เมื่อไม่นานมานี้ ชเวอูชิก (Choi Woo Shik) ได้ร่วมให้สัมภาษณ์กับ Asia Business Daily

ชเวอูชิกได้เล่าว่าภาพยนตร์เรื่อง Parasite เปลี่ยนความคิดของเขาได้อย่างไร เขาบอกว่าหลังจากได้เข้าร่วมงาน Cannes Film Festival และ Academy Awards กับผู้กำกับ บงจุนโฮ (Bong Joon Ho) เขากังวลถึงอนาคตของตัวเองมาก แต่สุดท้ายก็คิดได้ และบอกกับตัวเองว่าแค่สนุกกับปัจจุบันก็พอแล้ว

ชเวอูชิกยังได้พูดถึงภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเขา The Policeman’s Lineage ที่จะเข้าฉายในวันที่ 5 มกราคม

ภาพยนตร์เรื่อง The Policeman’s Lineage เล่าเรื่องของการสืบสวนที่อันตรายที่เปิดเผยเรื่องราวของนักสืบมากฝีมือของหน่วยสืบสวนที่จับกุมคนร้ายได้มากมายอย่างหาตัวจับได้ยาก อย่างไรก็ตามเขาได้รับเงินจากแหล่งเงินทุนลึกลับจำนวนมหาศาลเช่นกัน เขาได้เจอกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วไปที่ได้รับภารกิจให้คอยสังเกตการณ์เขา

โจจินอุง (Jo Jin Woong) รับบทเป็น พัคคังยุน หัวหน้าหน่วยสืบสวนที่ทำผลงานได้ดี เขาจับกุมอาชญากรโดยใช้สัญชาตญาณเหนือสิ่งอื่นใด และเขาไม่แคร์ถึงแม้จะต้องใช้ข้อมูลผิดกฎหมายเพื่อจับกุมก็ตาม ส่วน ชเวอูชิก รับบทเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วไปชื่อว่า ชเวมินแจ เพื่อแลกเปลี่ยนกับเอกสารลับเกี่ยวกับพ่อของเขาที่เป็นตำรวจเช่นกัน ทำให้ชเวมินจองรับข้อเสนอในการขุดคุ้ยการคอรัปชั่นของ พัคคังยุน
 

ชเวอูชิกพูดถึงภาพยนตร์ว่า “ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องสดใหม่ที่ผู้ชมจะได้เห็นหนังแอคชั่นของเกาหลีที่ใส่สูทปะทะกัน ผมอยากจะโชว์อีกด้านของตัวเองขณะที่ได้ใส่ชุดที่ดูหรูหราด้วยครับ”

เขาบอกว่าเขาอยากจะร่วมงานกับหนังแอคชั่นแบบ “Kingsman” แต่เขาก็สังเกตได้ว่าเรื่อง The Policeman’s Lineage มีความแตกต่างออกไป “ผมต้องถ่ายทอดอารมณ์ระหว่างที่ถ่ายทำฉากแอคชั่นด้วยครับ เพราะตัวละครของผมเป็นแบบนั้น การแสดงฉากแอคชั่นอย่างเดียวกับฉากแอคชั่นที่ต้องทำอารมณ์ร่วมด้วยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สำหรับฉากแอคชั่น ผมคิดแค่ว่าจะจัดท่าทางแบบไหน ต้องเตะแรงเตะเบาแค่ไหน ผมคิดว่าหนังแอคชั่นน่าแสดงดีครับ และผมอยากจะลองแนวนี้ในอนาคต”

สำหรับเหตุผลที่ทำให้เขาร่วมงานกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ชเวอูชิกบอกว่า โจจินอุง คือเหตุผลหลักของเขา “ผมอยากจะทำงานกับเขาครับ ต้องขอบคุณเขา เรามีเคมีที่ดีมาก และผมสามารถแสดงอารมณ์ที่หลากหลายได้ ผมคิดว่าคงจะสนุกน่าดูหากได้ร่วมงานกับเขาอีกในอนาคต ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าเขาเป็นคนตลกที่ชอบปล่อยมุกไปทั่ว ผมอยากจะเจอเขาอีกครั้งในบทบาทที่ตัวละครของเราไม่ต้องสู้กัน”

