อิมจียอน ,พัคซองฮุน ,คิมฮีออรา ,ชาจูยอง และ คิมกอนอู พูดถึงการเข้าถึงบทตัวร้ายในเรื่อง “The Glory”
2023-03-18 19:38:20
Advertisement
Pyramid Game

5 ตัวร้ายจากซีรีส์ยอดนิยม “The Glory” รวมตัวกันถ่ายแบบให้กับนิตยสาร W Korea!

The Glory ผลงานการเขียนบทเรื่องใหม่ของนักเขียนบทชื่อดัง คิมอึนซุก เล่าเรื่องของนักเรียนหญิงที่เป็นเหยื่อความรุนแรงในโรงเรียน เธอกลับมาแก้แค้นกลุ่มเพื่อนที่เคยทำร้ายเธอ ซงฮเยคโย (Song Hye Kyo) รับบท มุนดงอึน หญิงสาวที่กลับมาแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ ร่วมกับ อีโดฮยอน (Lee Do Hyun) รับบทเป็น จูยอจอง แพทย์หนุ่มที่เข้ามาช่วยให้เธอแก้แค้นครั้งนี้ได้สำเร็จ

สำหรับ อิมจียอน (Lim Ji Yeon), พัคซองฮุน (Park Sung Hoon), คิมฮีออรา (Kim Hieora), ชาจูยอง (Cha Joo Young) และ คิมกอนอู (Kim Gun Woo) รับบทเป็นกลุ่มเพื่อนนักเรียนที่เคยรังแกมุนดงอึน

อิมจียอน พูดถึงการมารับบท พัคยอนจิน ตัวร้ายที่ไม่ได้มีภูมิหลังในอดีตถึงเหตุผลที่เธอนิสัยไม่ดี แค่ร้ายโดยไม่มีเหตุผล

“ฉันควรจะเรียกเธอว่ามีแน้วโน้มเป็นโรคจิตได้ไหมคะ? เพราะว่าเธอโตมากลับแม่ที่แปลกๆหรือเปล่า? พอได้ถามคำถามพวกนี้กลับตัวเอง ฉันสรุปได้ว่า ‘เพราะยอนจินไม่รู้อะไรเลย’ เธอไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ผิด หรือการสำนึกผิด เธอไม่ต้องทำงานหนักเพราะอยากได้บางอย่าง เธอแค่ใช้ชีวิตสนุกไปวันๆกับสิ่งที่เธอได้รับอยู่แล้ว พอฉันเริ่มคิดได้แบบนี้ ก็เริ่มรู้สึกว่าเข้าใจแต่ละฉากมากขึ้นค่ะ”

อิมจียอน เคยมาถ่ายแบบที่สตูดิโอเดียวกันนี้ตอนที่แสดงในเรื่อง Tazza: One-Eyed Jack เมื่อปี 2019 ผู้สัมภาษณ์พูดถึงอิมจียอนในเวลานั้นว่าเธอมีความตั้งใจและดูเหมือนเธอมีจุดมุ่งหมายตลอดหลายปีที่ผ่านมา

อิมจียอนพูดถึงเรื่องนี้ว่า 

“สิ่งที่ฉันทำมาจากความต้องการที่จะทำให้ดีในสิ่งที่ฉันได้รับมอบหมาย สำหรับฉัน ฉันใช้ชีวิตเป็นยอนจินเป็นเวลาหลายเดือน และคิดในมุมของเธอค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าให้คิดว่าถ้าหากเวลาถ่ายทำในกองถ่ายทำได้ไม่ดีละ? แค่คิดก็รู้สึกกลัวแล้วค่ะ”

จากนั้นเธออธิบายว่าเธอมักจะกดดันตัวเองให้ทำให้ดีขึ้น

“น่าจะมาจากความคิดภายในที่ซับซ้อนของฉัน ฉันมักจะรู้สึกอิจฉาคนที่ทำได้ดีตลอด สิ่งเดียวที่ฉันทำได้คือการทำงานให้หนักขึ้น มันเกิดขึ้นเองเลยค่ะ ฉันโตมาอย่างดีนะคะ มีความสุขด้วย แล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นเรื่องการแสดง ฉันต้องอดทนรอไปอย่างไม่รู้จุดหมายค่ะ” 

 

พัคซองฮุนพูดถึงความพยายามในการสร้างภาพลักษณ์ภายนอกของจองแจจุนตัวละครของเขาในเรื่อง

“ผมลองชุดหลายชุดมากครับถ้าเทียบกับโปรเจคก่อนหน้า ผมดูแลเรื่องการกินและให้ความสำคัญกับทรงผมมากๆ พออ่านบทแล้วผมคิดว่าทรงผมยาวน่าจะเหมาะกว่า มันจะดูร้ายๆและมีดูมีอะไรมากกว่าด้วย”

