GIVE YOU MORE ENERGY! ร้อนกายดับได้ ร้อนใจดับดี 3x2 วิธีคุณทำได้!!! (Centerpoint)
By : แพมแพม

          ท่องจำกันมาตั้งแต่ชันประถม ประเทศไทยมี 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว แต่นอกห้องเรียนน่ะ รู้ ๆ กันอยู่ประเทศไทยมีแค่ 2 ฤดูเท่านั้นแหละ คือฤดูร้อน และฤดูร้อนมาก ๆ 

          สำหรับคนกระเป๋าหนัก จะบินไปดับร้อนที่เกาหลี ญี่ปุ่น หรือสวิตเซอร์แลนด์ก็คงเป็นเรื่องชิลล์ ๆ แต่สำหรับคนที่ไปไหนไม่รอด เอ้ย! ยังไม่พร้อม ก็ไม่จำเป็นต้องดับร้อนแบบโอเว่อร์ ๆ เยี่ยงนั้น เพราะถึงที่สุดแล้ว ต่อให้รวยล้นฟ้าหรือจนทะลุดิน เอาเข้าจริง ๆ ร้อนกายใคร ๆ ก็หาวิธีดับกันได้ แต่ร้อนใจนี่สิ บางทีหิมะ ขั้วโลกเหนือก็อาจช่วยอะไรไม่ได้

3 วิธีร้อนกายดับได้

 1.เสื้อผ้าโปร่งสบาย

          แฟชั่นเมืองหนาวยกให้แอร์เมส, กุชชี่, อาร์มานี่, ชาแนล ฯลฯ แต่ถ้าแฟชั่นเมืองร้อน ปู่ย่าตายายเรื่อยไปถึงคุณทวดของเรา ๆ นี่แหละ "กูรู" ตัวจริงเสียงจริง ก็โถ...เสื้อเกาะอกของสาว ๆ สมัยนี้ หวิวสู้ผ้าแถบคาดอกของยายก็ไม่ได้ แถมร้อน ๆ อย่างนี้ จะเพ้อหาผ้าวูล ผ้าหนังไปทำไม ในเมื่อผ้าฝ้าย ผ้าคอตตอน 100% ของเราน่ะระบายอากาศได้ดีที่สุด ร้อนนี้จึงสมควรเก็บบรรดาเสื้อสูท เสื้อแจ็กเก็ต เสื้อผ้าเนื้อหนาตลอดจน Accessories พวกไหมพรม รองเท้าบู้ท ฯลฯ ไปไว้ไกล ๆ ตัวโดยเร็ว

 2.อากาศถ่ายเทสะดวก 

          บ้านไม้ทรงไทยสมัยก่อนสร้างมาเพื่อรับลมร้อนโดยเฉพาะ ตัวบ้านยกสูงเผื่อหน้าน้ำหลาก ประตูหน้าต่างก็มีครบทุกด้าน แถมยังมีชานบ้านไว้นั่งเล่น อากาศถ่ายเทสะดวกทำให้บ้านไม่กักเก็บความร้อน ในขณะที่บ้านในเมืองส่วนใหญ่สมัยนี้ก่ออิฐถือปูน กลางวันร้อนเปรี้ยง กลางคืนเลยคายความร้อนออกมาเผื่อแผ่คนในบ้าน ขนาดเปิดแอร์อุณหภูมิประหยัดไฟ 25 องศา บางทียังต้องอาศัยพัดลมช่วยอีกแรง ใครอยู่ในสภาพแวดล้อมเยี่ยงนี้ รีบมองหาช่องทางระบายอากาศโดยด่วน

 3.น้ำเปล่าช่วยได้

          มีคำแนะนำอยู่แล้วว่าเราควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว แต่ในหน้าร้อนร่างกายมีโอกาสอ่อนเพลียและเสียเหงื่อมากกว่าปกติ เราจึงยิ่งต้องดื่มน้ำบ่อย ๆ และดื่มเยอะ ๆ อย่ามัวกังวลเรื่องเข้าห้องน้ำบ่อยจนปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ เดี๋ยววิงเวียนศีรษะ หน้ามืดเป็นลม ท้องผูก ฯลฯ จะไปกันใหญ่ ลองคิดอีกที วันนี้มีแรงเดินเข้าห้องน้ำเองได้ ยังดีกว่าต้องอาศัยแรงคนอื่นช่วยพยุงในวันหน้านะเออ

3 วิธีร้อนใจดับดี

 1.หายใจเข้าออกช้า ๆ

          คนทุกคนหายใจได้ แต่ไม่ทุกคนที่หายใจเป็น ทางการแพทย์ การหายใจที่ถูกต้องคือหายใจแบบเต็มปอด เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ส่วนทางธรรม การหายใจที่ถูกทาง คือ หายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ เพื่อดึงจิตไม่ให้วอกแวก แต่ผลลัพธ์ของการหายใจทั้งสองโลกให้ผลดีไม่แพ้กัน เมื่อใดที่ร้อนใจ การได้หายใจเข้าออกช้า ๆ อย่างเต็มปอดเต็มพุง อย่างน้อยก็ช่วยให้เราสงบและเย็นลงได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

 2.วางมือ วางใจ

          ก่อนที่อะไร ๆ จะอีรุงตุงนังยุ่งเหยิงจนหาทางออกไม่เจอ การถอยห่างออกมาย่อมดีกว่าจะจมปลักกระทืบเท้าร้องกรี๊ด ๆ อยู่กับที่ ถึงจะร้อนใจว่ายังปั่นงานไม่เสร็จ แต่ถ้าขืนปั่นไปทั้งร้อน ๆ ก็อาจได้งานลวก ๆ เผลอ ๆ อาจมีข้อผิดพลาดให้ต้องเสียเวลากลับมาแก้อีก ในทางตรงกันข้าม การวางมือจากภารกิจตรงหน้า และวางใจให้สงบนิ่งเพียงชั่วขณะ จะช่วยให้เรานิ่งขึ้นและมีความพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้นกว่าเดิม

 3.สมาธิ...คำตอบสุดท้าย

          ชาวพุทธรู้กันมาตั้งนานแล้วว่าสมาธิคือ เคล็ดลับความสำเร็จ ในขณะที่ฝรั่งเพิ่งมาตื่นเต้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองว่ามี การพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์พบว่า การทำสมาธิแม้ในเวลาเพียงสั้น ๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้อย่างน่าอัศจรรย์ คนที่มีสมาธิดี มักประสบความสำเร็จทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงานขนาดไทเกอร์ วู้ดส์ โปรกอล์ฟมือหนึ่งของโลกยังบอกว่า สมาธิที่คุณแม่กุลธิดาสอนให้ตั้งแต่เด็กนี่แหละ คือสิ่งที่ทำให้เหนือคู่แข่งในทุกสนาม
คนไทยฟังแล้วยิ้ม ๆ บอกรู้มานานแว้วว แต่ยังทำไม่ได้เล้ยย แฮ่ะ ๆๆๆ

ข้อมูลจากกระปุกดอทคอม