“Unlock My Boss” ซีรีส์เรื่องใหม่ของช่อง ENA ดัดแปลงมาจากเว็บตูนชื่อเดียวกันเป็นผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของ แชจงฮยอบ (Chae Jong Hyeop) ที่เขาจะมารับบทเป็น พัคอินซอง หนุ่มว่างงานที่ชีวิตเปลี่ยนไปเมื่อได้เจอกับโทรศัพท์ที่พูดกับเขาและสั่งเขาได้ โทรศัพท์เครื่องนี้มีวิญญาณของ คิมซอจู (รับบทโดย พัคซองอุง (Park Sung Woong)) ซีอีโอของบริษัท IT ยักษ์ใหญ่สิงอยู่ ซีรีส์เล่าเรื่องของพัคอินซองที่พยายามแทรกซึมเข้าไปในห้องทำงานของซีอีโอเพื่อค้นหาความจริง

“Unlock My Boss” ตอนที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 12 มกราคม ได้เรตติ่งเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 1.4% และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แชจงฮยอบได้ร่วมพูดคุยกับสำนักข่าว Star News หลังจากซีรีส์เรื่องล่าสุดของเขาออกอากาศตอนจบไปเป็นที่เรียบร้อย
 

แชจงฮยอบบอกว่า

“ผมรู้สึกทั้งเศร้าและสดชื่นหลังจากที่ซีรีส์จบไป Unlock My Boss เป็นโปรเจคพิเศษและมีความหมาย บรรยากาศในกองถ่ายดีมาก เป็นครั้งแรกที่ผู้กำกับถามความคิดเห็นของผม และผมได้แสดงทุกอย่างที่ผมมี ต้องขอบคุณจริงๆครับ ผมสามารถแสดงได้อย่างอิสระขณะถ่ายทำ”  

สำหรับเลิฟไลน์ระหว่างเขาและซออึนซู (Seo Eun Soo) แชจงฮยอบบอกว่า

“ในซีรีส์ เธอแสดงเป็นตัวละคร AI ซึ่งแตกต่างจากนิสัยจริงของเธอ เธอเป็นคนใจดี, สดใส และมีพลังบวก ผมต้องขอบคุณที่เธอเข้ามาหาและคุยกับผมก่อน”
 

ถึงแม้จะคุยกันผ่านหน้าจอตลอดกับตัวละครของพัคซองอุง แต่พวกเขาได้เจอตัวจริงกันตอนใกล้จะจบเรื่องแล้ว 

“ตอนที่ได้เจอกับพัคซองอุงตอนที่ใกล้จะจบแล้ว ผมรู้สึกแบบ ‘ในที่สุดซีรีส์ก็สมบูรณ์’ ผมสงสัยมาตลอดในทุกฉากที่เขาแสดง ผมอยากจะลองแสดงกับเขา ผมเลยรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำครับ” 

แชจงฮยอบ เพิ่งชนะรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากงาน 2022 KBS Drama Awards ได้เปิดเผยว่าเขาไม่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่

“สิ่งที่ผมอยากทำมากที่สุดคือการใช้ชีวิตโดยไม่เสียดายอะไรในขณะที่ยังคงมีความสุขและสนุก ส่วนใหญ่ผมจะใช้ชีวิตแบบที่บอกครับคือไม่ค่อยมันเท่าไหร่”

จากนั้นเขาเล่าว่าความฝันแรกของเขาคือการเป็นนายแบบ แต่เป้าหมายของเขาเปลี่ยนไปเมื่อได้มีโอกาสมาทำงานแสดง

แชจงฮยอบยังได้เล่าถึงการไปเรียนต่างประเทศตอนเกรด 9 ว่าช่วยเปลี่ยนนิสัยของเขา เขาเล่าว่าตอนแรกเขางงมากที่พ่อแม่ส่งเขาไปเรียนที่ประเทศไทยและอเมริกาใต้แบบกะทันหัน แต่ก็ช่วยให้เขารู้จักพึ่งพาตัวเองและตัดสินใจด้วยตัวเอง
 

ตอนนี้แชจงฮยอบมีเป้าหมายชัดเจน คือการมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง เขายิ้มพร้อมอธิบายว่า

“ผู้กำกับของเราให้หนังสือบทกวีกับผมและมีข้อความที่เขียนว่า ‘ฉันคือที่ที่ดีที่จะพักพิง’ พอได้เห็นข้อความนั้น มันเลยกลายเป็นเป้าหมายและความฝันของผม ทั้งในฐานะนักแสดงและตัวบุคคลครับ”
 

ตอนนี้แชจงฮยอบอายุใกล้ 30 แล้ว ทำให้เขาพูดถึงเรื่องการเข้ารับการเกณฑ์ทหาร เขาเปิดเผยว่าตัวเองได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลมชัก ทำให้ได้รับการมอบหมายให้เข้ารับมอบหมายให้อยู่ในหน่วยกำลังพลสำรองรอเรียกระหว่างสงคราม (Wartime Labor Service Agent) โดยแชจงฮยอบบอกว่าเขามีอาการครั้งแรกตอนที่เรียบอยู่ต่างประเทศ และได้รับการวินิจฉัยเมื่อวันที่ 2018

แชจงฮยอบเล่าวว่า

“มีไม่กี่ครั้งที่ผมล้มลงไปพร้อมน้ำลายฟูมปาก ตอนที่ไปตรวจร่างกายเพื่อ [เข้ากรม] ผมถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม 4 [อยู่ในกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าเป็นทหารปฏิบัติการได้] แต่ถ้าคุณไม่เข้ากรมภายใจ 4 ปี คุณต้องตรวจใหม่ การเข้ากรมเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอ่อนไหว ทำให้ผมอยากจะรักษาตัวเองให้หายก่อน แต่วันตรวจร่างกายอีกครั้งของผมออกมาแล้วและผมได้รับการตรวจ EEG [คลื่นไฟฟ้าสมอง] และพวกเขาบอกว่าผมเป็นลมชักครับ ตอนนี้ผมก็ยังกินยาอยู่”
 

ตอนนี้แชจงฮยอบเดบิวต์มาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว เขาพูดถึงเรื่องนี้ว่า

“ผมรู้ว่าผมยังขาดตกบกพร่อง เพราะผมมาถึงจุดนี้ค่อนข้างเร็ว นี่เป็นเหตุผลที่ผมทำงานหนักขึ้น” 

เขาพูดต่อ

“ผมตั้งใจทำงาน และไม่คิดว่าตัวเองรับบทนำ ผมแค่เป็นตัวละครตัวหนึ่ง แน่นอนว่าผมรู้ตัวว่าต้องมีความรับผิดชอบ แต่ผมอยากจะทำงานร่วมกับนักแสดงทุกคนและทีมงานได้อย่างดีที่สุด”

ตอนนี้แชจงฮยอบกำลังอยู่ในระหว่างการพูดคุยเพื่อร่วมงานกับ พัคอึนบิน (Park Eun Bin) หลังจากเคยร่วมงานกันมาแล้วในซีรีส์เรื่อง Stove League  ในซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้เรื่องใหม่

ที่มา  (1) (2)