“แองจี้” กรี๊ดแตกแฟนคุกเข่าขอแต่งงาน จ่อลาวงการปักหลักคูเวตถาวร
2014-10-17 21:17:07
Advertisement
คลิก!!!

“แองจี้” เล่าวินาทีกรี๊ดแตกแฟนหนุ่มคูเวตคุกเข่าขอแต่งงานหลังดูใจนาน 9 ปี โอดอยากย้อนเวลาได้ เพราะตื่นเต้นจนไม่ทันถ่ายภาพเก็บไว้ ไม่รู้แหวนเพชรกี่กะรัต รับแพ้ใจเพราะความดี หลังแต่งยินดีเปลี่ยนศาสนาและลาวงการไปเป็นแม่บ้านอยู่คูเวตถาวร

       
       

      
       กำลังจะได้เป็นว่าที่เจ้าสาวอีกคนแล้ว สำหรับสาว “แองจี้ เฮสติ้ง” หลังจากคบหาดูใจกับหนุ่มเศรษฐีน้ำมันชาวคูเวตมานานถึง 9 ปี ล่าสุดได้เจอเจ้าตัวในงานเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ ปริมมาลัย รีกัล ราชาวดี ชั้น 3 Gaysorn Diamond Lounge ศูนย์การค้าเกสร พลาซ่า สาวแองจี้เลยเผยว่าแฟนหนุ่มเพิ่งเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอแต่งงานที่คูเวตเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และตอนนี้กำลังเริ่มวางแพลนเรื่องงานแต่ง คาดกลางปีหน้าได้เห็นงานวิวาห์อย่างแน่นอน เผยวินาทีฝ่ายชายคุกเข่าขอแต่งงาน รับดีใจหลุดกรี๊ดแตกสนั่น
       
       “เป็นการขอแต่งแบบเงียบๆ ค่ะ ไม่ได้มีพิธีอะไรมาก ทำเหมือนแบบฝรั่งที่คุกเข่าขอ (หัวเราะ) เขาก็เซอร์ไพรส์น่ะค่ะ ประมาณว่าจะผูกเชือกรองเท้า แล้วเราก็กำลังจะเดินไป เขาก็บอกว่าตกลงจะไม่เอาใช่ไหม เราก็หันมาว่าไม่เอาอะไร เขาก็เปิดกล่องแหวนออกมา (ยิ้ม) เขาก็บอกว่า Will you marry me (ยิ้ม) ตอนนั้นกรี๊ดเลย กรี๊ดแบบอุบาทว์ตัวเองเหมือนกัน (หัวเราะ) รู้สึกว่าไม่โรแมนติกเลย เพราะว่าตื่นเต้นมาก แล้วก็เลยตอบตกลงค่ะ (ยิ้ม)”
       
       “แหวนไม่รู้กี่กะรัต ดูไม่เป็น (หัวเราะ) เล็กดีเนอะ (ยิ้ม) คนอื่นเขาใหญ่กว่านี้ แต่ก็ไม่ได้ขอที่ใหญ่กว่านี้หรอกค่ะ แต่เราก็เห็นนักแสดงรอบข้างนี่แหละใส่เพชรกันเม็ดใหญ่มาก สู้เขาไม่ได้ (หัวเราะ) แต่จริงๆ เราก็แพลนกันไว้แล้วล่ะค่ะว่าคงมีงานแต่ง เพราะเราก็บอกพ่อแม่ทั้งสองฝ่ายแล้ว บอกเพื่อนๆ ที่สนิท แต่ไม่ได้คิดว่าเขาจะเซอร์ไพรส์สวมแหวนให้ (ยิ้ม) ก็เป็นวันเซอร์ไพรส์ของเรานะ จริงๆ อยากจะย้อนกลับไปตั้งตัวใหม่ อยากจะเตรียมกล้องถ่ายรูปไว้ เพราะไม่มีรูปถ่ายไว้เลย (หัวเราะ) ก็คงต้องหาเวลาถ่ายพรีเวดดิ้งค่ะ”
       
       บอกตอนนี้ยังไม่ได้คุยเรื่องรายละเอียดของงาน แต่ไม่เลื่อนจากปีหน้าแน่นอน
       “ตอนนี้ก็คงคุยเรื่องงานว่าจะจัดอะไรยังไง ยังไม่ได้จัดเป็นเรื่องเป็นราว กำลังคิดอยู่ว่าจะจัดแบบไหนดี อาจจะหมั้นเช้าแต่งเย็น คิดว่านะคะ หรืออาจจะหมั้นก่อนแล้วค่อยแต่ง ก็คงต้องรอคุยกันก่อนค่ะ คงต้องดูฤกษ์ก่อนว่าจะจัดยังไงดี เพราะแขกเราก็เยอะ แขกเขาก็เยอะ ก็ต้องดูว่าอะไรที่สมควร แต่ไม่อยากจัดใหญ่โตมาก เพราะคงสู้คนอื่นเขาไม่ได้ คงแค่คนใกล้ชิดน่ะค่ะ แต่ที่คิดไว้คืออยากให้เป็นแบบไทยด้วย ฝรั่งด้วย แต่อยากให้เป็นงานที่สนุก ไม่อยากให้เป็นพิธีที่เป็นทางการที่เชิญคนนั้นคนนี้ที่เราไม่รู้จักมาร่วมงาน อยากจะทำให้เป็นงานที่สนุกค่ะ”
       