ก่อนหน้านี้พัคซองฮุนเคยเล่าว่าญาติของเขาหลายคนเรียนโรงเรียนกฎหมายไม่ก็โรงเรียนแพทย์ ทำให้หลายคนเชื่อว่าเขามาจากครอบครัวที่ร่ำรวย แต่พัคซองฮุนเล่าวว่ากว่าจะกลายมาเป็นนักแสดงแบบนี้ เขาเคยทำงานพาร์ท-ไทม์หลายงาน และรับบทเป็นตัวประกอบในผลงานหลายเรื่อง ในปี 2008 พัคซองฮุนปรากฎตัวในเรื่อง A Frozen Flower ร่วมกับ จองซองอิล (Jung Sung Il) ที่ได้กลับมาร่วมงานกันใน The Glory อีกครั้งหนึ่ง พัคซองฮุนเล่าว่าพอถ่ายทำเสร็จเขาจะไปทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์จนดึกและกลับมาถ่ายละครต่อในช่วงเช้า 

พัคซองฮุนอธิบายว่า

“ตอนที่ผมยังเด็ก ผมค่อยข้างเป็นเด็กสบายครับ อยากได้อะไรก็ได้ สมาชิกในครอบครัวของผมก็เรียนดีๆกันหลายคน มันเลยทำให้ผมไม่ค่อยรู้สึกว่าตัวเองได้รับความสนใจมากเท่าไหร่ แต่พอได้มาแสดงและได้รับเสียงปรบมือ ผมคิดว่าผมรู้สึกถึงการถูกมองเห็นคุณค่าเป็นครั้งแรกครับ” 

 

ในการถ่ายแบบครั้งนี้ คิมฮีออราใส่วิกผมยาวเพื่อปิดผมสั้นสีบลอนด์ที่เธอตัดเพื่อแสดงในซีรีส์ที่กำลังถ่ายทำอยู่ เธอเล่าว่า

“ฉันแสดงในเรื่อง The Uncanny Counter 2 ค่ะ เป็นบทปีศาจ ถ้าให้พูดถึงความเข้มข้นของบท น่าจะมีพลังมากกว่าซารา ใน The Glory 8 เท่าได้ค่ะ เพราะว่าเป็นตัวละครที่ไม่ใช่มนุษย์ ฉันเลยรู้สึกสบายๆมากกว่า เหมือนกำลังแสดงเป็นการ์ตูนอยู่”

คิมฮีออราเล่าเรื่องสมัยเด็กของเธอ เธอบอกว่าชื่อของเธอหมายถึง ‘การมีชีวิตที่มีความสุขและใสสะอาด’ เธอบอกว่าตัวเองเป็นเด็กที่มีคำถามเยอะมาก ผู้ใหญ่หลายคนคิดว่าคำถามของเธอนั้นใสซื่อและน่ารัก แต่มีบางคนที่บอกให้เธอเงียบอยู่เหมือนกัน

อย่างไรก็ตามมุมมองของคิมฮีออราเปลี่ยนไปเมื่อเธอเข้าเรียนการแสดงครั้งแรกสมัยมัธยม

“ฉันมักจะถูกมองเป็นเด็กแปลกๆตลอดเลยค่ะ แต่พอฉันได้ไปแสดง มันเหมือนกับเป็นช่วงเวลาที่ฉันได้รับการยอมรับ และฉันได้รับอนุญาตให้ถามคำถามได้ค่ะ” 

คิมฮีออราอธิบายว่าคำถามเหล่านั้นแทรกซึมเข้ามาในการแสดงของเธอได้อย่างไรว่า

“เวลาที่ฉันแสดง ฉันคิดว่าการตั้งคำถามเป็นสิ่งสำคัญ ทำไมฉากนี้ต้องเป็นแบบนี้? ทำไมพวกเขาถึงพูดแบบนี้? สิ่งที่แสดงอยู่หน้ากล้องมาจากคำถามที่เปลี่ยนเป็นการแสดงที่ทำให้น่าทึ่ง ซาราไม่ใช่ตัวละครปกติค่ะ ครั้งหนึ่งโปรดิวเซอร์เคยพูดว่า ‘ซาราเป็นแค่คนไม่ดี ไม่ต้องพยายามเข้าใจหรือหาเหตุผลหรอก’” 

 

ชาจูยอง รับบทเป็น ชเวฮเยจอง ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่รังแกมุนดงอึนเช่นกัน แต่เธอก็โดนเพื่อนในกลุ่มดูถูกด้วยเช่นกัน ชาจูยองได้เล่าถึงการเข้าถึงตัวละครของเธอว่า

“ฉันเจอทางตันค่ะ เพราะฉันหาคนรอบตัวที่คล้ายกับฮเยจองไม่ได้ ปกติเวลาฉันโกรธฉันจะเขียนระบายค่ะ และไม่ชอบเวลากังวลแล้วหาคำตอบไม่ได้ เหมือนสมองฉันจะระเบิดเลยค่ะ แต่สุดท้ายฉันเลือกที่จะโฟกัสตัวบทมากกว่าพยายามหาบางสิ่ง นั่นทำให้ฉันสามารถอ่านบทไปได้แบบง่ายๆค่ะ”

