The Woman in Black เป็นภาพยนตร์สยองขวัญที่อาจไม่โดดเด่น แต่ก็น่าพึงพอใจในแง่ความเป็นหนังบ้านผีสิงที่ใช้เทคนิคการหลอกหลอนแบบหนังยุคเก่า เน้นการสร้างบรรยากาศให้ชวนขนลุก และมีฉากที่ทำให้คุณสะดุ้งตกใจได้หลายฉาก ทั้งยังเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่แดเนียล แรดคลิฟฟ์ มารับบทนำครั้งแรกหลังจากพ้นออกมาจากโลกเวทมนตร์ของหนังชุด Harry Potter ซึ่งแรดคลิฟฟ์ก็ทำหน้าที่ได้อยู่ในเกณฑ์ดี

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากนิยายผีอันคลาสสิคของซูซาน ฮิลล์ ที่เขียนไว้ในปี 1983 ถูกสร้างเป็นละครเวทีอันลือลั่นมาก่อน ซึ่งเคยมีฉบับดัดแปลงเป็นภาษาไทยด้วย ในชื่อ “ผีชุดดำ” สร้างโดยค่ายละครเวทีดรีมบ็อกซ์ มีภาณุเดช วัฒนสุชาติ รับบทเดียวกับที่แรดคลิฟฟ์แสดง ฉบับล่าสุดที่สร้างเป็นหนังนี้ดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์โดยเจน โกลด์แมน จาก Kick-Ass และ X-Men: First Class กำกับโดยเจมส์ วัตกินส์ ผู้กำกับจากหนังสยองขวัญ Eden Lake และยังเป็นผลงานแรกที่ถ่ายทำในอังกฤษในรอบหลายปีของแฮมเมอร์ ฟิล์ม โปรดักชั่นส์ บริษัทหนังเก่าแก่ของอังกฤษที่เคยโด่งดังในกลางยุค 50 -70 และสร้างหนังสยองขวัญคลาสสิคอย่าง The Curse of Frankenstein, Dracula และ The Mummy

หนังเปิดด้วยฉากโศกนาฏกรรมสยองขวัญพิศดารที่หลอนพอตัวในหมู่บ้านริมชายฝั่งทางเหนือของอังกฤษอันห่างไกลชื่อครายธิน กิฟฟอร์ด ก่อนที่จะตัดกลับไปยังลอนดอนที่อาร์เธอร์ กิปป์ (แรดคลิฟฟ์) ชายหนุ่มผู้ยังคงอาลัยอาวรณ์ต่อการจากไปของภรรยา จำใจต้องทิ้งลูกชายวัย 4 ขวบ ไว้กับพี่เลี้ยง เพื่อเดินทางไปยังหมู่บ้านดังกล่าว เนื่องจากต้องพิสูจน์ตัวเองแก่สำนักงานทนายความที่จ้างเขาในการสะสางเอกสารพินัยกรรมของคุณนายดราโบว์แห่งคฤหาสน์เอช มาร์ช ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์สะเทือนขวัญทั้งหมด

เมื่อกิปป์ไปถึงหมู่บ้าน เขาพบว่าแทบจะไม่มีใครที่นั่นต้อนรับเขาเลยและพยายามบอกเป็นนัยให้เขาจากไปเสีย แล้วกลับไปอยู่ดูแลลูกที่บ้าน ซึ่งกิปป์ก็ให้คำตอบว่า เพราะเขานึกถึงลูก จึงต้องเดินทางมาที่นี่ มีเพียงสองสามีภรรยาตระกูลเดลี่ (เซียแรน ไฮนด์ส และ เจเน็ต แม็คเทียร์) ที่ดูจะเป็นมิตรต่อเขาและให้การต้อนรับอย่างดี แต่ตระกูลเดลี่เองก็ดูจะแปลกไม่ต่างจากชาวหมู่บ้านคนอื่น ซึ่งต่อมา หนังก็เผยว่าความขมขื่นจากการสูญเสียลูกไปของคนหมู่บ้านนี้เป็นต้นเหตุของนิสัยประหลาดเหล่านั้น

เรื่องราวส่วนใหญ่ของหนังเกิดขึ้นในคฤหาสน์เอล มาร์ช ซึ่งกิปป์ใช้เป็นที่พำนักในช่วง 3-4 วันที่เขามาอยู่ในหมู่บ้าน ทำให้เขาพบต้นเหตุของความสยองขวัญว่าเกิดจากวิญญาณหญิงสาวชุดดำที่สิงอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ ผู้ซึ่งวิกลจริตและถูกพรากลูกชายไปจากการเลี้ยงดูของเธอ เมื่อเธอเห็นเหตุการณ์อุบัติเหตุที่ลูกชายจมหายลงไปในโคลน ทำให้เธอแค้นจนคลั่งและปลิดชีพตัวเอง กลายเป็นวิญญาณพยาบาท โดยใครก็ตามที่ได้พบเห็นวิญญาณของเธอ จะต้องพบกับการพลัดพลาดเช่นเดียวกัน เมื่อกิปป์รู้ความจริง เขาจึงพยายามที่จะล้างคำสาปนั้น

