธอมาแล้ว รวมถึงชุด Hello Kitty อันอื้ออึง) ก็เหมือนกับบรรจุภัณฑ์ที่ห่อหุ้มสินค้าไว้ มีเอกลักษณ์ สะดุดตาบนชั้นวาง มิหนำซ้ำยังมีคอลเลกชั่นใหม่ๆ ออกมาให้ตื่นตาตื่นใจอยู่เรื่อยๆ แล้วจะให้แฟนคลับไม่นิยมชมชอบหรือเบื่อเธอลงได้อย่างไร

กาก้าได้ใจกลุ่มเกย์จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็น Trend Setter ในเรื่องแฟชั่นและดนตรีสไตล์ป๊อป แดนซ์อยู่แล้ว อีกทั้งยังมี Loyalty สูงต่อศิลปินที่ชื่นชอบ

ว่ากันถึงสไตล์เพลง เธอทำให้ป๊อป แดนซ์ คืนชีพอีกครั้งอย่างเกรียงไกร ในขณะที่อุตสาหกรรมเพลงกำลังสนใจกับดนตรีแนวใหม่ๆ ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวโดยเฉพาะบทเพลงและดนตรีที่มีเอกลักษณ์ ฟังง่ายและสนุกคล้ายคลึงกับบริทนีย์ สเปียร์ ขณะที่สไตล์ของมิวสิกวิดีโอละม้ายกับมาดอนน่ารวมถึงเกวน สเตฟานี่ และใครอีกหลายคน แต่สุดท้ายเธอกลั่นกรองสิ่งที่หลายๆ คนว่าเธอไปคล้ายคนนั้นทีคนนี้ที จนกลายเป็นแบรนด์ที่โดดเด่น แข็งแกร่งในเวลานี้

ราชินี Social Media

เธอใช้ Social Media เป็นเครื่องมือในการเร้าความสนใจกับแฟนๆ ของเธอมาโดยตลอด และก็ทำให้เธอเกิดจนกลายเป็นเจ้าแม่ Social Media โดยแท้จริง เธอใช้ Social Media เป็นหนึ่งในเครื่องมือสื่อสารการตลาดอย่างเต็มศักยภาพ และเป็นหนึ่งในผู้ใช้ Social Media ที่แอคทีฟมาก

Facebook ของเธอมีคนแอดไปแล้วกว่า 21 ล้านคน เป็น Top Fan Page อันดับต้นๆ ของโลก เหนือบารัก โอบามา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่กลางปี 2552 เธอมี Fan Page เพียง 3 ล้านเท่านั้น

กาก้าใกล้ชิดกับแฟนๆ ของเธอมากและเรียกขานพวกเขาว่า “Little Monsters” ขณะที่เธอคือ “Mother Monster” และทำให้แฟนพันธุ์แท้รู้สึกว่าเป็นคนสำคัญและคนพิเศษสำหรับเธอ ด้วยศัพท์แสงที่เฉพาะแฟนตัวจริงเท่านั้นที่จะรู้

ที่สำคัญเธอเป็นคนคนแรก (ไม่นับแบรนด์สินค้า) ที่มียอด Fan Page พุ่งทะลุ 10 ล้านเป็นคนแรก เป็นสถิติที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา กรณีนี้เธอบอกขอบคุณแฟนๆ ใน Facebook ของเธอผ่านวิดีโอที่จัดทำขึ้นเพื่อการนี้โดยเฉพาะเลยทีเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่กาก้าสร้างสัมพันธ์กับแฟนคลับ

Youtube Channel ซึ่งเธอและทีมงานจัดทำวิดีโอสำหรับช่องทางนี้โดยเฉพาะ ที่ใส่สรรพยุทธ์การตลาดทั้ง Product Placement และโฆษณาต่างๆ โดย Bad Romance มีคนดูกว่า 180 ล้านวิวทั่วโลก และขึ้นแท่นเป็นมิวสิกวิดีโอที่มีคนดูผ่าน Youtube มากที่สุดในโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้เธอยังสนับสนุนให้แฟนๆ ของเธอทำ Fan Videos จากการชมคอนเสิร์ตของเธอในสถานที่ต่างๆ

Twitter เธอใช้มี Follower แล้วเกือบ 7 ล้านราย วันหนึ่งๆ เธอ Tweet หลายสิบครั้ง และนี่จึงเป็นช่องทางที่อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับเธอมากที่สุดด้วย

หากจะบอกว่าเธอเป็นเจ้าแม่ Social Media ตัวจริงเสียงจริงก็ไม่ผิดนัก และเป็นกรณีศึกษาของการสร้างแบรนด์ “คน” ที่ครบสูตร โดยเฉพาะการก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ใน Social Media ด้วยระยะเวลาเพียง 18 เดือนเท่านั้น

…คำเตือน Keep Interacting ตลอดเวลา…

ทั้งดัง ทั้งรวย

ล่าสุด กาก้าติดอันดับ 4 ของ Celebrity 100 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บสประจำปี 2553 นิตยสารฟอร์บสเปรียบเปรยว่า

“การจะเป็นคนดังไม่ยากเลย ลองถาม Kate Gosselin หรือไม่ก็ Kim Kardashian ดูสิเพราะพวกเธอขึ้นปกนิตยสารดังๆ ไม่ต่ำกว่า 20 ฉบับ ในรอบ 1 ปี (มิถุนายน 2552-มิถุนายน 2553) แต่การดังและรวยด้วยนั้นยากและแตกต่างออกไป และเลดี้ กาก้าทำได้ทั้งดังและรวย”