ชเวอูชิกยังได้พูดถึงเป้าหมายในปีใหม่นี้ของเขาว่า “คือผมไม่ได้อยากจะเพิ่มกล้ามนะครับ ผมแค่อยากจะโชว์ด้านใหม่ๆของผมที่เหมาะกับผมเหมือนกัน ตอนที่ผมอายุน้องกว่านี้ ผมอยากจะมีกล้ามมากขึ้น แต่ตอนนี้ผมมาถึงจุดที่เปลี่ยนมุมมองเรื่องการมีกล้ามแล้ว ผมก็ไม่แน่ใจแล้วว่าถ้ามีกล้ามแล้วจะทำให้ดูแมนขึ้นเหรอ”

เขาพูดถึงเป้าหมายในการแสดงของตัวเองว่า “ด้วยภาพลักษณ์ของผม บทบาทที่ผมได้รับมีจำกัด นี่คือเหตุผลที่ผมเพิ่มโอกาสด้วยการสร้างรูปร่างใหม่ อย่างเช่นการเปลี่ยนแปลงน้ำหนัก ผมจะได้รับบทที่หลากหลายขึ้น”

ชเวอูชิกยังได้พูดถึงความสำเร็จของเรื่อง Squid Game ว่า “ผมรอคอยอนาคตเลยครับ ผมคิดว่าการได้ขึ้นท็อปในแพลตฟอร์มออนไลน์ทำให้เราเห็นแล้วว่าผู้คนทั่วโลกสนใจคอนเทนต์เกาหลี และยังตามไปดูเรื่องเก่าๆด้วย ในฐานะนักแสดง ผมมีมุมมองใหม่เวลาอ่านบทครับ ผมคิด [เวลาอ่านบทว่า] คนทั่วโลกจะชอบ จะสนุกไปกับมันไหมเวลาที่อ่านบท ผมคิดว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี ตอนนี้คนเข้าถึงคอนเทนต์เกาหลีได้ง่ายขึ้น และมันเป็นเรื่องที่ทำให้ตื่นเต้นครับ”

ชเวอูชิกมีสัญชาติแคนาดา เมื่อก่อนเขาเคยบอกว่าเขาอยากทำงานระดับโลก อย่างไรก็ตามตอนนี้ความคิดของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ผมพูดภาษาอังกฤษคล่องครับ ผมเลยอยากทำงานในหนังเรื่องอื่นๆ แต่ตอนนนี้ผมคิดว่าดีแล้วที่ภาพยนตร์หรือซีรีส์เกาหลีสามารถปล่อยสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกได้ง่ายขึ้น”

ชเวอูชิกได้พูดถึงประสบการณ์ของเขาในเรื่อง Parasite “พูดตามตรงนะครับ ผมคิดว่าผมคงได้รับการเสนอบทจากหลายประเทศหลังจากเรื่อง Parasite แต่มันก็ไม่จำเป็นแล้วครับ ผมได้รับการเสนอบทมาก็จริง แต่ไม่เยอะเท่าที่ผมคิด ผมคิดว่าอะไรคือความหมายของความฝันในฮอลลิวูด ซึ่งเรื่อง Squid Game ตอบคำถามผมแล้วครับ” 

ชเวอูชิกปิดท้ายบทสัมภาษณ์ด้วยการบอกว่า “อุตสาหกรรมภาพยนตร์เปลี่ยนไปจาก COVID-19 แต่ผมมีความสุขที่ได้เห็นมันกำลังกลับมาอีกครั้ง”

ที่มา ( 1 )