ความทะเยอทะยานทำให้อายุสั้น
2012-05-07 09:58:50
Advertisement
คลิก!!!

คลุกวงใน

พิศณุ นิลกลัด


มีรายงานจากการสำรวจของคณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยนอร์ตเทรอะ แดม (University of Notre Dame) สหรัฐอเมริกาพบว่าคนอเมริกันที่มีความทะเยอทะยานสูง มีอายุสั้น และไม่มีความสุขกับชีวิตเท่าใดนัก

คณะผู้ศึกษาเก็บข้อมูลชีวิตของคนอเมริกันที่มีศักยภาพสูง มีหน้าที่การงานดีจำนวน 717 คน โดยเริ่มเก็บข้อมูลตั้งแต่ปี 1922 ในขณะที่กลุ่มผู้ถูกสำรวจยังเป็นเด็ก หลังจากนั้น ติดตามศึกษา วิเคราะห์คนเหล่านี้ไปตลอดจนกระทั่งอายุ 70 ปี (หากยังมีชีวิตอยู่)

คณะผู้ศึกษาสัมภาษณ์กลุ่มผู้ถูกสำรวจตั้งแต่ตอนเด็กและถามผู้ปกครองด้วยถึงระดับความทะเยอทะยาน (ambitious) ในชีวิต

จากนั้นในช่วงวัย 55 ปี ถือเป็นวัยที่อาชีพการงานเดินทางมาถึงจุดสูงสุดในชีวิต คณะผู้ศึกษาได้สอบถามกลุ่มผู้ถูกสำรวจว่ามีความพอใจกับชีวิตเพียงใด โดยแบ่งความพอใจออกเป็น 5 ด้าน คือ อาชีพการงาน, ชีวิตครอบครัว, กิจกรรมผ่อนคลายในชีวิต, สุขภาพ และความสุขในชีวิต

กลุ่มผู้ถูกสำรวจทั้ง 717 คน ส่วนหนึ่งเป็นคนมีสติปัญญาสูงกว่าคนทั่วไป ได้เกรดดีในการเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก เช่น ฮาร์วาร์ด, เยล, พรินซ์ตัน และออกซ์ฟอร์ด เมื่อจบออกมามีหน้าที่การงานดี เช่น เป็นแพทย์ เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย

และอีกส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้สำรวจเป็นผู้ที่ไม่ได้จบมหาวิทยาลัย เรียนจบเพียงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ประสบความสำเร็จในชีวิตในระดับปานกลาง

จากการศึกษาพบว่าผู้ที่มีความทะเยอทะยานตั้งแต่เด็ก เมื่อโตขึ้นจะประสบความสำเร็จในด้านการเงิน ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำ ทำงานในอาชีพที่ได้รับเงินเดือนสูง

อย่างไรก็ตาม เมื่อดูถึงความสุขและการมีอายุยืนซึ่งถือเป็นความสำเร็จสูงสุดของชีวิต พบว่าคนที่มีความทะเยอทะยานสูง และมีเงินมากกลับไม่มีความสุขและมีอายุไม่ค่อยยืน

คนที่มีความทะเยอทะยานสูง ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การเงินน่าจะมีความสุขกับความสำเร็จที่ตัวเองมี

แต่จากการศึกษากลับพบว่าคนเหล่านี้มีความสุขกว่าคนที่ขี้เกียจ ไม่มีความทะเยอทะยานในชีวิตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และมีอายุขัยใกล้เคียงกัน

การที่คนที่มีความทะเยอทะยานสูง ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีเงิน แต่ไม่มีความสุขนั้น คณะผู้ศึกษาวิเคราะห์ว่าคนเหล่านี้เมื่อทำสิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้สำเร็จ ก็ตั้งเป้าหมายสูงขึ้นไปอีก ทำให้ไม่เคยรู้สึกพอใจในความสำเร็จของตัวเองสักที

นอกจากนี้ ยังพบว่าในกลุ่มผู้ที่ถูกสำรวจที่จัดอยู่ในประเภทมีความทะเยอทะยานสูงสุดนั้น มีอัตราการตายสูงกว่าคนที่มีความทะเยอทะยานต่ำกว่าถึง 15.5 เปอร์เซ็นต์ โดยเกิดขึ้นกับกลุ่มคนที่มีความทะเยอทะยานสูงมากแต่ไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน คาดว่าเป็นเพราะความผิดหวังจึงทำให้อายุสั้น

คณะผู้ศึกษาแนะนำว่าความทะเยอทะยานเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต แต่ขณะเดียวกัน เราก็ต้องรู้จักพอใจกับสิ่งที่ตัวเองมี ความสำเร็จไม่ได้อยู่ในรูปของการมีเงินทองมากมายแต่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องมาจากการมีครอบครัวที่อบอุ่น มีเพื่อนฝูงที่รักใคร่และมีความสัมพันธ์ที่ดี


เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีรายงานผลการศึกษาในประเทศญี่ปุ่น โดยคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยคิตะซาโตะ (Kitasato University) พบว่าผู้ชายญี่ปุ่นที่ดำรงตำแหน่งผู้จัดการ และผู้ชายที่มีหน้าที่การงานดี มีอัตราเสี่ยงในการเสียชีวิตก่อนถึงวัย 60 ปี สูงกว่าผู้ชายญี่ปุ่นที่ทำงานเป็นเสมียน, เซลส์ขายของ, พนักงานรักษาความปลอดภัย, คนทำงานด้านการบริการ, ชาวไร่, ชาวนา, คนโรงงาน หรือคนขับรถ โดยมีอัตราเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูงกว่าผู้ชายที่ทำงานธรรมดาๆ ถึง 1.7 เท่า

จากการศึกษาใบมรณบัตรของชายญี่ปุ่นระหว่างปี 1980 ถึง 2005 พบว่าคนที่ทำงานมีตำแหน่งผู้จัดการหรือมีหน้าที่การงานดีจำนวนไม่น้อยตายจากการเป็นมะเร็ง เส้นโลหิตในสมองแตก โรคหัวใจ

คาดว่าเป็นเพราะคนเหล่านี้ให้ความสำคัญกับงานมากกว่าสุขภาพตัวเอง เวลาเจ็บป่วยไม่เข้าโรงพยาบาล กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นโรคร้ายก็สายเกินไป นอกจากนี้ อัตราการฆ่าตัวตายของคนที่มีหน้าที่การงานดีก็สูงกว่า

การดำเนินชีวิตด้วยความพอดีและพอเพียงจึงเป็นสิ่งที่มนุษย์ทั้งโลกพึงยึดเป็นแนวทางปฏิบัติ

ข้อมูลจาก
http://www.matichon.co.th
onlyfans leaked xxx onlyfans leaked videos xnxx 2022 filme porno filme porno
.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X