       “ที่คิดไว้อยากให้เป็นแบบ Sit down dinner แบบที่ต่างประเทศเขาทำกันน่ะค่ะ จะได้รู้สึกว่าใกล้ชิดกับแขกที่เราเชิญ อยากให้รู้สึกอย่างนั้น อยากให้รู้สึกว่างานมีแต่ความรัก เป็นกันเอง และเรารู้จักทุกคน แต่เราก็ไม่อยากจะทุ่มเยอะเกินไป เพราะมันเป็นแค่งานวันเดียว แต่แค่อยากให้ทุกคนได้สนุกกับมันและได้ประสบการณ์ที่ดี เรื่องชุดตอนนี้ก็มีดีไซเนอร์คุยๆ ไว้แล้วว่าถ้าเราแต่งงานเขาจะขอทำชุดให้ แต่ยังไม่ได้ปักใจเลยค่ะว่าจะเป็นใคร”
       
       “คาดว่าน่าจะประมาณกลางๆ ปีหน้า ยังไม่รู้เลยค่ะ ต้องดูก่อน เพราะว่าต้องเตรียมงานด้วย ละครก็ยังไม่ปิดกล้องสักที แต่พยายามจะไม่เลื่อนนะคะ พยายามจะเซ็ตไว้ แต่ก็ต้องดูฤกษ์ด้วย ต้องดูอะไรหลายๆ อย่าง แต่ก็คงช่วยกันดูทั้งสองฝ่าย เพราะงานเขาก็เยอะ งานเราก็เยอะ ก็ต้องช่วยๆ กันน่ะค่ะ เราเองก็ถือด้วยเรื่องแบบนี้ เรื่องสินสอดไม่ได้คุยเลยค่ะ มันไม่ใช่ประเพณีบ้านแองจี้ด้วย และไม่ใช่ประเพณีบ้านเขาด้วย ถ้าขอสินสอดก็ไม่รู้จะยังไง ก็ขอให้เขาดูแลเรา ดูแลครอบครัว ให้เกียรติเราก็พอแล้วค่ะ (ยิ้ม)”
       
       เผยหากแต่งงานคงต้องย้ายไปอยู่คูเวต ยันรักงานในวงการ แต่ต้องเสียสละอีกเยอะ
       “ถ้าแต่งแล้วแองจี้ก็คงต้องไปอยู่ที่คูเวตค่ะ แล้วก็ต้องเปลี่ยนศาสนาด้วย เราก็คงต้องเสียสละ แต่ตอนนี้ยังรับงานอยู่นะคะ เพราะตอนนี้ยังไม่ได้แต่ง แต่ถ้าแต่งไปแล้วก็ยังไม่รู้จะยังไงต่อ มันเป็นอีกสเต็ปหนึ่งที่ต้องมานั่งคุยกัน เพราะนี่แองจี้ก็เพิ่งบินกลับมา ยังไม่ได้คุยอะไรกันมาก”
       
       “แต่จริงๆ แองจี้ยังอยากอยู่ในวงการนะ ยังสนุกกับงานอยู่ และแฮปปี้มาก ตอนนี้มีละคร 2 เรื่อง รายการอีก 2 รายการ งานเยอะมาก แต่ก็ต้องเสียสละเยอะนะ ก็ต้องดูกันไปค่ะ แต่ดูแล้วที่บ้านเขาอยากให้อยู่บ้านเป็นแม่บ้านมากกว่า แต่แองจี้เป็นคนไฮเปอร์อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้หรอก ก็คงต้องหาอะไรทำแหละค่ะ อาจจะเปิดธุรกิจอะไรสักอย่างที่โน่น อาจจะเปิดสปาหรือร้านอาหารไทยก็ได้ ต้องดูก่อนค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็มีละครเข้ามาเยอะมาก ก็อาจจะรับไปเรื่อยๆ ก่อน แล้วก็ค่อยๆ โยกย้ายไป (หัวเราะ)”
       
       เผยประทับใจฝ่ายชายที่เป็นคนดี ให้เกียรติ และมีความพยายามมากในการเอาชนะใจตน
       “ความประทับใจในตัวเขาเหรอ (ยิ้ม) คือเขาพยายามมากนะคะตอนที่คบกันใหม่ๆ เขามาหาเราที่นี่ แต่ตอนนั้นรู้เลยว่ามันไม่เวิร์กหรอกเพราะอยู่กันคนละประเทศ คนละศาสนาด้วย สิ่งแวดล้อมก็ไม่เหมือนกันแล้ว แต่เขาก็พยายามมาเจอเราที่นี่ แต่งเพลงให้ (ยิ้ม) พาเราไปเที่ยว ไปเปิดหู เปิดตา เพราะตัวแองจี้เองพ่อแม่ก็ค่อนข้างเข้มงวดพอสมควร ไม่ค่อยให้ไปไหน เราเองก็ทำงานตลอด เขาก็เลยพาเราไปเปิดหู เปิดตา พาไปต่างประเทศ พาไปเที่ยว เขาให้เกียรติเรา คือเขาเป็นคนน่ารักน่ะค่ะ (ยิ้ม) กินส้มตำได้ (หัวเราะ) ไม่ถือตัวเลย และเป็นคนดีค่ะ เป็นผู้ชายที่ดีมาก (ยิ้ม) เขาก็พยายามอยู่ 6 เดือนนะ แต่คบกันมา 9 ปีแล้วนะคะ ก็ถึงเวลาแล้วค่ะ (ยิ้ม)”
 

“แองจี้” กรี๊ดแตกแฟนคุกเข่าขอแต่งงาน จ่อลาวงการปักหลักคูเวตถาวร

http://www.manager.co.th

.



Latest





เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้ที่ “นโยบายการใช้คุกกี้”   ยอมรับ   นโยบายการใช้คุกกี้ X