“ไก่” หุบปากเรื่อง “สรยุทธ” อึ้งเจอถามจะเสนอข่าวสุจริตได้ไงในเมื่อทุจริต
2012-10-19 21:45:46
Advertisement
คลิก!!!

“ไก่ ภาษิต” ท่องคาถาไม่ขอออกความคิดเห็น กรณี “สรยุทธ” โดนฟันยักยอกเงินโฆษณาของ อสมท ยอมรับไม่อยากพูด เพราะอีกฝ่ายเป็นพี่ที่ตนรักและเคารพ พร้อมโต้โฆษณาถอนตัว 4 บริษัท ที่เหลือถามคำตอบคำ 
       
       หลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติฟันบริษัท ไร่ส้ม จำกัด ของ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” พิธีกรและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง มีความผิดทางอาญา ฐานร่วมกันยักยอกเงินโฆษณาที่ได้รับ เกินกว่าสัญญาที่บริษัท ไร่ส้ม ทำไว้กับบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ทำให้ อสมท ได้รับความเสียหายถึง 138,790,000 บาท ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะยืนยันว่าเงินจำนวนดังกล่าวตนได้จ่ายให้กับทาง อสมท ไปหมดแล้ว กระทั่งมีหลายองค์ออกมาเรียกร้องให้พิธีกรคนดังแสดงความรับผิดชอบ ทว่าเจ้าตัวกลับประกาศจะสู้ในชั้นศาล เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง
       
       ซึ่งตั้งแต่ตกเป็นข่าวทางฟากของสรยุทธก็ยังไม่ออกมาชี้แจงใดๆ แม้เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา นิตยสาร CROW ได้จัดให้มีการมอบรางวัลสุดยอดคนดังที่มีความเป็นที่สุด ซึ่งพิธีกรคนดังก็ได้รับรางวัลนี้ด้วย แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวก็ชิ่งไม่มา โดยให้เหตุผลว่าติดประชุม สบโอกาสเจอตัวพิธีกรร่วมรายการของสรยุทธ อย่าง “ไก่ ภาษิต อภิญญาวาท” ที่มางานนี้ด้วย แต่ทันทีที่สอบถามไป หนุ่มไก่ก็เอาแต่ตอบว่าไม่ขอแสดงความคิดเห็น
       
       กับกรณีสรยุทธ? 
       “ไม่มีความเห็นครับ”
       
       เขามีมาปรึกษาบ้างไหม?
       “ไม่มีครับ”
       
       เขามีแสดงอาการเครียดให้เห็นไหม?
       “ไม่มีครับ”
       
       เห็นว่าโดนถอดโฆษณาถึง 4 ตัว พอจะทราบเรื่องไหม?
       “ไม่ทราบครับ ทราบคร่าวๆ ว่า ไม่น่าจะใช่ แต่ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นยังไง เพราะไม่ได้คุยกันเรื่องนี้”
       
       ทำไมถึงคิดว่าไม่น่าจะมีผลกระทบกับเรื่องสปอนเซอร์?
       “ไม่ใช่ในใจ แต่ฟังที่เขาพูดกันมา เห็นว่าไม่ได้มีการถอน แต่ว่าผมไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ที่ผมทราบคือไม่มีการถอนครับ ก็ลองไปสืบเอาข้อเท็จจริงมาแล้วกันครับ แต่เท่าที่ทราบคือไม่มี”
       
       ถ้ามีการถอนขึ้นมาจริงๆ จะมีผลกระทบอะไรกับรายการบ้าง?
       “ไม่ทราบเลย ผมไม่ได้อยู่ในกระบวนการนั้น ผมเป็นพิธีกร ผมไม่ทราบจริงๆ”
       
       กลัวไหมว่ามันจะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือในการเล่าข่าว?
       “คิดว่าไม่นะครับ”
       
       จากที่ทำงานอยู่ด้วยกัน ดูเขากังวลอะไรเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้น?
       “ทุกวันนี้ทำงานไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลย พี่ยุทธไม่เห็นจะมีท่าทีที่เปลี่ยนไปเท่าไหร่ ก็ยังทำงานเป็นปกติครับ”
       
       ส่วนตัวเรามีความกังวลบ้างไหมจากกระแสข่าวต่างๆ?
       “ไม่ออกความคิดเห็นได้ไหม ขออนุญาตนะ ไม่ขอออกความคิดเห็นแล้วกัน”
       