หนังใช้เวลาครึ่งเรื่องแรกในการปูที่มาของกิปป์กับเหตุการณ์หลอกหลอนต่างๆ ในคฤหาสน์เอล มาร์ช จากเดิมที่มีเพียงคนดูที่เห็นผีมาอยู่ใกล้ตัวกิปป์ให้ได้ลุ้นกันเล่นว่ากิปป์จะโดนหลอกไหม แล้วเมื่อกิปป์ได้เจอกับตัว ฉากหลอกหลอนก็หนักขึ้นด้วยการให้ผีโผล่ออกมาสร้างความตกใจแบบจะๆ กลวิธีในการสร้างความน่ากลัวเหล่านี้ก็เป็นแบบคลาสสิค นั่นก็คือการสร้างบรรยากาศที่ชวนไม่น่าไว้ใจและวังเวงผ่านการสร้างฉาก การกำกับศิลป์ และการถ่ายภาพ ผสมกับการโผล่ออกมาของผีแบบที่เราไม่ทันตั้งตัวให้ชวนสะดุ้งได้เป็นระยะ ที่ขาดไม่ได้ของหนังสยองขวัญบ้านผีสิงในรูปแบบนี้ก็คือผีเด็กหรือเด็กที่ประหลาดน่ากลัว หนังเรื่องนี้ก็จัดมาให้และทำได้อยู่ในเกณฑ์ดี

ส่วนครึ่งเรื่องหลังเน้นไปที่การเล่าเรื่องผ่านการปะติดปะต่อของกิปป์ว่าผีสาวในชุดดำเป็นใคร เธอต้องการอะไร และเขาต้องทำอย่างไรเพื่อจะล้างคำสาป ซึ่งการเล่าเรื่องยังทำได้ไม่ลงตัวเท่าไหร่ในแง่การทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมไปกับเรื่องราว สาเหตุอาจเพราะหนังเดินเรื่องในส่วนนี้เร็วเกินไป จะเห็นว่าจังหวะของการเล่าเรื่องนั้นเร่งกว่าครึ่งเรื่องแรกอย่างเห็นได้ชัดและห้วนจนไม่อาจได้ซึมซับอารมณ์ของความสยองหรือความสะเทือนใจเท่าไหร่เลย

ฉากจบของหนังก็ทำให้เอารู้สึกเหวอไปเลยเหมือนกัน เพราะพยายามให้มีการหักมุม แต่ทำได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าฉบับละครเวที อาจกลายเป็นฉากที่คนดูส่วนหนึ่งรู้สึกว่าแย่ได้ แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าการเล่าเรื่องที่ไม่คมพอทำให้ฉากจบดูเป็นการหักมุมที่ขาดพลังมากกว่าเพราะการที่บทถูกเขียนให้ออกมาเป็นอย่างนั้น

แรดคลิฟฟ์ถือว่าสอบผ่านในการรับบทนำเป็นครั้งแรกในบทที่แตกต่างจากแฮรี่ พอตเตอร์ โดยสิ้นเชิง มีการแสดงที่พอดีของการเป็นชายหนุ่มอมทุกข์และเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์น่ากลัวต่างๆ ก็แสดงออกมาได้อย่างเหมาะเจาะ ดูเป็นธรรมชาติ และไม่กลัวเวอร์จนน่ารำคาญ แต่ยังขาดความน่าเชื่อในแง่การรับบทเป็นพ่อที่มีลูกวัยสี่ขวบ การแสดงออกยังขาดความลึกและมิติของความเป็นผู้ใหญ่และผู้มีภาระหน้าที่รับผิดชอบของคนเป็นพ่อ

โดยสรุปแล้ว The Woman in Black เป็นหนังสยองขวัญที่อยู่ในระดับน่าพอใจ แม้ว่าการเล่าเรื่องจะไม่ลงตัวอยู่บ้าง แต่หนังก็มีฉากให้คอหนังแนวนี้ได้สะดุ้งตกใจและหลอนกันได้ในระดับหนึ่ง และก็เป็นผลงานแรกนอกโลกเวทมนตร์ที่น่าพอใจของแดเนียล แรดคลิฟฟ์เช่นกัน

jediyuth.wordpress.com