เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Youtube.com โพสต์โดย Pizzametry

โดยปกติในยามที่คุณเข้าร้านพิซซ่านั้น ต้องรอเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาทีถึงจะมีพนักงานมาเสิร์ฟพิซซ่าร้อน ๆ ให้คุณถึงโต๊ะใช่หรือไม่ แต่วันนี้คุณอาจไม่ต้องรอถึงครึ่งชั่วโมงอีกต่อไป เพราะเพียงแค่ 90 วินาที ย้ำว่า วินาที! คุณก็ได้ลิ้มรสพิซซ่าร้อน ๆ ที่ไม่ต้องรอนานให้เสียอารมณ์เลย

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2554 เว็บไซต์เดลิเมล์ ได้รายงานเรื่องราวของเครื่องขายพิซซ่าอัตโนมัติในร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งที่เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อคุณเดินเข้าไปในร้าน สิ่งที่คุณต้องทำคือ เดินไปทำพิซซ่าเองเลย ด้วยเวลาเพียง 90 วินาที โดยการทำพิซซ่านี่ก็แสนจะง่ายดาย เพียงแค่คุณเดินเข้าไปกดปุ่มไม่กี่ปุ่มที่เครื่องทำพิซซ่าอัตโนมัติและปล่อยให้เครื่องทำงานไป ส่วนตัวคุณก็แค่ยืนรอเพื่อนำพิซซ่าร้อน ๆ มาแพ็คใส่กล่องที่ทางร้านมีเตรียมไว้ กลับไปทานอร่อย ๆ ที่บ้าน

โดยการทำงานของเจ้าเครื่องขายพิซซ่าอัตโนมัตินี้ ก็สามารถทำพิซซ่าได้เหมือนกับการทำพิซซ่าทั่วไป โดยลูกค้าจะสามารถเลือกหน้าได้ตามที่ใจอยาก เมื่อเลือกได้แล้วก็เพียงแค่กดปุ่มหน้าที่เราเลือก ก่อนที่เครื่องจะทำงาน และเราก็จะเห็นวัตถุดิบตามหน้าที่เราเลือกนั้นถูกหย่อนลงไปอย่างทั่วถึงบนแป้งพิซซ่านุ่ม ๆ ที่ค่อย ๆ หมุนรองรับอยู่ ซึ่งการทำพิซซ่าแต่ละหน้าก็จะใช้เวลาแตกต่างกันออกไป เริ่มจาก 90 วินาทีไปจนถึงสามนาทีครึ่ง ตามแต่หน้าที่เราสั่ง

ที่สำคัญในระหว่างที่คุณยืนรอนี้ คุณก็จะเห็นวิธีการทำพิซซ่าอยู่ตรงหน้าคุณเลย พร้อมทั้งมีหน้าจอบอกขั้นตอนในการทำด้วย หรือ ถ้าคุณไม่อยากดูวิธีการทำ เจ้าเครื่องนี้ก็มีหน้าจอขนาด 32 นิ้วให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับการดูรายการต่าง ๆ ไปพลาง ๆ ระหว่างรอพิซซ่าอีกด้วย

เมื่อเสร็จทุกขั้นตอน คุณก็จะได้พิซซ่าร้อน ๆ ที่สามารถนำกลับไปทานที่บ้านได้โดยเพียงแค่นำพิซซ่ามาใส่ในกล่องที่เตรียมไว้ พร้อมทั้งอุปกรณ์การกินแบบใช้แล้วทิ้งเลย สะดวกสบายไปซะทุกอย่าง แบบนี้คงเป็นสวรรค์สำหรับคนที่ชอบกินพิซซ่าที่สุด ซึ่งมีการการันตีด้วยว่า วัตถุดิบทุกอย่างสำหรับทำพิซซ่านั้นสดใหม่ ไม่ผ่านการปรุงแต่งใด ๆ อีกทั้งไม่ได้ใช้ไมโครเวฟ หรือนึ่งเลย

งานนี้ พิซซ่าที่ถึงแม้จะแข่งขันกันด้วยความเร็วเท่าไหร่ แต่ก็คงต้องแพ้เครื่องขายพิซซ่าทำเองนี่แหละ ที่เพียง 90 วินาทีคุณก็จะได้พิซซ่าทำเองร้อน ๆ มาทานอย่างสบายใจ ไม่ต้องรอนาน ส่วนจะอร่อยหรือไม่นั้นคงต้องลองไปชิมกันเองแล้วล่ะ

ข้อมูลจากกระปุกดอดคอม