       พอมีข่าวว่าจะยื่นฟ้องอาญาก็เหมือนกับว่าต้องแสดงความรับผิดชอบอะไรออกมาบ้าง เพราะมีองค์กรหลายแห่งร้องเรียนให้แสดงความรับผิดชอบออกมา?
       “ไม่แสดงความคิดเห็นได้ไหมครับ”
       
       ในฐานะที่เราเองก็เป็นสื่อเหมือนกัน?
       “ไม่ขอแสดงความคิดเห็นแล้วกันครับ”
       
       ทำไมถึงไม่อยากแสดงความคิดเห็น?
       “ขอไม่แสดงความคิดเห็นแล้วกันครับ”
       
       กลัวว่าคำพูดที่เราพูดออกไปมันจะไปกระทบถึงสรยุทธเหรอ?
       “ผมไม่ขอแสดงความคิดเห็นแล้วกัน”
       
       หรือว่าสรยุทธไม่ให้พูด?
       “คงไม่ขนาดนั้น ผมเรียนตรงนี้เลยว่าพี่สรยุทธ เราไม่เคยคุยเรื่องนี้กันเลย ผมรู้สึกว่าพี่ยุทธก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ส่วนนึงผมเคารพในความเป็นผู้ใหญ่ และเพื่อนร่วมงานเลยไม่ได้ถามเรื่องนี้เลย แล้วคิดว่าพี่เขาอยากจะพูดเขาคงจะพูดกับเราเอง ซึ่งเราไม่ได้คุยกันเรื่องตรงนี้เลย ไม่รู้จะแสดงความคิดเห็นอย่างไร คงต้องไปถามคุณสรยุทธเองแล้วกันนะครับ...เยอะ”
       
       พอมันเป็นอย่างนี้มันก็มีคำถามออกมาว่า เราจะเสนอข่าวอย่างสุจริตได้ยังไง ในเมื่อเราก็โดนฟังธงมาว่าทุจริต?
       “คงต้องไปถามคุณสรยุทธเองแหละครับ เราไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลย”
       
       ในมุมมองของเราต่อข้อกังขานี้?
       “ไม่แสดงความคิดเห็นครับ ยังไม่ค่อยอยากพูดครับ ส่วนนึงยอมรับว่าพี่ยุทธเป็นพี่ที่ผมรักและเคารพ ตรงนี้ผมไม่ขอแสดงความคิดเห็น ขอให้ไปถามกับเขาเอง แต่ส่วนตัวยังไม่มีโอกาสได้คุยกันเรื่องนี้เลย ก็เลยไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้”
       
       เขาไม่พูดถึงเลย แสดงว่าเขาน่าจะไม่มีความกังวลกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมานั่งคุยกัน?
       “กังวลรึเปล่านี่ผมไม่ทราบ แต่เท่าที่ทำงานมาก็ยังไม่ได้มีลักษณะที่หลุดออกไป ไม่ได้มีความกังวลในภาพลักษณ์ที่เขาแสดงออกมากับเพื่อนร่วมงานหรือทีมงาน”
       
       คือเราเองก็ไม่ได้มองว่าเขาจะต้องแสดงความรับผิดชอบยังไง?
       “อันนี้ผมขอไม่แสดงความคิดเห็นแล้วกันนะครับ”
       
       แล้วทางผู้ใหญ่ว่ายังไงบ้าง?
       “ยังไม่มีอะไรครับ ในส่วนของผมนะครับ ของผมไม่มีอะไร”
       
       แล้วสมมติถ้ามันเกิดฟ้าผ่าขึ้นมา เรากังวลบ้างไหม?
       “ผมว่าผมก็ทำงานของผมตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายครับ ก็เลยยังไม่ได้กังวลอะไร ยังไม่ได้มีแพลนอะไรครับ ผมเป็นพนักงานสังกัดช่อง 3 ฉะนั้นก็ทำหน้าที่ที่ช่อง 3 มอบหมาย ก็ปฏิบัติหน้าที่ไป ทางช่องก็ยังไม่มีการเรียกคุยอะไร”
       
       ในฐานะที่เราเป็นสื่อ เรากังวลไหมเพราะจะทำให้คนตั้งคำถามกับสื่อเหมือนกันนะ?
       “ยังไม่แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ดีกว่าครับ ขอโทษจริงๆ นะครับ หวังว่าจะเข้าใจ”
       
       

 

http://www.manager.co.th






เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X