ชาจูยองยังเล่าอีกว่าตลอดเวลา 8 เดือนที่ถ่ายทำ เธอรู้สึกเครียดมาก ไม่ใช่ว่าทุกคนกดดันเธอ แต่เป็นเพราะเธอกดดันตัวเอง

“พูดตามตรงเลยว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากเหมือนกันค่ะ ขนาดผู้กำกับสั่ง คัท! แล้ว แต่บนใบหน้าของเขายังมีสีหน้าของความรู้สึกเสียดายอะไรซักอย่างอยู่” 

ชาจูยองอธิบายต่อ 

“แต่หลังจากเราผ่านมาได้ครึ่งเรื่อง ฉันก็ได้ยินคำชมอย่างเช่น ‘นั่นดีมาก อยากทำอะไรก็ทำเลย’ หลังจากได้พูดคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กับนักแสดง ฉันได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างในภายหลัง ในตอนเริ่มต้น ฉันคิดว่าผู้กำกับสร้างบรรยากาศให้ฉันรู้สึก [กังวล] เหมือนตัวละครฮเยจอง และในจุดหนึ่งเขาก็ชมฉันค่ะ”

ชาจูงยองยังเล่าอีกว่า เธอถ่ายทำเรื่อง The Glory และ Again My Life ในเวลาเดียวกัน ถือเป็นการพิสูจน์ฝีมือของเธอที่สลับบทบาทตัวละครที่แตกต่างกันในทั้ง 2 เรื่องออกมาได้สมบูรณ์แบบ


คิมกอนอู รับบทเป็น ซนมยองโฮ อีกหนึ่งตัวละครที่อยู่ในระดับล่างของของกลุ่มตัวร้ายทั้ง 5 คน ตอนที่คิมกอนอูไปออดิชั่นเรื่องนี้ นักเขียนบทคิมอึนซุกบอกด้วยตัวเองว่า ‘ผู้กำกับค่ะ นี่แหละเขา’

ซนมยองโฮเหมือนเป็นสุนัขรับใช้ของจองแจจุนตั้งแต่สมัยเรียน จนผ่านมา 10 ปี ชีวิตเขาก็เป็นเหมือนเดิม คิมกอนอูได้พูดถึงการสร้างตัวละครที่แตกต่างจากตัวละครตัวร้ายคนอื่นในเรื่องนี้ว่า

“มยองโฮเป็นคนที่มีออร่าขี้โกงแบบที่คุณจะเจอได้ในชีวิตประจำวัน แต่ในส่วนดีคือเขามีจุดหนึ่งที่เรียกได้ว่าซื่อบื้อ ถ้าให้เทียบกับตัวละครที่ร่ำรวบแบบแจจุน เขาเหมือนเป็นพวกตกอับซะมากกว่า”
 

คิมกอนอูเล่าว่าฉากแรกที่ถ่ายทำเรื่อง The Glory เป็นฉากที่เขาแสดงกับซงฮเยคโย เขาเล่าว่าเธอบอกเขาว่าให้แสดงแบบที่เขาต้องการ ซึ่งทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายมาก อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า

“เวลาที่ผมต้องแสดง แล้วพอใกล้จะต้องถ่ายทำ ผมจะคิดว่า ‘ฉันเข้าใจฉากนี้แล้ว’ พอถึงตอนที่กำลังแสดง ผมก็ทำเต็มที่เพื่อไม่ให้มาเสียดายทีหลัง แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าทำได้ไม่ดีพอครับ”

คิมกอนอูมีเรื่องราวการเข้าวงการคล้ายกับคนดังคนอื่นในวงการบันเทิงเกาหลี คือตามเพื่อนไปออดิชั่นจนได้งานแสดง ส่วนของคิมกอนอูนั้นเขาไปหาเพื่อนที่โรงเรียนการแสดงและได้เข้าเรียนแบบไม่มีที่มาที่ไป

“ตอนนั้นผมอยู่มัธยมปลายครับ เพื่อนสนิทของผมบอกว่าเขาจะเข้าโรงเรียนการแสดง แต่ผมได้ยินว่าพวกเขาเรียนเรื่องการปลุกสัมผัสที่ 5 และทำอะไรแปลกๆ ผมเลยคิดว่า ‘นี่มันมิจฉาชีพหรือเปล่า?’ ผมเลยตามพวกเขาไปด้วยครับ” 

คิมกอนอูบอกว่าเขาเข้าเรียนชั้นเรียนปลุกประสาทสัมผัสเพื่อปกป้องเพื่อน แต่สุดท้ายกลับไปสมัครเรียนในวันรุ่งขึ้น 

“พวกเขาถามว่า ‘ไหนๆก็อยู่ที่นี่แล้ว อยากลองอ่านบทไหม? พอผมได้อ่าน ก็แบบ เออ สนุกดีครับ” 

 

ติดตาม “The Glory” ได้ทาง Netflix ซึ่งออกอากาศครบ 16 ตอนเป็นที่เรียบร้อย


 

ที่มา  (1)

 

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X