เลดี้ กาก้า ต่อยอดแบรนด์เธอเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด กาก้าจดทะเบียนเครื่องหมายทางการค้าของเธอ “Lady Gaga” เป็นที่เรียบร้อยแล้วครอบคลุมไปถึงชุดว่ายน้ำ รองเท้าลำลอง ชุดชั้นใน ชุดนอน กระเป๋าถือ หมวก ฯลฯ สินค้าคอลเลกชั่นต่างๆ ของเธอขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และมีการผลิตออกมาใหม่เรื่อยๆ

แบรนด์เก๋ากึกที่เผชิญปัญหาหนักทางธุรกิจอย่าง Paraloid ว่าจ้างกาก้าให้เป็น Creative Director พร้อมๆ กับการเป็นพรีเซ็นเตอร์ เช่นเดียวกับเครื่องสำอางแมค ขณะที่แบรนด์ชาระดับโลกหลายแบรนด์ต่างก็ยื้อแย่งเธอให้เป็น Brand Ambassador (กาก้ามีชาเป็นแก้วโปรด) โดยคาดกันว่า TWININGS จะเป็นผู้คว้าชัยในครั้งนี้กับเม็ดเงินเบื้องแรกที่ต้องจ่าย 1 ล้านปอนด์เพื่อนำใบหน้าเธอไปติดในรสชาติใหม่ของ TWININGS

เธอมีทัวร์คอนเสิร์ตกว่า 50 ครั้ง ในระยะเวลา 106 วัน ได้เงินไป 31 ล้านเหรียญสหรัฐ และเธอทำรายได้ในรอบปีที่ผ่านมา 62 ล้านเหรียญสหรัฐ

คัมภีร์มหานิยมแบบฉบับเลดี้ กาก้า

1.ชื่อเด่น จำง่าย เธอใช้ชื่อใหม่ที่แปลก แต่จดจำง่าย ถามว่าทุกวันนี้ใครจะรู้จักชื่อ Joanne Stefani Angelina Germanotta อดีตก่อนจำแลงเป็นซูเปอร์สตาร์ งานนี้ Rob Fusari หนึ่งในทีมโปรดิวเซอร์เป็นคนตั้งชื่อ เลดี้ กาก้า ให้ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง Radio Ga-Ga ของวงควีน

2.ต้องมีแรงบันดาลใจอย่างแรงกล้า กาก้าเธอมีแรงบันดาลใจแบบสุดลิ่มทิ่มประตูจาก David Bowie, Freddy Mercury (Queen), Madonna and Michael Jackson ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคนต้นแบบระดับโลกด้วยกันทั้งสิ้น

3.หาคู่หูเด็ดๆ หรือต้องเรียนรู้ที่จะ JV (Joint Venture) กับนักการตลาดเก่งๆ รายอื่นที่ประสบความสำเร็จแล้ว แต่ต้องขยันเป็นสิบเท่า เพราะจะทำ JV แบบนี้จะทำให้ไปสู่ชัยชนะได้เร็วขึ้น เช่น กาก้า ที่เขียนเพลงให้กับ The Pussy Cat Dolls กาก้าเล่นเปียโนร่วมกับเอลตัน จอห์น หรือกาก้า Featuring เพลง Telephone ร่วมกับบียอนเซ่ เป็นต้น

4.คิดและนอกกรอบ ลองทำอะไรที่หลุดๆ ไปจากธรรมเนียมปฏิบัติของธุรกิจที่เราอยู่บ้าง เหมือนกับการแต่งองค์ทรงเครื่องของกาก้าที่กลายเป็น Talk of the town ในทุกครั้งที่เธอปรากฏตัวในงานต่างๆ

5.หยิบยกจุดเด่นมาโปรโมตต่อเนื่องและถี่ โปรโมตตัวเองให้หนักในทุกสื่อเท่าที่จะทำได้โดยเฉพาะใน Social Media และละทิ้งความเป็นส่วนตัวและชื่นชมกับการเป็นบุคคลสาธารณะให้เต็มที่เช่นเดียวกับกาก้าที่ระเริงอยู่ใน Social Media อย่างมีความสุข

6.เจาะก้นบึ้งผู้บริโภคและเกาะให้อยู่หมัด สร้างสรรค์ผลงานในสิ่งที่คนคาดหวังและเขาจะรักมันและส่งเสริมเราต่อไป เช่น เธอร้องเพลงแดนซ์และเพลงป๊อปในรูปแบบที่แค่แต่งเนื้อร้องและทำนองเสร็จก็รู้แล้วว่ามันจะฮิตถล่มทลายไปทั่วโลก

7.เรียบง่ายแต่โดน ต้องมั่นใจว่าโปรดักต์ของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย ดูตัวอย่างจากกาก้าเธอไม่ได้ร้องโอเปร่าชนิดต้องปีนบันไดฟัง และเนื้อหาของเพลงเธอก็เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน

8.สู้ไม่ถอย แม้จะพ่ายแพ้ในเบื้องต้นแต่ชัยชนะแห่งความสำเร็จหอมหวานยิ่งนัก โดยกาก้าเคยมีผลงานเพลงมาแล้วเมื่ออายุ 19 ปี แต่ก็ถูกดร็อปไว้ หากเธอยุติความพยายามหรือสิ้นหวัง ณ จุดนั้น วันนี้เราคงไม่ได้ศึกษาเรื่องราวของเธอซึ่งมีคุณค่าต่อนักการตลาดทั้งมวล โปรดท่องไว้ว่า ต้องทำงานให้จงหนักและพร้อมที่จะลุกเมื่อล้มเสมอ