ในวันแต่งงาน หลายคู่อาจมีวาจาอมตะเป็นคำมั่นให้แก่กันและกัน ไม่ว่าจะเป็นคำสัญญาที่ว่า จะดูแลกันตลอดไป ไม่ทอดทิ้ง จะไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจ จะรักและซื่อสัตย์ตลอดไป ฯลฯ สารพัดคำสัญญาที่หวานจนไม่ต้องเติมน้ำตาลในอาหาร

สัญญาณของการนอกใจเกิดขึ้นได้ เพราะใช่ว่าเมื่อแต่งงานแล้ว ทุกคู่จะครองเรือนกันได้ตลอดรอดฝั่ง แถมทุกวันนี้โอกาสที่ชีวิตรักจะถูกมือที่สามเข้าแทรกแซง ก็มีเปอร์เซ็นต์สูง แต่เราจะสังเกตได้

ในชีวิตแต่งงาน น้อยคนที่จะคิดถึงการหย่าร้าง เพราะทุกคู่รักย่อมปรารถนาที่จะอยู่ร่วมกันไปจนวันสุดท้ายของลมหายใจ อย่างไรก็ดี ความคิดของคนเราบางคนก็อาจฟุ้งซ่าน

เป็นที่ทราบกันดีว่า คู่แต่งงานที่มีชีวิตสมรสราบรื่นนั้น มักจะเป็นผู้ที่มีความสุขในชีวิต และมีสุขภาพดี รวมถึงมีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่ไม่ได้แต่งงาน หรือแต่งงาน แต่ชีวิตสมรสไม่ราบรื่น

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม ของทุกปี สถานที่จัดงานเลี้ยงมักจะเต็มไปด้วยพิธีเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของคู่รักมากมาย ซึ่งคนที่แผนจะแต่งงานปลายปีนี้ อาจกำลังเตรียมการ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกคู่ทุกคนที่เริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยความรัก ต่างก็หวังจะใช้ชีวิตร่วมกันไปได้จนแก่เฒ่า แต่น่าเสียดายที่บางครั้งก็เป็นไปไม่ได้ เมื่อความรักหมดโปรโมชัน คนที่เคยหวังจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ก็กลายเป็นคนที่ไม่มีความหมายไปได้ง่ายๆ

อาจไม่ใช่เรื่องผิด หากการมีความรักและการครองคู่จะทำให้สาวๆ หนุ่มๆ หลายคนอยากเป็นแม่พระพ่อพระผู้พร้อมจะให้อภัยคนของตนเองที่ทำผิดซ้ำซาก แต่นักจิตวิทยาจากสหรัฐอเมริกา

คู่แต่งงานยุคโลกาภิวัตน์กล่าวโทษไลฟ์สไตล์คนเมืองทำชีวิตเซ็กซ์ห่อเหี่ยว บางคู่มีเซ็กซ์กันเพียง 5 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น

วันนี้เราจึงมีอีกหนึ่งความจริงที่น่าสนใจ ว่าเบื้องหลังการนอกใจนั้น มันมีอะไรแฝงอยู่บ้างมาฝากกันค่ะ

ไม่น่าแปลกใจหากจะมีหนึ่งในสามของผู้หญิง พบว่า ตนเองอ้วนขึ้นหลังจากแต่งงาน ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายหนึ่งในสามกลับรู้สึกว่าตนเองผอมลงเสียนี่