คำเตือน: เนื้อหามีสปอยล์

ซีรีส์ The King: Eternal Monarch ออกอากาศตอนที่ 2 ไปแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา และได้รับเรตติ้งถึง 2 หลักในสัปดาห์แรกที่ออกอากาศ ถือเป็นซีรีส์ประจำวันศุกร์ - เสาร์ ที่ได้รับเรตติ้งสูงสุดในตอนแรกที่ออกอากาศของช่อง SBS 

ใครดูแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง? ร่วมพูดคุยกันในคอมเม้นท์ได้เลยนะ

สำหรับตอนแรกที่ออกอากาศยังถืออยู่ในระดับดี และไม่ได้แหวกแนวไปจากผลงานเรื่องอื่นของนักเขียนบทคิมอึนซุก 

ฉากต่างๆในการแนะนำตัวละครดูจะรวบรัดไปหน่อย อย่างจักรพรรดิที่ดึงดัน ยืนยันตัวเองว่าไปใคร ในสถานการณ์ที่ไม่ได้เอื้ออำนวยเท่าใดนัก 

และในตอนที่ 2 ก็ยังไม่ค่อยดึงดูเท่าไหร่ เหมือน 2 ตอนแรกจะเป็นการปูพื้นฐานของซีรีส์มากกว่า 

The King: Eternal Monarch เป็นซีรีส์ที่เป็นคู่แข่งกับเรื่อง A World of Married Couple เพราะออกอากาศในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งในเรื่องที่ 2 นั้นดูจะเข้มข้นกว่ามาก จึงขอยกมาเปรียบเทียบกันหน่อย

ถึงแม้จะอยากให้ทั้ง 2 เรื่องออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกันไปเลย และไม่ต้องคำนึงถึงฐานแฟนคลับนักเขียนบทและนักแสดง แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะลองเปรียบเทียบโดยคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้น้อยที่สุดแล้วกัน 

ไม่ได้สรุปว่า The King: Eternal Monarch นั้นแย่นะ แต่คาดหวังให้ซีรีส์เรื่องนี้ตื่นเต้นมากกว่านี้ ชวนลุ้นให้เหมือนกับเรื่อง A World of Married Couple ซึ่งยังคงเป็นที่พูดถึงมากที่สุด บทความท็อปในเว็ปไซด์ Naver ยังคงเป็นบทความที่พูดถึงซีรีส์เรื่องนี้ ส่วนเรื่อง The King: Eternal Monarch ตอนที่ 2 ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ แต่รู้สึกน่าติดตามน้อยลงกว่าตอนที่ 1 ขึ้นไปอีก การเล่าเรื่องไม่รวดเร็วอย่างที่คิด และพระเอกดูเหมือนจะปรับตัวกับโลกใบใหม่ของเขาได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่นัก เพราะเขาดูเหมือนมีทุกอย่างที่เขาต้องการแล้ว 

ตอนที่อีกน พยายามทำให้แทอึลเชื่อเรื่องโลกคู่ขนาน เป็นฉากที่ดูยัดเยียด และไม่เข้ากับสถานการณ์เท่าไหร่ ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนเขาเองก็ยังไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดออกมา 

ด้วยการแนะนำตัวละครที่บอกว่าเขาเป็นคนฉลาด แต่วิธีที่เขาใช้ในการโน้มน้าวแทอึลว่ามาจากโลกอื่น และเคยเจอเธอตอนที่ยังเป็นเด็กนั้นดูตรงเกินไป แค่คำพูดที่เขาพยายามบอกเธอเท่านั้น

เขาไม่ควรพูดปากเปล่าเพื่อให้เธอเชื่อ นักเขียนบทน่าจะรอบคอบและไม่ทำให้ผู้ชม หรือตัวละครรู้สึกอึดอัดกับบทพูดของตัวเอง 

แต่ว่านี่คือวิธีการเขียนบทของคิมอึนซุก...

อีกนรู้ตัวเองทันทีว่าเขาอยู่ในอีกโลกหนึ่ง เขาเหมือนกับเด็กวัยรุ่นที่ได้ออกไปท่องโลกกว้างหลังจากอยู่ในพื้นที่ซึ่งก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นัก เหมือนคุณชายที่ได้สนุกกับโลกใบใหม่ แน่นอนว่าผู้ชมหลายคนอยากเห็นบทที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ของเขา

ตัวละครชายของคิมอึนซุกให้ความรู้สึกเดียวกันในแทบจะทุกเรื่อง และอีกนในเรื่องนี้ให้ความรู้สึกเหมือน คิมทัน จากเรื่อง The Hairs มาก เพียงแค่เนื้อเรื่องที่ต่างออกไป 

ตัวละครของ อูโดฮวาน (Woo Do Hwan) และ คิมโกอึน (Kim Go Eun) ทำให้ซีรีส์สนุกขึ้นมากกว่า ชอบสำเนียงการพูดของอูโดฮวาน และนิสัยของเขาในโลกปัจจุบันมาก ต้องบอกว่าในตอนที่ 2 เขาเป็นตัวละครที่ขโมยซีนได้สำเร็จเลยล่ะ

ความไม่สมเหตุสมผลอีกหนึ่งอย่างคือ ทำไมนางเอกซึ่งเป็นตำรวจหน่วยอาชญากรรมรุนแรง ถึงได้มารับหน้าที่ดูแลอีกน ซึ่งปัญหาของเขาคือไม่สามารถระบุที่มาได้ ไม่มีหนังสือยืนยันตัวตน เขาน่าจะถูกส่งไปแผนกอื่น เช่นพวกลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ถึงแม้จะเป็นซีรีส์แฟนตาซี แต่ก็ยังอ้างอิงโลกแห่งความจริง เพราะฉะนั้นทำให้เรื่องนี้มีหลายฉากที่ดูไม่ค่อยสมจริงเท่าไหร่ 

คาดหวังจะได้เห็นบทละครของคิมอึนซุก แบบในเรื่อง Goblin ที่ทำออกมาได้ดีมาก

อีกเรื่องหนึ่งที่ขัดใจคือ ฉากสุดท้ายตอนที่อีกนแต่งตั้งให้แทอึลเป็นพระมเหสีของเขา ทั้งที่เพิ่งเจอเธอได้แค่วันสองวันเท่านั้น...คาแรคเตอร์ที่คาดหวังว่าจะได้เห็นจากเขาควรดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ 

ต้องยอมรับว่าตัวละครพระเอกมีนิสัยแปลกมากถ้ามองในช่วงเริ่มต้น แต่ถ้านางเอกเชื่อว่าเขามาจากโลกคู่ขนานเมื่อไหร่ มันอาจจะช่วยให้ดำเนินเรื่องง่ายขึ้น แต่ว่า...เขาไม่จำเป็นต้องมาบอกชอบเธอตั้งแต่เริ่มแรกก็ได้นะ บอกในตอนที่ทั้งคู่รู้สึกผูกพันกันมากกว่านี้น่าจะทำให้อินกว่า

คงต้องติดตามกันต่อไปว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ เพราะตัวร้ายอย่างอีริม ดูลึกลับน่าสนใจ อยากรู้ว่าเขาจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับพระเอกและนางเอกอย่างไรในอนาคต

ต้องยอมรับความหล่อของอีมินโฮ ความน่ารักของคิมโกอึน และความเท่ของอูโดฮวานในเรื่องนี้ นักแสดงทุกคนดูดีมาก ฉากก็สวย แต่พูดตามความจริงคือ บทในตอนที่ 1 และ 2 ยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ และยังไม่ตอบโจทย์ความคาดหวังที่มีต่อชื่อเสียงของ คิมอึนซุก หวังว่าเราจะได้เห็นอะไรที่ตื่นเต้นขึ้นในตอนต่อไป